นางสายไหม อาจารย์คู่กรณีน้องแบม หรือนางสาวปณิดา เผยเสียใจที่ลูกศิษย์เข้าใจเจตนาผิด ยันไม่ได้ทุบหลังแค่ตีไหล่ 1 ที พร้อมแจ้งจับเพจดัง หลังโจมตีจนเสียชื่อเสียง
ข่าวการเปิดโปงคดีโกงเงินคนยากไร้ และผู้ป่วยโรคเอดส์ ของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งขอนแก่น ที่น้องแบม หรือ นางสาวปณิดา ยศปัญญา นักศึกษาชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส.) ออกมาแฉเรื่องราวให้สังคมได้รู้ แต่กลับถูกปิดกั้นจากอาจารย์ในมหาวิทยาลัย โดยการสั่งให้ไปขอโทษหน่วยงานดังกล่าว รวมถึงถูกทำร้ายด้วยการทุบที่หลัง ตามที่มีรายงานไปแล้วนั้น (อ่านข่าว : เล่าทั้งน้ำตา...น้องแบม เผยนาทีก้มกราบคนผิด เสียความรู้สึกกับอาจารย์ที่เคารพรัก)
โดย นางสาววชิราภรณ์ วรรณโชติ อาจารย์ที่ปรึกษาของน้องแบม เผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีผลหรือมีปัญหาแน่นอน พร้อมยืนยันว่ารายงานการฝึกงานของน้องแบม เป็นไปได้ด้วยดี ซึ่งตอนนี้อยู่ในช่วงเก็บข้อมูล เนื่องจากมีการเปลี่ยนหัวข้อเรื่องใหม่
ขณะที่ นางสายไหม ไชยศิรินทร์ หัวหน้าภาควิชาสังคมวิทยาและมนุษยวิทยา คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม คู่กรณีของ นางสาวปณิดา ที่มีการสั่งให้กราบหน่วยงานที่ถูกเปิดโปง รวมถึงทำร้ายร่างกายด้วยการทุบหลัง เปิดเผยว่า เรื่องราวดังกล่าวถูกบิดเบือนความจริง ซึ่งการกราบไหว้เป็นเพียงการขอโทษเพื่อให้การฝึกงานที่เหลืออีกไม่กี่สัปดาห์เป็นไปอย่างราบรื่น เพราะตอนนั้นตนก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นคนโกงหรือคนทุจริตหรือไม่ ตนให้ขอโทษก็มีนิสิตไปกราบที่อก ไปกราบที่ตัก และมีการโอบกอดกันกับเจ้าหน้าที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งที่เป็นอาจารย์ภาคสนาม และร้องไห้เพราะตื้นตันใจ ส่วนนางสาวปณิดา ตนจำไม่ได้ว่าเขากราบตรงไหน ตนยืนยันว่าไม่ได้มีการบังคับหรือขู่เข็ญ
หลังการเข้าพบเจ้าหน้าที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดขอนแก่น จนเวลาผ่านมา 3 เดือน นางสาวปณิดา ได้มาแจ้งกับตนภายในห้องภาควิชาว่า เจ้าหน้าที่รัฐมีการนัดให้เพื่อนนิสิตเข้าให้ปากคำเกี่ยวกับการทุจริตเงินสงเคราะห์ ซึ่งตนมองว่าการสอบถามไม่ได้รับรายละเอียดที่ชัดเจนจึงใช้มือตีที่หัวไหล่ 1 ครั้ง ไม่ได้เป็นการทุบหลังแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ตนยอมรับว่าเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะส่วนตัวแล้วตนก็สนิทกับนางสาวปณิดา ตนเป็นคนสัมภาษณ์เขาเข้ามาเรียน คอยช่วยเหลือในการเรียนและกิจกรรมต่าง ๆ รวมถึงเคยไปส่งที่บ้าน สอนขับรถ และก็เคยไปเที่ยวด้วยกัน แต่นางสาวปณิดา กลับเข้าใจเจตนาของตนผิดไป
อย่างไรก็ตาม หลังให้สัมภาษณ์ นางสายไหมได้เดินทางเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขวาใหญ่ อ.เมือง จ.มหาสารคาม กับผู้ใช้งานเฟซบุ๊กชื่อ Tee Thepna และ Bongkoch Chomsiri และเพจเฟซบุ๊กปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน ด้วย
ภาพและข้อมูลจาก Thai PBS
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก