ทีมทนายครอบครัวน้องเมย ยันจะสู้จนหลังชนฝา ด้านพี่สาวเผยไม่มีค่าเยียวยา 10 ล้าน


           ทีมทนายครอบครัวน้องเมย ยันจะสู้จนหลังชนฝา  ได้รับหลักฐานจากโรงเรียน ก็รับฟัง แต่จะเชื่อทั้งหมดคงไม่ได้ ด้านพี่สาวเผยไม่มีค่าเยียวยา 10 ล้าน

           วันที่ 8 มีนาคม 2561 นายพิเชษฐ-นางสุกัลยา และ น.ส.สุพิชา ตัญกาญจน์ ครอบครัวของน้องเมย นตท. ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ ได้ประชุมร่วมกับทีมดูแลงานกฎหมายและทีมทนายความ เพื่อเดินหน้าเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับน้องเมย ที่เสียชีวิตเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 หลังไม่ได้รับคำชี้แจงถึงสาเหตุการเสียชีวิตที่มีความชัดเจนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และได้รับคำชี้แจงจากโรงเรียนเตรียมทหารเพียงว่า เกิดจากภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน

           โดย พ.ต.อ. สุธี แพทย์รังสี ที่ปรึกษาทีมกฎหมาย เผยว่า ทีมทนายได้สรุปข้อมูลและหลักฐานทั้งหมดที่มี และทำให้รู้ว่าจากนี้จะเดินหน้าในกระบวนการยุติธรรมอย่างไร ภายใต้ประเด็นความสงสัยเรื่องการเสียชีวิตที่มีค่อนข้างมาก ขณะที่หลักฐานที่มีในมือและที่แสวงหาเพิ่มเติมเป็นอีกส่วนหนึ่งที่จะสามารถแสดงให้ศาลรับทราบและรับฟังในสิ่งที่สงสัย ควบคู่ไปกับพยานบุคคลและพยานเอกสาร ที่จะทำให้ศาลเชื่อได้ว่ามีการลงมือกระทำจริง โดยจะดำเนินการเรียกร้องความยุติธรรมควบคู่กันไปทั้ง 3 ศาล คือศาลอาญา, แพ่ง และศาลปกครอง

           พ.ต.อ. สุธี กล่าวอีกว่า จากที่ทางโรงเรียนเตรียมทหารนำภาพจากกล้องวงจรปิดมาเผยแพร่นั้น เราก็รับฟังส่วนหนึ่งจะให้เชื่อทั้งหมดคงเป็นไปไม่ได้ เช่นเดียวกับความพยายามในการแสดงความบริสุทธิ์ของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องตามที่ได้มีการแถลงข่าวไป เพราะน้องเมยเสียชีวิตมา 140 วัน ท่านทั้งหลายก็ได้นอนนิ่ง นั่งนิ่ง ยืนนิ่งกันมานานแล้ว วันนี้ท่านต้องได้ขับเคลื่อนที่จะมาเจอกันบ้าง ซึ่งนั่นหมายถึงทุกท่านที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของน้องเมย



           สำหรับระยะเวลาในการดำเนินงานนั้นขึ้นอยู่กับกระบวนการต่าง ๆ แต่แม้ว่าจะใช้เวลานานเพียงใดก็จะเดินหน้าต่อ เช่นเดียวกับที่มีผู้ต้องหาที่ถูกสั่งฟ้อง ที่ได้รับการประกันตัวไป ก็ถือว่าเป็นสิทธิ์ที่สามารถกระทำได้ แต่ทีมทนายก็มีหลักฐานในการดำเนินคดี ที่เมื่อสาวไปถึงใครก็จะดำเนินคดีกับผู้นั้นด้วย


           ส่วนการเสียชีวิตของน้องเมย ที่มีการชี้แจงว่าเสียชีวิตเพราะปัญหาสุขภาพนั้น ทางเรามีหลักฐานที่ต่างกันคือ อันดับแรก ความแตกต่างทางร่างกายเมื่อเริ่มเข้ามาในโรงเรียน กับสิ่งที่เป็นในปัจจุบัน มันค้านกันและเป็นไปไม่ได้ที่ว่า คนอ่อนแอ แล้วกองทัพจะรับเข้าไปเป็นนักเรียน น้องเมยกลับมาบ้านวิ่งเป็นระยะทาง 10 กิโลเมตร ยังไม่มีอาการเหน็ดเหนื่อยมีใครรู้ล่ะ แต่พี่น้อง พ่อแม่ เขารู้ วันนี้จึงบอกได้เลยว่าเราไม่หนักใจในการทำคดี เพราะเราไม่ได้สู้กับทหาร แต่วันนี้ลูก-หลาน เราเสียชีวิต ทหารก็ต้องย้อนกลับมาดูว่าพวกท่านได้ดูแลลูก-หลานของเราหรือยัง ที่สำคัญโรงเรียนเตรียมทหาร เป็นสถาบันหลักที่มีหน้าที่ผลิตบุคลากรรับใช้ชาติ จะมาตีรวนว่าสิ่งไม่ดีที่เกิดขึ้นต้องปกป้อง มันต้องแยกกันให้ออกเพราะสถาบันก็ต้องเป็นสถาบันต่อไป ในวันนี้เราเพียงจะเดินหน้าหาตัวคนที่รู้เห็นและเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตทั้งหมดมาดำเนินคดี



           ขณะที่ นายชวลิต แสวงทรัพย์ ผู้ประสานงานทีมทนาย ที่เผยว่า แม้ที่ผ่านมาทีมงานจะประสบปัญหาเรื่องการหาตัวพยานบุคคล แต่ก็เชื่อมั่นว่าเมื่อเข้าสู่กระบวนการในชั้นศาลแล้ว ข้อมูลเรื่องพยานบุคคลที่เคยถูกกำหนดมาว่าต้องให้ข้อมูลไปในทิศทางเดียวกัน จะคลายออกมาเอง

           ด้าน น.ส.สุพิชา เผยว่า ในวันนี้ทางครอบครัว ต้องการให้เกิดกระบวนการรับผิดชอบกับความสูญเสียที่เกิดขึ้น หมายถึงหากทางโรงเรียน ต้องการที่จะเยียวยาทางครอบครัว ก็จะต้องผ่านขั้นตอนการดำเนินการในส่วนคดีแพ่ง ที่สำคัญขณะนี้ทางครอบครัวต้องการให้โรงเรียนเตรียมทหาร ให้ความร่วมมือด้านเอกสาร โดยเฉพาะเอกสารเรื่องการสอบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการเสียชีวิตของน้องชาย


           น.ส.สุพิชา ระบุว่า ตนเคยขอไปหลายครั้งแต่ก็ได้รับเพียงการนิ่งเฉย และเราก็อยากให้ทางโรงเรียนสนใจในคำขอ และส่งมาให้เราบ้าง แทนที่จะร้องขอเอกสารจากเราอยู่ฝ่ายเดียว ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าเราได้รับการเยียวยาจากทางโรงเรียนนั้น ที่ผ่านมาเราไม่เคยได้รับการเยียวยาใด ๆ นอกจากเงิน 1 แสนบาท ซึ่งไม่รู้ว่าใช่การเยียวยาหรือไม่ เพราะทางโรงเรียนแจ้งแค่ว่า เป็นค่าทำศพ และเงินตรงนี้ ยังเก็บไว้อย่างดีไม่เคยเปิดใช้ และเมื่อมีการปล่อยข่าวว่าเราได้รับเงินเยียวยาจำนวน 10 ล้านบาท ทำให้เราเสียหายมาก

ภาพและข้อมูลจาก

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ทีมทนายครอบครัวน้องเมย ยันจะสู้จนหลังชนฝา ด้านพี่สาวเผยไม่มีค่าเยียวยา 10 ล้าน อัปเดตล่าสุด 9 มีนาคม 2561 เวลา 10:10:43 6,233 อ่าน
TOP
x close