อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา ชี้บ้านพักศาลตุลาการ ภาค 5 ไม่ได้บุกรุกป่า เหตุเป็นที่ราชพัสดุ ติงรักป่าได้แต่ต้องศึกษากฎหมาย
เป็นกรณีที่กำลังถูกวิจารณ์อย่างหนัก หลังมีภาพบ้านพักของข้าราชการตุลาการ จ.เชียงใหม่ กำลังก่อสร้างเชิงดอยสุเทพ จนเกิดการตั้งคำถามว่าเป็นการรุกล้ำเขตอุทยานหรือไม่ พร้อมทั้งให้ชะลอการสร้าง ซึ่งต่อมา พล.อ. เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก สั่งยกเลิกการชะลอก่อสร้างบ้านพักแล้ว โดยชี้หยุดโครงการไม่ได้ เพราะจะเกิดความเสียหาย เดินมาไกลแล้ว (อ่านข่าว : เห็นแล้วร้องว้าว ! ชมบ้านพักตุลาการ บนดอยสุเทพ โปรเจคท์นี้...พันล้าน (คลิป))
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 31 มีนาคม 2561 นายชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา โพสต์ข้อความผ่าน Chuchart Srisaeng โดยยกตัวอย่างว่า มีชายรายหนึ่งได้รับมรดกเป็นที่ดินติดกับป่า ซึ่งต่อมาบริเวณโดยรอบได้กลายเป็นป่าสงวนแห่งชาติ โดยเมื่อเจ้าของที่ดินเข้าไปตัดต้นไม้และก่อสร้างบ้านใกล้เสร็จ ก็กลับถูกผู้ที่มีเรื่องพิพาทหาว่าบุกรุกป่าจนถูกหลายฝ่ายประณาม และเมื่อชี้แจงว่าที่แปลงนี้เป็นกรรมสิทธิ์ของตนไม่ใช่ป่าหรือป่าสงวน บางคนก็เข้าใจ แต่บางคนก็ไม่ยอมรับฟังเหตุผลหรือหลักกฎหมายใด ๆ และยังคงตำหนิว่าเจ้าของที่ดินบุกรุกป่าทำลายป่าไม้ต่อไป
ตัวอย่างที่กล่าวมานี้ เพื่อต้องการเปรียบเทียบกับกรณีบ้านพักของข้าราชการตุลาการ จ.เชียงใหม่ กำลังก่อสร้างเชิงดอยสุเทพ ที่กำลังถูกวิจารณ์ โดย พระราชบัญญัติที่ราชพัสดุ พ.ศ. 2518 มาตรา 5 บัญญัติว่า ให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ที่ราชพัสดุ ดังนั้นแม้มีต้นไม้งอกขึ้นมาในที่ราชพัสดุและมีขนาดเดียวกับต้นไม้ในป่า ก็ไม่ทำให้ที่ราชพัสดุกลายเป็นป่าสงวนหรือเป็นป่าไปได้ ไม่ต่างจากที่ยกตัวอย่างมา และที่ราชพัสดุแปลงนี้ก็ยังเป็นกรรมสิทธิ์ของกระทรวงการคลัง จึงไม่ได้เป็นการบุกรุกป่าสงวน
ทั้งนี้ การเป็นคนรักหวงแหนป่าไม้ของชาติเป็นเรื่องที่ดี แต่ก่อนจะวิพากษ์วิจารณ์หรือตำหนิติเตียนว่ามีการกระทำผิดกฎหมาย ต้องศึกษาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายให้รู้เสียก่อนว่าความจริงเป็นอย่างไร ไม่ใช่พอมีผู้ใดนำเรื่องใดมากล่าวก็แห่ด่าว่าตามกันไปโดยที่ไม่รู้ข้อเท็จจริง
ภาพและข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Chuchart Srisaeng, ศูนย์วิจัยและพัฒนากฎหมาย คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
