หัวหน้าชุดปฏิบัติการพญาเสือ เผยเสือดำเหยื่อนายเปรมชัย กรรณสูต ถูกยิง 2 ครั้ง จาก 2 คน ก่อนสิ้นใจ เชื่อเป็นการเข้าไปล่าสัตว์โดยเฉพาะ จากอาวุธปืนและอุปกรณ์ที่พบ และสถานที่ตั้งเต็นท์
วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2561 รายการต่างคนต่างคิด ทางช่อง Amarin TV รายงานบทสัมภาษณ์ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าชุดปฏิบัติการพญาเสือ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ถึงกรณี นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) พร้อมพวกอีก 3 คน คือ นายยงค์ โดดเครือ, นางนที เรียมแสน และนายธานี ทุมมาศ ถูกจับกุมตัวได้ภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก พร้อมของกลางเป็นซากสัตว์ป่าคุ้มครอง อาวุธปืนและกระสุนจำนวนหนึ่งนั้น โดยเผยว่า หัวหน้าหรือเจ้าหน้าที่ที่มีหน้าที่ในการตรวจค้นรถมีความบกพร่อง บริเวณด่านตรวจ ที่อ้างว่ามีผู้หญิงนั่งมาในรถ รวมถึงมีคนระดับผู้บริหารอยู่จึงไม่คิดว่าจะเข้ามาล่าสัตว์ป่า
นายชัยวัฒน์ เผยต่อว่า ในกรณีที่อ้างว่าคณะของนายเปรมชัยหลงทางนั้น ตนเองเชื่อว่าไม่น่าจะเป็นความจริง เนื่องจากตลอดเส้นทาง 30 กิโลเมตร เป็นเส้นทางบังคับคือด้านซ้ายมือเป็นลำห้วย และขวามือเป็นภูเขา จึงไม่สามารถออกนอกเส้นทางได้ ซึ่งคณะของนายเปรมชัย เข้าไปตั้งเต็นท์ในจุดหวงห้ามที่ไม่ให้ใครเข้าไปพักแรมหลังพระอาทิตย์ตกดินจนถึงรุ่งเช้า ตนเองเชื่อว่าสาเหตุที่กลุ่มของนายเปรมชัยเข้าไป เนื่องจากทราบดีว่าจุดดังกล่าวเป็นจุดที่มีสัตว์ป่า
โดยวันที่เข้าตรวจค้นและจับกุม เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นถึง 2 ครั้ง ซึ่งในครั้งที่ 2 มาจากการที่ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น และเมื่อเข้าไปตรวจสอบกลับพบเพียงนายเปรมชัย, นายยงค์ และนางนที ก่อนจะติดตามจับกุมตัวนายธานี ได้ภายหลัง พร้อมปืนลูกซองแฝด ซึ่งจากการสันนิษฐานเบื้องต้น คาดว่า นายธานี และนายยงค์ คือผู้ที่ชำนาญในพื้นที่เนื่องจากเป็นคนจังหวัดกาญจนบุรี และอาจเป็นคนที่เคยเห็นเสือดำตัวนี้มาก่อน
ทั้งนี้ จากการตรวจค้นพบผู้ต้องหากลุ่มนี้ได้มีการตระเตรียมอาวุธปืนยาวไรเฟิล ขนาด .22 มม. ติดลำกล้องเข้าไป ส่อเจตนาชัดเจนว่าจะเข้าไปล่าสัตว์ ทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้มีการจดหมายเลขทะเบียนอาวุธปืนดังกล่าวนำไปตรวจสอบ และพบเป็นชื่อของนายเปรมชัย แม้เจ้าตัวจะปฏิเสธในตอนแรก
สำหรับซากเสือดำที่พบนั้น เชื่อว่าน่าจะเป็นการถูกยิง 2 ครั้ง จาก 2 คน จนตาย เพราะจากการจำลองการยิงพบว่าเป็นการยิงมาจาก 2 มุม ซึ่งจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์ พบว่ากระสุนที่ใช้ยิงเสือดำนั้น บริเวณตัวเสือคือลูกปรายจากการใช้ปืนลูกซอง เพราะลักษณะกระสุนเป็นลูกละเอียดมาก ประมาณ 5 เม็ด แต่อีกจุดหนึ่งบริเวณศีรษะที่รูใหญ่กว่าลูกปราย คาดว่าคือ .22 มม. และการยิงนั้นเป็นการยิงของมืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญในการยิงปืน เพราะสภาพของเสือดำที่ถูกชำแหละออกมายังอยู่ในสภาพดี
การยิงเสือดำครั้งนี้ ตนเองคิดว่าเป็นเกมล่าสัตว์เพื่อความสนุกสนานและนำมากิน ยิ่งได้สัตว์แปลกยิ่งมีความสนุกสนานมากขึ้น ซึ่งหลังจับกุม ที่มีคลิปเสียงหลุดออกมาเป็นช่วงที่เจ้าหน้าที่พูดตีสนิทกับผู้ก่อเหตุ เพื่อหลอกถามว่าใครเป็นคนยิงเสือดำนั้น หนึ่งเสียงในนั้น คือ นายยงค์ คนขับรถของนายเปรมชัย มีการพูดเรื่องผลประโยชน์ ขณะที่นายเปรมชัย กลับนั่งเฉย ไม่มีการพูดจาใด ๆ
นายชัยวัฒน์ ทิ้งท้ายว่า เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าไม้มีค่าตอบแทนที่ไม่สูง และก่อนที่จะมาปฏิบัติภารกิจหรือบรรจุงาน จะต้องมีอายุงานไม่น้อยกว่า 5 ปี ถ้าคนไม่รักป่าจริง ๆ ก็ไปไม่รอด เพราะบรรจุครั้งแรกอัตราเงินเดือนอยู่ที่ประมาณ 7,500 บาท เท่านั้น คนที่มาทำหน้าที่นี้จะได้รับการปลูกฝังจากครอบครัว ที่อาจจะเติบโตจากป่าไม้จริง ๆ อยู่แล้ว และมีจิตสำนึก มีอุดมการณ์ที่อยู่กับป่ามาก่อน จะรู้สึกรัก และหวงแหนทรัพยากรธรรมชาติ
ขณะที่ นายถนัด เณรจาที กำนัน ต.ชะแล อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ชาวบ้านในหมู่บ้านที่มีอาณาเขตติดกับอุทยานแห่งชาติลำคลองงู อุทยานแห่งชาติเขาแหลม อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร เผยว่า การจะเจอเสือดำแต่ละตัวได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเสือดำจะอยู่ในป่าลึก ซึ่งที่ผ่านมาตนเองก็ไม่เคยเจอ ที่เคยเจอก็จะเป็นเสือโคร่ง และประเด็นเมนูซุปหางเสือดำ ตนเองไม่เคยได้ยินมาก่อนว่ามีชาวบ้านในตำบลนิยมกินกัน
นายถนัด เผยอีกว่า ตนเองไม่คิดว่าคนอย่างนายเปรมชัย ที่มีฐานะดี จะเข้ามารังแกสัตว์ถึงข้างในป่าที่เป็นแหล่งมรดกโลกได้
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว, รายการต่างคนต่างคิด
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
