แม่เศร้า ลูกชายวัย 16 ปี เสียชีวิตเหตุไฟไหม้ราชเทวีอพาร์ทเม้นท์ เผยเป็นเด็กเรียนดี ติดท็อป 5 จ.ลพบุรี เพิ่งสอบติดโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ฝันอยากเป็นหมอ ไม่คิดว่าลูกรักจะมาจบชีวิตแบบนี้้ จากกรณีเหตุไฟไหม้ราชเทวีอพาร์ทเม้นท์ ในซอยเพชรบุรี 18 เขตราชเทวี ซึ่งมีผู้พักอาศัยจำนวนมาก ทั้งชาวไทย ชาวต่างชาติ นักเรียน นักศึกษา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย โดยหนึ่งในนั้นคือ นายพีรณัฐ อินวกุล นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 วัย 16 ปี โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา เป็นชาว จ.ลพบุรี ซึ่งเป็นเด็กเรียนเก่ง ได้มาเช่าอพาร์ตเมนต์แห่งนี้ที่ชั้น 12
โดยพ่อและแม่ผู้ตาย เล่าว่า ลูกชายเพิ่งกลับมาเรียนพิเศษในช่วงปิดเทอม
ช่วงเกิดเหตุพยายามติดต่อลูกชาย แต่ติดต่อไม่ได้ จึงโทร.
ไปที่ร้านซักรีดซึ่งรู้จักกัน แต่ก็ไม่สามารถขึ้นไปดูได้
เนื่องจากอยู่ในช่วงโกลาหล ครอบครัวร้อนใจจึงตัดสินใจขับรถไปหา
แต่ระหว่างเดินทาง ตำรวจได้โทร. มาแจ้งว่าพบศพลูกชายเสียชีวิตในห้องพัก
ตอนแรกก็ไม่อยากเชื่อ แต่พอได้ดูภาพก็มั่นใจว่าเป็นลูกชายของตน
แม่ผู้ตาย
เล่าต่อว่า ลูกชายเพิ่งเข้ามาอยู่ที่อพาร์ตเมนต์ดังกล่าวเพียงแค่ 1
ปีเท่านั้น หลังจากสอบติดโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา เพราะใกล้สถานที่ศึกษา
และอาศัยอยู่เพียงคนเดียว ลูกชายเป็นเด็กเรียนดี สอบติดท็อป 5 ของ จ.ลพบุรี
มีความฝันอยากเป็นหมอ ก็ไม่คิดว่าลูกชายจะมาจบชีวิตด้วยเหตุการณ์น่าเศร้าแบบนี้
ซึ่งคิดว่าขณะเกิดเหตุลูกน่าจะหลับลึก นอกจากนี้
ทางครอบครัวยังข้องใจกับระบบเตือนภัยของอาคารที่ไม่ได้มาตรฐาน
เพราะสัญญาณเตือนไฟไม่ดัง ไฟถูกตัดทั้งอาคาร ประตูทางหนีไฟก็ถูกปิดล็อก
ซึ่งทางอพาร์ตเมนต์อ้างว่าที่ต้องปิด เพราะหลายปีก่อนมีคนกระโดดตึก
ด้านเจ้าหน้าที่ดับเพลิง
เปิดเผยกับ
เพจ อีจัน ว่า ก่อนเสียชีวิตน้องน่าจะกำลังหลบหนี
แล้วมาเจอควันจนไม่รู้จะเอาตัวรอดด้วยวิธีใด
หรือควันอาจจะหนาแน่นในพื้นที่ตรงนั้น แล้วน้องอาจจะสำลักควัน
เพราะกายภาพของน้องฟ้องชัดเจน อีกทั้งไม่มีผ้าปิดจมูกไว้
ขณะที่ผู้รอดชีวิตเล่าว่า ตนอยู่ที่ชั้น 10 เมื่อเปิดประตูห้อง
ก็เจอควันเต็มอาคารและไฟดับ เจ้าหน้าที่ให้ขึ้นไปชั้นบนจึงวิ่งตามกันไปราว
20 คน เพื่อจะไปดาดฟ้า เพราะมีคนแจ้งว่าจะมีเฮลิคอปเตอร์มารอรับ
แต่กลับพบว่าประตูชั้นดาดฟ้าล็อก ต้องรอนานครึ่งชั่วโมงก็ไม่มีคนมาช่วย
จึงตัดสินใจพากันวิ่งลงมาที่ชั้น 10 มารวมกันที่ระเบียงห้องหนึ่ง
กระทั่งมีเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยเหลือด้วยการคลานต่ำและใช้ผ้าคลุม
ต่อมาทราบว่าเฮลิคอปเตอร์ไม่สามารถลงจอดได้ เนื่องจากไม่มีที่จอด
รวมถึงสถานที่คับแคบ
ด้าน
นายกสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์
ได้ตรวจสอบโครงสร้างอาคารเบื้องต้นพบว่า มีกลุ่มควันมาจากห้องชาร์ป
(ที่รวมสายไฟในแต่ละชั้น) บริเวณชั้น 5 ของอาคาร
และมีกลุ่มควันจำนวนมากกระจายไปตามช่องเดินสายไฟทั่วอาคาร
ขณะที่ทางเขตสั่งเป็นเขตอันตราย
โดยเจ้าของอาคารต้องตรวจสอบความปลอดภัยของอาคารซ้ำภายใน 30 วัน ขณะที่ตัวแทนของอาคารได้พูดคุยกับผู้พักอาศัยว่า
เบื้องต้นจะดำเนินการคืนเงินมัดจำ 3 เดือน ให้กับผู้ประสบภัย
และมอบเงินค่าทำขวัญอีก 1 เดือน
พร้อมกันนี้ยังจัดเตรียมที่พักของอาคารที่อยู่ในเครือ
เอาไว้รองรับผู้ประสบภัยทั้งหมดแล้ว
ก่อนที่จะอนุญาตให้ผู้พักอาศัยแบ่งกันขึ้นไปเก็บข้าวของที่จำเป็นลงมา
ก่อนที่จะทยอยย้ายออกจากอาคาร
ภาพและข้อมูลจาก

,
เรื่องเล่าเช้านี้ บีอีซี-เทโร