เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2561 มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) จัดแถลงข่าวการจัดตั้งโรงพยาบาลศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ขนาด 5,000 เตียงที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและอาเซียน โดยระบุว่า ในแต่ละปี รพ.ศรีนครินทร์ มข. มีผู้ป่วยจำนวนมาก แบ่งเป็นผู้ป่วยภายนอก ประมาณ 1 ล้านคน และผู้ป่วยภายใน 50,000 คนต่อปี จากประชาชนในเขตภาคอีสาน 20 จังหวัด 22-23 ล้านคน จึงได้ขยายเตียงเป็น 1,100 เตียง แต่ก็ยังมีไม่เพียงพอ ทำให้โรงพยาบลต้องปฎิเสธผู้ป่วย
ดังนั้น เพื่อให้ผู้ป่วยเข้าถึงการรักษาสุขภาพ ทาง มข. จึงได้ขยายโรงพยาบาลรองรับการบริการมากขึ้นเป็น 5,000 เตียง เป็นโรงพยาบาลใหญ่ และมีจำนวนเตียงมากที่สุดในประเทศไทยและอาซียน โดยใช้งบประมาณ 24,500 ล้านบาท พัฒนาให้เป็นโรงพยาบาลที่ทันสมัย มีอุปกรณ์ เครื่องมือทางการแพทย์ และมีบุคลากรทางการแพทย์ที่เชี่ยวชาญในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ และโรคเฉพาะทาง ซึ่งสามารถรองรับสังคมผู้สูงอายุตามนโยบายของรัฐ
นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ประธานที่ปรึกษาโครงการจัดตั้งศูนย์การแพทย์ชั้นเลิศ กล่าวว่า ประชากรในภาคอีสาน เป็น 1 ใน 3 ของประเทศ ทำให้มีปัญหาเรื่องเตียงไม่พอ ซึ่งการขยายโรงพยาบาลศรีนครินทร์ จะช่วยแก้ปัญหาขาดแคลนเตียง ดูแลผู้ป่วยทุกระดับ ไม่แสวงหากำไร เน้นรักษาผู้ป่วยคนไทยและคนอีสาน โดยการหางบฯ ในการดำเนินการเป็นการระดมทุนเปิดรับบริจาคจากประชาชน ซึ่งผู้บริจาคจะถือเป็นสมาชิกพิเศษที่เรียกว่า กองทุนอายุวัฒนะ โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ วงเงิน 4 ล้านบาท จำนวน 500 ท่าน และวงเงิน 5 ล้านบาท จำนวน 2,000 ท่าน โดยผู้บริจาคจะได้รับตอบแทนการรักษาฟรีตลอดชีวิต จากคณะแพทย์ มข. และได้รับสิทธิ์ตามกฎหมายในการลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า และการบริจาคสามารถแบ่งเป็น 3 งวด เพื่อหักภาษี แต่สิทธิ์พิเศษจะได้รับตั้งแต่ปีแรกที่บริจาค
ด้าน รศ.นพ. ชาญชัย พานทองวิริยะกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า โครงการดังกล่าวจะเริ่มดำเนินการก่อสร้าง แบ่งออกเป็น 2 ระยะ โดยระยะแรก จำนวน 3,500 เตียง ใช้งบประมาณ 14,000 ล้านบาท คาดว่าจะใช้เวลา 2 ปีครึ่งถึง 3 ปี เมื่อดำเนินการระยะแรกเสร็จก็จะดำเนินการระยะที่ 2 ทันที ให้ครบ 5,000 เตียง ใช้งบประมาณ 10,500 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นโรงพยาบาลที่มีอาคารสูงประมาณ 20-39 ชั้น เพื่อรองรับผู้ป่วยที่มาใช้บริการ มีที่จอดรถ 1,600 คัน มีห้องผ่าตัดเพิ่ม 2-3 เท่าจากเดิม มีเตียงสำหรับผู้ป่วยวิกฤตในห้องไอซียูเพิ่มอีก 30% มีเรือนพักญาติ อาคารสนับสนุนบริการ โดยจะให้บริการแบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว แก่ผู้ป่วยทุกกลุ่ม เพราะเป็นโรงพยาบาลของรัฐ ดูแลประชาชนทุกระดับอย่างเท่าเทียมกัน
ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามารถบริจาคตามกำลังศรัทธา หรือแสดงความจำนงในการสมัครกองทุนได้ที่ เบอร์โทรศัพท์ 062-229-1555, 062-229-4555
