จากกรณีที่ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้แจ้งความดำเนินคดีในความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กับ น.ส.กนกพรรณ หมวกไสว หรือ "ฟ้า" และ น.ส.ปรวิสา รุ่งเรืองวิโรจน์ หรือ "ติ้ง" ฐานเผยแพร่ภาพลามกอนาจารเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ กระทั่งต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวฟ้าส่งศาล ซึ่งศาลได้อนุญาตประกันตัวไปแล้วนั้น (อ่านข่าว : ศาลไฟเขียวประกันตัวฟ้า กนกพรรณ คดีผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ตีราคาประกัน 1 แสน)
ส่วนการที่นายอัจฉริยะไปแจ้งความตนนั้น เพื่อหวังที่จะทำลายความน่าเชื่อถือของตน เพราะตนเป็นหนึ่งในบุคคลที่ประชาชนให้ความสนใจ เขาอาจจะตั้งใจทำให้ประชาชนเกลียดตน แต่มองว่าการที่เขาไปแจ้งความนั้นไม่ได้เตรียมข้อมูลที่ชัดเจนไปก่อน เช่น วันเวลาที่บอกว่าตนไลฟ์สดไม่ตรงกับความเป็นจริง หลังจากนี้ตนจะแจ้งความกลับ ยอมรับว่าไม่มีใครมาคอยควบคุมตนให้ออกมาโต้ตอบแทนฝ่ายครูปรีชา แต่ก็รับว่าพลาดที่มาเกี่ยวข้องกับคดีนี้ เพราะตนใจดีและขี้สงสารเกินไป
ขณะที่ ติ้ง ปรวิสา กล่าวว่า ตนโดนข้อหาเดียวกับฟ้า แต่ไม่ได้ถูกออกหมายจับ เพราะถึงแม้ตัวเองจะอยู่ในคลิปดังกล่าว แต่ไม่ได้เป็นคนเผยแพร่ภาพนั้น เนื่องจากฟ้าเป็นคนถือกล้องไลฟ์ ซึ่งยอมรับว่าคดีหวย 30 ล้าน มีส่วนทำให้ตนและฟ้าถูกแจ้งจับ
อีกทั้งตนเห็นนายอัจฉริยะโพสต์เฟซบุ๊กเพื่อเชิญชวนให้คนเข้าไปดูข้อมูลในเพจหนึ่งที่มักจะโพสต์โจมตีตน และบิดเบือนข้อเท็จจริงอยู่เสมอ และยอมรับว่า วันที่ไลฟ์สดตนลืมมองไปว่าการกระทำดังกล่าวจะผิดกฎหมาย แต่ไม่ได้เจตนา เพราะขณะนั้นพวกตนทนไม่ไหวที่ครอบครัวถูกทำให้เสียหาย พวกตนผิดส่วนไหนก็ยอมรับ แต่วันนี้สิ่งที่พวกตนออกมาพูดเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของตัวเองและครอบครัว
ด้าน นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความ เผยว่า ขั้นตอนการควบคุมตัวฟ้าที่เจ้าหน้าที่ทำนั้นเป็นไปอย่างถูกต้องตามหลักกฎหมาย ซึ่งคดีที่ฟ้าโดนนั้นขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของพนักงานสอบสวนว่าจะใช้วิธีการเข้มข้น คือการออกหมายจับทันที หรือวิธีการแบบประนีประนอม คือออกหมายเรียกก่อน ตนจึงอยากฝากถึงพนักงานสอบสวนของ ปอท. ว่า อยากให้กระทำแบบนี้เหมือน ๆ กันทุกราย สังคมจะได้รู้สึกว่ามีการบังคับใช้กฎหมายเสมอภาคกัน
นอกจากนี้ การที่ฟ้าหรือติ้ง จะแจ้งความกลับนายอัจฉริยะนั้นสามารถทำได้ แต่ก็จะต้องพิสูจน์ให้ได้ว่านายอัจฉริยะนั้นรู้อยู่ก่อนแล้วว่าเป็นความเท็จ และไปแจ้งความเพื่อให้ฟ้าและติ้งได้รับโทษ ส่วนคนที่นำคลิปของฟ้ามาเผยแพร่ซ้ำก็จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ด้วยเช่นกัน
ภาพและข้อมูลจาก