วันที่ 19 มีนาคม 2561 เว็บไซต์เน็กซ์ชาร์ก รายงานว่า โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในฮ่องกงได้ถูกทางการดำเนินการสอบสวน หลังต้องสงสัยว่าทำให้คนไข้ซึ่งเป็นเด็กสาววัย 15 ปี ต้องกลายเป็นอัมพาตครึ่งตัวจากความประมาททางการแพทย์
ดังนั้นแพทย์จึงแนะนำให้เธอรับการรักษาโดยการกรองพลาสมา ซึ่งเป็นกระบวนการนำพลาสมาส่วนที่ไม่ดีออกจากร่างกายของคนไข้ ส่งเม็ดเลือดที่ดีกลับคืนสู่ร่างกาย โดยให้สารชดเชยส่วนของพลาสมากลับไป จากนั้นคนไข้ก็ได้รับการกรองพลาสมาในวันที่ 16 พฤศจิกายน อย่างไรก็ตามระหว่างที่แพทย์ใส่สายสวนเข้าไปทางคอของเธอ คนไข้เกิดช็อก และมีเลือดไหลรั่วเข้าไปในช่องอก
อย่างไรก็ตามหลังจากที่แพทย์เอกซเรย์ดู ก็ได้แจ้งให้ครอบครัวคนไข้วางใจว่าเธอจะไม่เป็นอะไร ก่อนจะส่งตัวคนไข้ไปยังโรงพยาบาล Queen Elizabeth Hospital เพื่อทำการรักษาในส่วนของเลือดที่สะสมในช่องอก ซึ่งที่นั่นเองแพทย์ได้พบว่าหลอดเลือดแดงของคนไข้ได้รับความเสียหายจากการใส่สายสวน ทั้งที่กระบวนการกรองพลาสมานั้นแพทย์จะต้องใส่สายสวนเข้าไปทางหลอดเลือดดำ
เรื่องดังกล่าวทำให้ทางครอบครัวไม่สามารถทนอยู่เฉยได้ ซึ่งทาง โซเฟีย เฉิน ซุย-ฉี รัฐมนตรีกระทรวงอาหารและสุขภาพ ก็ได้ทราบเรื่องแล้วและเธอก็ได้สาบานจะให้ความช่วยเหลือตามที่ทางคนไข้และครอบครัวต้องการต่อไป พร้อมระบุว่าเรื่องดังกล่าวได้ถูกนำเข้าสู่ Hospital Authority ซึ่งเป็นหน่วยงานอิสระที่ทำหน้าที่กำกับดูแลโรงพยาบาลของรัฐแล้ว โดยจากนี้ทาง Hospital Authority จะเป็นผู้ดำเนินการสอบสวนโรงพยาบาล United Christian Hospital ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นต่อไป เพื่อให้ทางครอบครัวได้รับคำอธิบายในเรื่องดังกล่าว
ภาพจาก sohu.com