เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2561 เว็บไซต์เดลี่เมล เผยเรื่องราวของ หยู จงเลี่ยง ชายพิการหูหนวกชาวจีนวัย 39 ปี โดยเมื่อวันที่ 19 มีนาคม ที่ผ่านมา เขาได้หวนกลับมาเจอหน้าครอบครัวอีกครั้ง ภายหลังจากมีเหตุร้ายไม่คาดฝัน ทำให้ต้องพลัดพรากจากกันมานานถึง 25 ปี
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2536 จงเลี่ยง อาศัยอยู่ที่บ้านเกิดในเมืองหางโจว ประเทศจีน ตอนนั้นเขาอยู่ในวัย 14 ปี กำลังอยู่ในช่วงเติบโตเข้าสู่วัยรุ่น แต่กลับต้องเผชิญกับชะตากรรมสุดเลวร้าย ในขณะที่เขาไปเที่ยวกับครอบครัวที่เซี่ยงไฮ้ และเกิดหลงทางกันที่สถานีรถไฟ จากนั้นได้ถูกคนร้าย 2 คนลักพาตัวไป
รายงานเผยว่า แก๊งลักพาตัวได้บังคับให้จงเลี่ยงก่ออาชญากรรมด้วยการขโมยเสื้อผ้า หากเขาไม่ยอมปฏิบัติตามก็จะถูกทุบตีทำร้ายร่างกาย โดยภายหลังจากถูกลักพาตัวไปได้ประมาณ 2-3 วัน จงเลี่ยงก็แอบหนีออกมา แต่เนื่องจากเป็นผู้พิการสื่อสารกับผู้อื่นไม่เข้าใจ ทำให้เขาไม่สามารถตามหาครอบครัวได้ เขาจึงหนีมาใช้ชีวิตอยู่ข้างถนนในเมืองอี้ชาง ในมณฑลเหอเป่ย์ เป็นเวลานานถึง 10 ปี
หลังจากนั้นจงเลี่ยงได้เดินทางไปยังเมืองซีอาน ในมณฑลส่านซี และได้ไปอยู่กับชุมชนท้องถิ่นที่นั่น ทำให้เขาได้เรียนรู้การใช้ภาษามือ โดยเขาอาศัยทำอาชีพหากินอยู่ตามข้างถนน ทั้งรับจ้างขัดรองเท้าและรีไซเคิลขยะ ตกวันหนึ่งได้เงินประมาณ 20 บาท ซึ่งเขาได้ใช้ชีวิตอยู่เช่นนี้ต่อมาเป็นเวลาอีก 15 ปี
ตลอด 25 ปีที่ผ่านมา จงเลี่ยง ต้องการที่จะกลับไปหาครอบครัวอยู่เสมอ แต่สิ่งเดียวที่เขาทราบคือ มีบ้านเกิดอยู่ที่เมืองหางโจว แต่จำไม่ได้ว่าหมู่บ้านไหน จำได้เพียงว่าที่หมู่บ้านของเขานั้น ชาวบ้านมีการเพาะปลูกแห้วเป็นจำนวนมาก
จนเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2561 จงเลี่ยงตัดสินไปขอความช่วยเหลือจากหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นในเมืองหางโจว Hangzhou Metropolis Daily ภายหลังจากจงเลี่ยงได้ยินมาว่า พวกเขามีคอลัมน์ที่ช่วยติดต่อตามหาสมาชิกในครอบครัวที่หายตัวไป
ภายหลังจากได้รับการติดต่อ ทางทีมงานหนังสือพิมพ์ดังกล่าวก็ได้ออกปฏิบัติการช่วยกันสืบหาที่อยู่ของจงเลี่ยง รวมทั้งได้นำเรื่องราวของเขาไปนำเสนอในรายงานของทางช่องข่าวต่าง ๆ เพื่อช่วยตามหาครอบครัวของเขาอีกทาง
จนกระทั่งวันที่ 17 มีนาคม ที่ผ่านมา หญิงซึ่งระบุว่าเป็นพี่สาวของจงเลี่ยง ได้ติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภายหลังจากได้อ่านข่าวของจงเลี่ยงในหนังสือพิมพ์ โดยยืนยันอย่างมั่นใจว่า เขาคือน้องชายที่หายตัวไปนาน 25 ปี ทางเจ้าหน้าที่จึงดำเนินการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอ และผลก็ปรากฏออกมาว่าตรงกัน
ด้วยความร่วมมือของทางทีมงานหนังสือพิมพ์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่น ในที่สุด เมื่อวันที่ 19 มีนาคม พวกเขาได้พาตัวจงเลี่ยง เดินทางกลับไปที่บ้านเกิดที่หมู่บ้านหยางจ้วง ในนครหางโจว เพื่อพบหน้าครอบครัวเป็นครั้งแรก หลังจากที่ต้องพลัดพรากจากกันไป
ด้วยเวลาที่จากกันนานมาก ทำให้ในตอนแรกที่พบกัน จงเลี่ยงประสบความลำบากในการจำว่าใครเป็นใครกันบ้าง โดยจะเห็นว่า หยู ยู่ฮัว พี่สาวของจงเลี่ยง ก็เป็นผู้พิการหูหนวกเช่นเดียวกัน เธอได้ใช้ภาษามือสื่อสารบอกกับจงเลี่ยงว่า ผู้ชายที่ยืนตรงหน้าเขานั้น คือพ่อของเขา เขาจึงคุกเข่าก้มลงไหว้ทำความเคารพผู้เป็นพ่อพร้อมทั้งน้ำตาที่ไหลพราก ท่ามกลางความตื้นตันใจของสมาชิกในครอบครัว
จากนั้น ทั้งหมดได้พากันกลับบ้านไปหาแม่ ซึ่งป่วยหนักและรอที่จะเจอหน้าลูกชายอยู่ และแน่นอนว่าทางครอบครัวไม่ลืมที่จะกล่าวขอบคุณทั้งทางทีมงาน และเจ้าหน้าที่ด้วยความซาบซึ้งใจอย่างที่สุด ที่ทำให้พวกเขามีวันนี้ได้ราวกับปาฏิหาริย์ได้บังเกิดขึ้นจริง
ภาพจาก bannedbook.org, Docu Watch
