และล่าสุด (20 มีนาคม 2561) โจ๊ก (นามสมมุติ) ผู้เสียหายจากการถูกหลอกของเจี๊ยบ ได้มาเปิดใจกับทางรายการเจาะประเด็น ทางช่อง 8 โดยมี ต่วย ภคพงศ์ อุดมกัลยารักษ์ เป็นพิธีกรดำเนินรายการ ทั้งนี้ ยังได้เชิญ ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม และ ลีนา จังจรรจา มาพูดคุยถึงกรณีดังกล่าว
คุณโจ๊ก : รู้จักมานานมากตั้งแต่ผมอายุ 16 ปีได้ครับ เกือบ 20 ปีได้แล้ว เขาเป็นเพื่อนกับคนที่ผมรู้จัก เราก็ติดต่อกันบ้างประปราย จนช่วงเดือนสิงหาคม ปี 2560 เขาเป็นคนจีบผมก่อน บอกว่าถ้าอยากจะขอเราเป็นแฟนให้ส่งดอกไม้ไปให้ ผมก็ยังไม่ตกลง แต่เมื่อปีที่แล้วเขารุกหนักมาก และผมโสดด้วย เขาพูดประโยคที่ทำให้ผมตกลงเป็นแฟนกับเขาว่า มีคนจีบเราเยอะนะเธอไม่อยากเป็นแฟนเราเหรอ ผมก็เลยส่งดอกไม้ไปให้เขาครับ เขาเรียกผมว่า "ว่าที่แฟน" ตอนนั้นทุกอย่างมันดีหมดครับ
ตั้งแต่คุยวันแรกมีอะไรผิดสังเกตไหม ?
คุณโจ๊ก : มีครับ ขอยืมเงิน 4,000 บาท บอกว่าแม่ไม่สบายจะมาหา แม่จะไปหาหมอ ผมก็บอกว่าเดี๋ยวโอนให้ ที่ออกมาพูดวันนี้ผมไม่ได้จะเอาผิดใคร แค่อยากมาบอกเล่าประสบการณ์ ไม่ได้มีเจตนาให้ใครเสียหาย
ทำไมถึงตกลงแต่งงาน ?
คุณโจ๊ก : คือเขาเริ่มมีพฤติกรรมแปลก ๆ เหมือนกับว่าผมพูดอะไรก็จะหงุดหงิดไปหมด เหมือนว่ามีคนอื่น พฤติกรรมนิด ๆ หน่อย ๆ ก็ไม่พอใจแล้ว แล้วผมจับได้ว่าเจี๊ยบไปมีคนอื่น ไม่ใช่คนเดียวนะครับ คบซ้อนถึง 2 คน ถามเขา เขาก็ไม่ยอมรับ ผมก็เลยไปคุยกับฝ่ายชาย ฝ่ายชายบอกว่าใช่ ผมถามว่าทำไมถึงเลิกกัน เขาก็จับได้ว่าเจี๊ยบไปคบกับอีกคนนึงเหมือนกัน ตอนนั้นผมดาวน์รถให้เป็นชื่อของผม ผ่อนให้ด้วยครับ เพราะเขาบอกว่ายังมีหนี้อีกเยอะ ไม่ยังไม่พร้อมตอนนี้
มีคนเตือนเราไหม ?
คุณโจ๊ก : มีนะครับ ผมก็ไม่กล้าพูดว่าเกิดอะไรขึ้น ตอนนั้นผมคิดว่าถ้าเจี๊ยบคืนรถให้ก็จะเลิกแล้วต่อกัน เขาก็ทำตัวน่าสงสาร บอกว่าขอโอกาสแก้ตัวได้ไหม หรือจะแต่งงานกันเลยไหม อยากจะทำไรก็ทำ เขาก็ส่งการ์ดมาให้ ขอวันเดือนปี และเร่งรัดผมว่าถามแม่เรื่องแต่งงานหรือยัง เขาให้ผมออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดก่อน เดี๋ยวเสร็จงานแล้วค่อยว่ากัน จัดงานแต่ง 2 ที่ครับ ที่ศรีสะเกษและสมุทรปราการ
หลังจากนั้นมันเกิดความผิดปกติอย่างไร ?
คุณโจ๊ก : หลายอย่างเลยครับ ขอเงินไปซื้อทองเองที่เป็นสินสอดนะครับ ก็เลยบอกให้แม่คุยครับ ให้ไปซื้อที่เยาวราชด้วยกัน ถ้าผมคุยเหมือนจะไปขัดใจเขา จะทะเลาะกัน ก่อนจะแต่งงานยังไม่ได้มีอะไร ที่ศรีสะเกษก่อนที่เราจะแต่ง ผมก็ไปแจกการ์ดกับทางบ้านเขาเลย ระหว่างนั้นเขาก็ยังคิดค่าของที่ต้องใช้ ผมก็ถามว่าจะไปไหน เขาก็บอกว่าจะไปไหนก็เรื่องของเขา ขอกุญแจห้องหน่อย เขาบอกว่าห้องเขาไม่ใช่ห้องของผม จะไปนอนที่ไหนก็ไป ทั้งที่ของของผมก็อยู่ห้องเขาทั้งหมด งานแต่งไม่มี ทางนั้นเขาไม่จัด เขาบอกว่าเขาไม่ได้รักผมครับ
แสดงว่าที่ผ่านมาเขาไม่ได้รักเรา ?
คุณโจ๊ก : ผมไม่รู้นะว่าเขาคิดยังไง แต่ผมมีความจริงใจกับเขานะครับ เท่าที่สังเกตดูเขาจะพูดดีกับผมแค่ตอนจะขออะไรบางอย่าง ค่ารถ ค่าสร้อยทอง ทำจมูกผมก็ให้เงินเขาทำด้วย นาฬิกา รวมแล้วค่าเสียหายทั้งหมด 2 แสนกว่าบาท ผมก็เลยขอความช่วยเหลือจากแฟนเก่า เอาแฟนเก่ามาแต่งงานด้วย เพราะงานมันไม่สามารถยกเลิกได้ ผมอยากขอโทษแขกที่มาร่วมงานในวันนั้นด้วย ผมไม่ได้มีเจตนาหลอกลวง แต่งแล้วก็ให้จบไปเลย คงไม่มีใครมาโฟกัสเรื่องของเราต่อหรอก
คุณลีน่าจัง และทนายรณณรงค์ มีความเห็นว่าอย่างไร ?
คุณลีน่าจัง : ฝ่ายหญิงก็คงอยากจะหลอกเงิน เพราะดูแล้วหลอกง่าย ท่าทาง การพูดจา อายุเยอะแล้ว เหมือนคุณโจ๊กยังมีความคิดเป็นเด็กอยู่เลย นี่มานั่งสัมภาษณ์ในรายการยังพูดไม่รู้เรื่องเลย ทำไมไม่แจ้งจับในวันนั้นเลย กระทำแบบนี้มันเข้าข่ายฉ้อโกง
ทนายรณณรงค์ : เรื่องแบบนี้มีทุกปี ทั้งแต่งแล้ว ยังไม่แต่ง แต่งวันเดียวแล้วหนี มีแทบทุกเพศเลยก็ว่าได้ ครอบครัวผมก็โดนมาเหมือนกันครับ จะเป็นฉ้อโกงได้มันต้องทุจริตตั้งแต่ต้น กรณีหลอกแต่งงานส่วนใหญ่มันจะไม่เข้าข่าย แต่กรณีน้ำมนต์ที่โดนจับเข้าข่ายฉ้อโกง เพราะช่วงเวลาที่เขาไปแต่งงานกันมันมีช่วงเวลาคาบเกี่ยวตั้งแต่ต้น บุคคลที่ 1 2 3
คลิปเสียงสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ของทนายพิทยา บุญอินทร์ ซึ่งเป็นทนายความฝ่ายหญิง
คุณพิทยา : น้องเขาได้รับผลกระทบจากข้อความในเพจ เขารู้สึกไม่สบายใจที่มีข้อความออกไปว่าน้องไปหลอกแต่งงาน เรื่องหลอกไม่หลอก ขึ้นอยู่กับทั้งสองคนว่าเขาคุยกันอย่างไร ผมไม่ทราบ ผมยังไม่ได้ลงรายละเอียด ข้อความที่ลงว่าน้องหลอกแต่งงานที่ถูกแชร์ออกไป ทำให้น้องได้รับผลกระทบ โดนคนมาติดป้ายด่า เขาบอกแค่ว่าเขาไม่ได้รักครับ คงต้องคุยกันอีกหลาย ๆ ส่วนนะครับ คำว่าไม่รักนี่หมายความว่าอย่างไร เกิดจากสาเหตุอะไร ตอนที่น้องเขาเซ็นสัญญาชดใช้ค่าเสียหาย ผมก็ให้กำลังใจน้องว่ามันก็ดี ดีกว่าแต่งแล้วไปฟ้องหย่า วันที่ทำสัญญาการยกเลิกงานแต่ง พ่อแม่ของฝ่ายชายก็ดูเป็นมิตรไม่ดูว่าเป็นเหตุอะไรที่หนักหนา กำหนดชดใช้ค่าเสียหายเป็นวันที่ 25 เมษายน นี้ กรณีของน้องไปเปรียบเทียบกับน้ำมนต์ คือมีการเอาสินสอดทองหมั้นมาให้จริง แต่งานนี้มันไม่มีการแต่งงาน สินสอดน้องเขาก็ไม่ได้รับ
ทนายรณณรงค์ได้ฟังความเห็นจากคนที่เคยโดนเจี๊ยบหลอกมาเหมือนกัน
ทนายรณณรงค์ : ใช่ครับ คล้าย ๆ กันเลย แต่จะอยู่กินด้วยกันแล้ว ให้เงินเดือนทั้งหมดเลย ซื้อของให้ อะไรต่าง ๆ นานา แล้วก็เลิกกัน
โฟนอินสอบถามคุณแดง ระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช มีความเห็นว่าอย่างไร
คุณแดง : เพศไม่เสมอภาคกัน เราไม่อยากให้คนแข่งกันทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง มันขึ้นอยู่กับพื้นฐานของผลประโยชน์ที่ได้รับ อย่างกรณีนี้จะแต่งกันแล้วอีก 4 วัน มันไม่ได้มีความรักเป็นพื้นฐาน มันเล็งกันในเรื่องของผลประโยชน์มากกว่า แต่งไปก็ได้แค่นี้ก็เลยคิดว่าไม่เอาดีกว่า
ในฐานะที่คุณลีน่าจังผ่านประสบการณ์มาเยอะ
คุณลีน่าจัง : นี่เขายังไม่ได้ใช้ชีวิตความเป็นผัวเมียเลย แจ้งข้อหาหมิ่นประมาทถึงบุคคลที่ 3 ได้ แจ้งข้อหายักยอกได้ ถ้ามีผู้ชายมาเปย์ให้แบบนี้เราก็เอานะ แต่ส่วนมากมีแต่เราเปย์ผู้ชาย
ทำสัญญากันแล้วมีโอกาสได้เงินคืนไหม ?
ทนายรณณรงค์ : ตามสัญญาเลยครับ ถ้าไม่บังคับตามสัญญาก็ฟ้องร้องกันไป เรื่องขาดคนค้ำประกันไม่เกี่ยว มันเซ็นสัญญากันแล้ว
คุณยังรักเขาไหม ?
คุณโจ๊ก : ไม่ครับ ถ้าเขามาบอกว่าขอโทษเริ่มกันใหม่ ผมก็ไม่กลับ ผมให้โอกาสนั้นไปแล้วครับ พอเรามีสติแล้วมองลงไปลึก ๆ ผมมองว่ามันเป็นเรื่องของผลประโยชน์ อย่างที่เวลาเขาจะขออะไรเขาก็จะพูดดีกับผมครับ
สามารถติดตามรายการเจาะประเด็น ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 13.00-13.45 น. ทางช่อง 8 เข้มทุกเรื่องราว สุดทุกอารมณ์
ภาพและข้อมูลจาก รายการเจาะประเด็น