x close

หนุ่มฟอร์จูนเนอร์ ยันป่วยข้อเข่า-ไหล่ ลงเข็นรถไม่ได้ ซ้ำรถไม่มีเซ็นเซอร์ท้าย

ถอยรถชน

          หนุ่มฟอร์จูนเนอร์ในคลิปฉาว "ผมตั้งใจดัน" เปิดใจยอมรับเพราะหงุดหงิดจึงพูดแบบนั้น หลังคนถ่ายคลิปตะโกน-บีบแตรใส่ ชี้หลังเกิดเรื่องก็นอนไม่หลับ เป็นห่วงความรู้สึกพ่อแม่ และลูก ๆ

          สืบเนื่องจากที่มีการแชร์คลิปวิดีโอเหตุการณ์หนุ่มคนขับรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ป้ายแดง ถอยรถดันรถยนต์ คันหลัง เพื่อที่ตัวเองจะเข้าจอด แต่เมื่อผู้ถ่ายคลิปพูดตักเตือนไปกลับถูกสวนกลับว่า "ตั้งใจดัน" จึงนำมาซึ่งเสียงวิจารณ์อย่างมากนั้น (อ่านข่าว : แบบนี้ก็ได้เหรอ ?! หนุ่มป้ายแดงถอยรถชนคันอื่น พอเตือนเจอสวน ตั้งใจดัน)
          ล่าสุด (26 มีนาคม 2561) รายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่อง Amarin TV รายงานบทสัมภาษณ์ นายพล (นามสมมติ) ชายคนขับรถฟอร์จูนเนอร์ เปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นที่ลานจอดรถศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ตอนนั้นตนก็ไม่รู้ว่าถูกถ่ายคลิป ซึ่งตนยอมรับว่าคาดคะเนผิด และรถตนมีเพียงกล้อง ไม่มีเซ็นเซอร์ด้านหลัง ตนก็พยายามถอยให้เบาแล้ว แต่ก็ไม่ทัน รถไปชนเสียก่อน เมื่อรู้ตัวตนก็ขับเดินหน้าออกมา ส่วนคำพูดที่ตนพูดไปว่า "ตั้งใจดัน" นั้น ยอมรับว่าพูดไปเพราะหงุดหงิด ด้วยความกังวลว่ารถที่ตนชนไปจะเสียหายหรือไม่ กลับมาถูกคนที่ถ่ายคลิปตะโกนและบีบแตรใส่อีก แต่ก็เข้าใจว่าเขาคงต้องการจะบอกว่ารถตนชนแล้ว ก่อนที่เขาจะขับรถออกไป

ถอยรถชน

ถอยรถชน

          ทั้งนี้ หลังรถชนตนก็ได้ลงมาดู และพบว่ารถคู่กรณีไม่ได้มีร่องรอยความเสียหาย มีเพียงรถตนที่มีรอยบุบเล็กน้อย จึงไปเดินงานข้างในศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ต่อ โดยที่ไม่รู้ว่าคลิปตนถูกเผยแพร่อยู่ เพราะไม่มีเฟซบุ๊ก มารู้อีกทีก็ช่วงกลางคืนที่เพื่อนบ้านเอามาให้ดู ตนจึงรีบเดินทางไปลงบันทึกประจำวันที่ สน.ลุมพินี เพื่อแสดงเจตนาว่าไม่ได้ตั้งใจ และยอมรับผิดหากคู่กรณีได้รับความเสียหาย

          นายพล กล่าวต่อว่า ตนไม่ได้อยากให้เรื่องนี้เกิดขึ้น อยากขอให้สังคมเข้าใจตนบ้าง ซึ่งที่พูดไปตามในคลิปก็ด้วยความหงุดหงิดที่คนถ่ายคลิปมาใส่อารมณ์กับตน ส่วนที่มีการตั้งข้อสงสัยว่าทำไมตนถึงไม่ลงมาเข็นรถดี ๆ เป็นเพราะตนมีปัญหาที่เข่าและไหล่ซ้าย เป็นพังผืดติด ประกอบกับก่อนหน้านี้ ช่องที่ตนเข้าไปจอดมีรถคันก่อนหน้าจอดและขับออกไป ทำให้ตนคิดว่าพื้นที่คงเพียงพอให้ตนเข้าจอดได้ จึงอยากให้สังคมเข้าใจในส่วนตรงนี้ด้วย

ถอยรถชน

          อย่างไรก็ตาม หลังคลิปดังกล่าวถูกแพร่ออกไป ตนก็ไม่สบายใจ นอนไม่หลับ เป็นห่วงพ่อและแม่ กลัวว่าเขาจะไม่สบายใจ รวมถึงลูก ๆ ของตนด้วย ตนยอมรับผิดทุกอย่างและอยากขอให้เรื่องจบแค่ตรงนี้

          นายพล ทิ้งท้ายว่า ในส่วนของผู้ที่ถ่ายคลิปนั้น ตนไม่แน่ใจว่าทำได้หรือไม่ที่ถ่ายคลิปตนไปเผยแพร่โดยที่ไม่ปิดบังใบหน้า แต่ตนก็ยังไม่คิดที่จะเอาความใด ๆ แต่หากเรื่องราวนี้ทำให้ตนและครอบครัวเสียหาย ตนอาจจะเข้าร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. ต่อไป



ภาพและข้อมูลจาก


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
หนุ่มฟอร์จูนเนอร์ ยันป่วยข้อเข่า-ไหล่ ลงเข็นรถไม่ได้ ซ้ำรถไม่มีเซ็นเซอร์ท้าย อัปเดตล่าสุด 27 มีนาคม 2561 เวลา 10:23:58 87,241 อ่าน
TOP