พ่อเลี้ยงสุดเหี้ยม ปลอมเฟซบุ๊กลวงลูกเลี้ยง ป.6 ข่มขืน แต่ไม่สำเร็จเจ้าโลกไม่แข็งตัว หลังฉีดมาแล้วเน่า ก่อนใช้ลำอ้อยฟาดจนตาย สุดสลดเจอรูปอนาจารลูกเลี้ยงในมือถือเพียบ
วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2561 ผู้สื่อข่าว หนังสือพิมพ์เสียงภูพาน รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ได้เดินทางไปที่ป่าอ้อยท้ายหมู่บ้านแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.คำใหญ่ อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ พร้อมกับควบคุมตัว นายชยุต ราระศรี หรือ หม่ำ ผู้ต้องหาคดีข่มขืนฆ่า ด.ญ.เอ (นามสมมติ) นักเรียนชั้น ป.6 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.กาฬสินธุ์ ผู้เป็นลูกเลี้ยง
อย่างไรก็ดี บรรยากาศการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ มีชาวบ้านมามุงดูมากมาย พร้อมทั้งส่งเสียงสาปแช่ง และพยายามจะรุมประชาทัณฑ์
รายงานข่าวระบุว่า เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา น.ส.บี (นามสมมุติ) แม่ของผู้ตาย และนายชยุต ได้แจ้งความไปที่ สภ.ห้วยเม็ก ว่าลูกสาวหายตัวไป ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามค้นหาจนถึงวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ก็ยังไม่พบตัว ตำรวจจึงแจ้งไปยังครอบครัว ก็ทราบว่า ด.ญ.เอ ยังไม่กลับบ้าน ทางครอบครัวเกรงว่าจะถูกลักพาตัว
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบหาเบาะแสการหายตัวไปของ ด.ญ.เอ พบข้อความแชทในเฟซบุ๊กกับผู้ต้องสงสัยที่เป็นหนุ่มหน้าตาดี แต่ด้วยข้อสงสัยว่าจะเป็นฝีมือของพ่อเลี้ยง ชุดสืบสวนจึงได้เชิญตัวนายชยุต มาสอบปากคำ ครั้งแรกในช่วงบ่ายผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ จึงได้ปล่อยตัวกลับไป แต่ได้ขอโทรศัพท์มือถือไว้ตรวจสอบ
จากการตรวจสอบโทรศัพท์ของนายชยุต พบว่ามีการถ่ายภาพอนาจารของ ด.ญ.เอ ที่นอนอยู่บนเตียง และมีการโพสต์ลงเฟซบุ๊กปลอมว่า "มีคลิปหลุดเด็กคนนี้ กับแฟนหนุ่มน้องบี ที่กำลังโด่งดังในตอนนี้ มาแรงในโลกโซเชียล ใครอยากดูทักเฟซมาแล้วบอกมาว่าอยากดู เดี๋ยวส่งให้ทางแชท" เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแกะรอยและทราบตัวว่าเจ้าของเฟซบุ๊กปลอมคือนายชยุต จึงเรียกตัวมาสอบปากคำ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ผู้ต้องหาจึงเปิดปากยอมรับสารภาพว่าลงมือฆ่าตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
จากการตรวจค้นที่บ้านผู้ต้องหา ตำรวจยังพบอาวุธปืนยาวไทยประดิษฐ์ อีก 1 กระบอก คดีนี้ตำรวจตั้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน และปิดบังซ่อนเร้นทำลายศพ กระทำอนาจารแก่เด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งอยู่ในความปกครอง และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะอันลามก มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ดำเนินคดีต่อไป
ภาพและข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก หนังสือพิมพ์เสียงภูพาน