กลายเป็นกระแสตื่นตัวอย่างมาก สำหรับการทวงความยุติธรรมให้เสือดำที่ถูกล่าในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ทำให้หลายคนลุกขึ้นมาเคลื่อนไหวผ่านช่องทางต่าง ๆ โดยเฉพาะศิลปินที่ออกมาวาดภาพเสือดำว่อนทั่วโลกออนไลน์ รวมถึงกราฟฟิตี้ตามกำแพงและสถานที่ต่าง ๆ อีกทั้งยังมีดารา-นักแสดง ต่างออกมาแสดงจุดยืนทวงความยุติธรรมด้วยนั้น (อ่านข่าว : รวมภาพเสือดำทุ่งใหญ่ฯ ศิลปะสะท้อนความอยุติธรรม เรียกร้องผ่านลายเส้น-สีสัน)
นางลีนา กล่าวอีกว่า ถึงแม้คดีนี้สังคมต้องการที่จะช่วยกันปลุกระดม แต่นายเปรมชัยก็เข้ามามอบตัวแล้ว และยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ เพราะศาลยังไม่ตัดสิน อีกทั้งยังไม่มีใครทราบผลสรุปว่านายเปรมชัยและลูกน้องเป็นผู้ยิงเสือดำหรือไม่ ส่วนศาลก็จะตัดสินตามกฎหมาย ไม่ใช่ตามกระแสสังคม อย่างโทษทารุณกรรมสัตว์ที่หลายคนออกมาเรียกร้องนั้น ก็มีบทลงโทษเพียงนิดเดียว ตนอยากให้สังคมมองไปที่ประเด็นการบุกรุกป่า และนำอาวุธปืนเข้าไปในป่า ซึ่งมีโทษร้ายแรงกว่า
อย่างการพ่นสีตามกำแพง ตนมองว่าหากต้องการรณรงค์ก็ควรทำเฉพาะในกลุ่มของตัวเอง ยิ่งศิลปินซึ่งเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ จะต้องมีวุฒิภาวะมากกว่าคนทั่วไป ตอนนี้เหมือนกับทำด้วยอารมณ์ความรู้สึก ซึ่งถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย อาจเกิดการเลียนแบบ แล้วอาจนำไปสู่การเขียนข้อความที่หมิ่นประมาทได้ อีกทั้งเสือดำก็ไม่ได้มีตัวเดียว แต่มีเป็นร้อย ๆ ตัว ซึ่งผู้ต้องหามีความเชื่อจากประเทศจีนว่า การรับประทานหางเสือดำ จะช่วยเรื่องสมรรถภาพทางเพศ จึงเข้าป่าไปเพื่อล่าเสือดำ ตนมองว่าเสือดำที่ถูกล่า มันก็เป็นแค่ตัวเดียว สังคมจะออกมารณรงค์อะไรมากมาย ถ้าอยากทำเพื่อประเทศชาติจริง ๆ ไปช่วยกันทำอย่างอื่นที่ช่วยพัฒนาประเทศก็ได้
แต่สำหรับคนที่มาด้วยใจ ก็ไม่ใช่เรื่องที่ควรจะมาพ่นสีกำแพงในที่สาธารณะให้เลอะเทอะ ซึ่งหากต้องการรณรงค์จริงก็ควรไปขออนุญาตในการชุมนุมหรือจัดประชุม ไม่ใช่ไปวาดในที่ราชการหรือเอกชน เพราะสามารถแจ้งความบุกรุกได้ อีกทั้งหากมีการวาดภาพเสือดำใกล้บริเวณที่ตั้งบริษัทของนายเปรมชัย ทางบริษัทก็สามารถแจ้งความหมิ่นประมาทได้ด้วยเช่นกัน
ภาพและข้อมูลจาก amarintv