จนท.ป่าไม้ รับกำลังหมดกำลังใจ หวั่นคดีล่าเสือดำจะเอาผิดคนก่อเหตุไม่ได้ เทียบชาวบ้านฆ่าสุนัขยังติดคุก ชาวบ้านเชื่อกรรมตามทันแน่
คดีนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) พร้อมพวก 3 คน คือ นายยงค์ โดดเครือ, นางนที เรียมแสน และ นายธานี ทุมมาศ ถูกจับกุม ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ฐานลักลอบเข้าป่าล่าสัตว์ ได้เข้ารายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ สภ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ตามหมายเรียกเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2561 นั้น
ด้าน คุณวงศ์ (นามสมมติ) เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร กล่าวว่า คดีมีความคืบหน้าก็จริง แต่เกรงว่าจะจับตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษได้ยาก ส่วนตัวมองว่า คดีจะพลิก เพราะเขามีเงิน และถ้าเป็นเช่นนั้นจริง เจ้าหน้าที่ทุกคนก็จะหมดกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ เมื่อมีคนเข้ามาล่าสัตว์ที่ทุกคนพยายามช่วยกันดูแลเอาไว้นาน 10-20 ปี แต่คนล่าสัตว์ยังลอยนวลไม่ติดคุก เปรียบเหมือนคนฆ่าสุนัขยังติดคุก แต่นี่ฆ่าสัตว์สงวน ฆ่าเสือดำ ถ้าเขาไม่ติดคุก และเราในฐานะเจ้าหน้าที่จะคิดอย่างไร หรือว่าบางที การจะไปจับใครที่ทำผิด ก็ต้องดูว่าเขามีเงินแบบนี้ไหม เพราะจับคนมีเงิน เขาก็ต้องหลุดคดีจริงหรือไม่
ขณะที่ นายโสภณ เวียงเจริญ ชาวบ้านอาสาประจำเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร เล่าว่า ตนเองทำงานมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2536 เวลาที่เข้าไปในป่า มักจะเห็นเสือดำบ่อยครั้ง ซึ่งเสือดำจะไม่ดุร้าย มักเจอเสือในพื้นที่เดิม และยังไม่เคยได้ยินใครมาแจ้งว่าโดนเสือดำทำร้าย แต่พอมาวันนี้เสือดำกลับตายลงทำให้ตนก็รู้สึกเสียใจ ส่วนการจะเอาผิดคนล่านั้น ตนมองว่าต้องหาเจ้าหน้าที่ที่มีความสามารถทำงานรัดกุมเข้ามาทำงาน และยังบอกถึงคนฆ่าเสือว่า ท่านทำอะไรไว้ ท่านต้องรับกรรมที่ทำเอาไว้
เช่นเดียวกับลุงพร (นามสมมติ) ชาวบ้านในพื้นที่ กล่าวว่า เรื่องการดำเนินคดีจะเป็นอย่างไรตนไม่ทราบ แต่ถ้าเป็นชาวบ้านไปยิงสัตว์ตายก็ต้องติดคุกตั้งแต่วันแรกแล้ว
นอกจากนี้ แหล่งข่าวระดับหัวหน้าป่าไม้ กล่าวว่า ตอนนี้แม้ว่าตำรวจอ้างว่า คลิปพูดคุยต่อรองระหว่างเจ้าหน้าที่กับบุคคลของฝั่งนายเปรมชัยหายไปแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่เป็นต้นเรื่องของเทปยังเก็บเสียงไว้ แต่สิ่งสำคัญ คือ การดำเนินคดีทั้ง 9 ข้อหา ที่ต้องการทำให้สำเร็จ และหลักฐานทั้งหมดก็มีพร้อม สมบูรณ์ เชื่อว่าอย่างไรก็เอาผิดได้ ซึ่งกระบวนการจากนี้คงเป็นของตำรวจที่จะดำเนินการต่อไป
ภาพและข้อมูลจาก
