แม้ปัจจุบันจะเป็นยุคสมัยที่มีการใช้อินเทอร์เน็ตอย่างแพร่หลาย แต่สื่อหลักที่สุดของทุกครอบครัวก็ยังคงเป็นโทรทัศน์ ซึ่งหลายครัวเรือนต่างฝากความไว้ใจให้ลูก ๆ ได้หาความบันเทิงและความรู้ในแทบทุก ๆ บ้าน และอาจจะพูดได้ว่าเป็นสิ่งที่มีความสำคัญกับพัฒนาการเด็กมากกว่าที่ผู้ปกครองคาดคิด
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ย้อนไปปี 1969 ในยุคของประธานาธิบดี ริชาร์ด นิกสัน มีการเตรียมที่จะตัดงบการกระจายสื่อโทรทัศน์ที่ไม่หวังผลกำไร ซึ่งหนึ่งในผู้ที่จะได้รับผลกระทบคือ เฟรด โรเจอร์ส นักผลิตรายการและพิธีกรรายการสำหรับเด็ก ทำให้เขาเดินทางไปกล่าวกับอนุกรรมการวุฒิสภาที่ดูแลการสื่อสาร ถึงประโยชน์ที่เขาสามารถทำเพื่อเด็ก ๆ ผ่านรายการ ซึ่งส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการโทรทัศน์ของสหรัฐฯ
เดิมที วุฒิสภาปาสตอเร่ ประธานคณะกรรมการผู้ดูแลการเรื่องงบประมาณ ไม่ได้มีท่าที่จะสนใจการกลับไปเพิ่มงบมากนัก แต่เมื่อมาถึงการขึ้นกล่าวของ โรเจอร์ส ทางผู้ผลิตรายการเด็ก ได้กล่าวว่า สิ่งแรกที่เด็กทุกครอบครัวเรียนรู้คือการ "เชื่อใจ" และเขาเชื่อใจว่า วุฒิสภาปาสตอเร่ คงจะใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที ในการอ่านแถลงการณ์ของเขาจบได้ ซึ่งเป็นประเด็นที่สำคัญอย่างมากเกี่ยวกับการสร้างรายการที่เหมาะสมให้กับเด็ก ๆ
ด้าน วุฒิสภาปาสตอเร่ ได้ย้อนถาม โรเจอร์ส ว่า หากตนอ่านแถลงการณ์นี้จะทำให้พอใจแล้วใช่หรือไม่ แต่ทาง โรเจอร์ส บอกว่า เขาวันนี้เขาไม่ได้จะมาอ่านให้ฟัง แต่จะมาเล่าเรื่องราวจากประสบการณ์ที่ตนได้สัมผัสและมุมมองเกี่ยวกับแวดวงรายการโทรทัศน์สำหรับเด็กให้ได้รับรู้
ด้าน วุฒิสภาปาสตอเร่ ได้ย้อนถาม โรเจอร์ส ว่า หากตนอ่านแถลงการณ์นี้จะทำให้พอใจแล้วใช่หรือไม่ แต่ทาง โรเจอร์ส บอกว่า เขาวันนี้เขาไม่ได้จะมาอ่านให้ฟัง แต่จะมาเล่าเรื่องราวจากประสบการณ์ที่ตนได้สัมผัสและมุมมองเกี่ยวกับแวดวงรายการโทรทัศน์สำหรับเด็กให้ได้รับรู้
ภายหลังจากที่ โรเจอร์ส ได้กล่าวด้วยความจริงใจเป็นเวลาสั้น ๆ แค่ 6 นาที เขาก็สามารถเปลี่ยนแปลงแนวคิดการตัดงบรายการโทรทัศน์ที่ไม่หวังผลกำไรได้สำเร็จ นอกจากนี้ วุฒิสภา ยังได้มีการเพิ่มงบให้มากขึ้นในอีก 2 ปีต่อมาอีกด้วย
ทั้งนี้การกล่าวที่จับใจของ โรเจอร์ส นั้นยังคงเป็นที่ชื่นชมและชวนให้ทุกคนหันมาตระหนักให้ความสำคัญกับการปลูกฝังสิ่งดี ๆ ต่อเด็ก ๆ ได้เป็นอย่างดี