
เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2561 เว็บไซต์นิวยอร์กเดลีนิวส์ เผยเรื่องราวของ แซม บัลลาร์ด ชายออสเตรเลียวัย 28 ปี จากนครซิดนีย์ อดีตเขาเคยเป็นนักกีฬารักบี้ แต่ปัจจุบันชีวิตของเขาเปลี่ยนผันไปอย่างสิ้นเชิง หลังตัดสินใจผิดพลาดครั้งใหญ่ รับคำท้าจากเพื่อนในงานปาร์ตี้ ให้กินทากในสวน เป็นเหตุให้เขาต้องกลายเป็นอัมพาตเป็นผู้พิการตลอดชีวิต

การติดเชื้อดังกล่าว ส่งผลให้แซมต้องเข้ารับการรักษาเป็นกรณีพิเศษ เขาอาการโคม่านานกว่า 1 ปี หลังจากนั้น เขาได้กลายเป็นอัมพาต ไม่สามารถพูดคุยสื่อสารและไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ตลอดเวลาเกือบ 10 ปีที่ผ่านมา แซมต้องได้รับการดูแลตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งต้องมีผู้คอยดูแลเรื่องอาหาร และเฝ้าดูการหายใจของเขา แซมต้องติดท่อหลอดลมคอแบบถาวร ในบางครั้งก็จะมีอาการชักขึ้นมากระทันหัน และต้องรักษาอุณภูมิร่างกายให้คงที่อยู่เสมอ อันตรายเกิดขึ้นได้ง่ายมากสำหรับเขา เพียงแค่การไอนิดเดียว อาจทำให้เขาหายใจไม่ออกจนถึงแก่ชีวิตได้
โดยเมื่อ 2 ปีก่อน แซมมีสิทธิ์ได้รับค่าสินไหมทดแทนมูลค่า 492,000 เหรียญสหรัฐ (ราว 15 ล้านบาท) จากโครงการประกันความพิการแห่งชาติ โดยหน่วยงานของรัฐที่บริหารจัดการเพื่อผู้พิการ ซึ่งมีความต้องการความช่วยเหลือทางการเงินในการดูแลสุขภาพหรือการดูแลสุขภาพจิต ทว่าภายหลังจากการตรวจสอบในเวลาต่อมา พบว่าเงินทุนช่วยเหลือของแซมถูกตัดเหลือเพียง 188,600 เหรียญสหรัฐ หรือราว 5.9 ล้านบาทเท่านั้น โดยที่ไม่มีการแจ้งเหตุผลให้กับทางครอบครัวของแซมทราบ จากเหตุดังกล่าวส่งผลให้ทางครอบครัวของแซมต้องมาประสบปัญหาด้านการเงินตามมา
เคที ผู้เป็นแม่ของแซม เผยว่า อุบัติเหตุครั้งนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้ใจสลายมาก มันเปลี่ยนชีวิตของลูกชายไปอย่างสิ้นเชิง รวมทั้งเปลี่ยนชีวิตของเธอไปอย่างถาวร มันเป็นเรื่องที่หนักหนาและส่งผลกระทบครั้งใหญ่ต่อครอบครัวอย่างที่สุด
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Katie Ballard
ข้อมูลเพิ่มเติมจาก dailymail.co.uk