แม่ค้าในตลาดสวนหลวงเชื่อเหตุป้าทุบรถเป็นการจัดฉาก ชี้บ้านหลังนี้ไม่มีใครอยากยุ่งด้วย ขนาดแมลงวันยังไม่กล้าบินผ่าน
เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2561 รายการทุบโต๊ะข่าว Amarin TV รายงานบทสัมภาษณ์ แม่ค้าในตลาดสวนหลวง กรณีป้าทุบรถ เผยว่า บ้านของป้านั้นแค่แมลงวันยังบินผ่านไม่ได้เลย เคยมีขอทานมานั่งที่หน้าบ้านก็ถูกป้าเอาน้ำสาด ใช้เชือกกั้นไม่ให้คนเดิน ส่วนกรณีกระแสข่าวที่ว่าที่บ้านป้ามีคนป่วยแล้วมีรถมาจอดขวางทางจนคนเสียชีวิตนั้น ไม่เป็นความจริง ไม่มีใครตายในบ้านหลังนี้ ที่ผ่านมาแม่ค้าในตลาดก็จะคอยเข้าไปบอกตลอด เวลามีคนขับรถมาจอดที่หน้าบ้านป้า ว่าอย่าไปจอด จอดไม่ได้
"จ้างมาหรือเปล่า อยู่ ๆ หน้ามืดตามัวที่ไหนไม่รู้ว่าจอดตรงประตูพอดีเป๊ะเลย แล้วก็ล็อกเบรกมือด้วย คนเราอะขับรถสัญชาตญาณไม่โง่หรอก"
แม่ค้าทิ้งท้ายว่า ตนเองและแม่ค้าในตลาดมีภาระกันทุกคน ไม่ใช่บ้านป้าที่มีฐานะร่ำรวย
ขณะที่ แม่ค้าหมูในตลาดเปิ้ลมาร์เก็ต เผยว่า ตลาดนี้เปิดมานานหลายสิบปี หากถูกสั่งปิด ครอบครัวตนเองก็คงเดือดร้อน เพราะมีลูก 5 คน พ่อแม่และสามีก็ป่วย ทุกวันนี้รายได้ทั้งหมดมาจากการขายหมูในตลาด ขายที่นี่ที่เดียว หากตลาดนี้ปิดก็ไม่รู้จะไปขายที่ไหน
ด้าน นายประวิทย์ สมจิตร เจ้าของบ้านในละแวกตลาดร่มเหลือง เผยว่า ที่เลือกสร้างบ้านในพื้นที่นี้ เพื่อความสะดวกในการออกกำลังกายที่สวนหลวงฯ ซึ่งแต่ก่อนร้านค้าก็ไม่ได้เยอะขนาดนี้ เรื่องที่คนเอาของมาวางขายหน้าบ้านนั้น ก็มีบ้าง ตนเองมองว่าคนเราต้องถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน โดยตนอนุญาตให้มาขายได้เพราะตลาดร่มเหลืองเปิดแค่เสาร์-อาทิตย์ แต่มีข้อตกลงว่าขายเสร็จต้องเก็บของให้หมด ให้เรียบร้อย ให้สะอาด
นายประวิทย์ เผยอีกว่า เรื่องการจอดรถขวางหน้าบ้าน ตนมองว่าเป็นเรื่องที่คุยกันได้ เพราะก็คงไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย ๆ
ขณะเดียวกัน นางสมสิทธิ์ พิมกิตติวัฒน์ ยายเก็บเงินค่าจอดรถของตลาดสวนหลวง เผยว่า ก่อนเกิดเรื่องนี้รายได้ก็ดี เก็บคันละ 50 บาท แต่หากตลาดจะถูกสั่งปิดตนเองก็คงได้รับผลกระทบแน่ ๆ เพราะก็แก่แล้ว ไม่รู้จะไปทำงานอะไรได้ ซึ่งที่ผ่านมาส่วนใหญ่ประชาชนก็จะมาจอดรถในพื้นที่ที่จัดเตรียมไว้ จะมีวุ่นวายหน่อยก็แค่ช่วงเสาร์-อาทิตย์
ที่ผ่านมา ก็เคยมีญาติหรือคนในครอบครัวของป้าเจ้าของบ้านหลังนี้ เปิดหน้าต่างออกมา คล้ายพยายามจะมาพูดคุยกับพวกตนและคนเก็บเงิน ก็ยังดูเป็นมิตรดี แต่มาวันนี้ทำไมกลับกลายเป็นไม่พอใจพวกคนค้าขาย
ภาพและข้อมูลจาก