ภายหลังจากกระแสละครบุพเพสันนิวาสฮอตฮิตกันทั่วบ้านทั่วเมือง ชุดไทยกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง หลายคนต่างพากันสวมใส่ชุดไทยไปเที่ยวยังสถานที่ต่าง ๆ กลายเป็นภาพการอนุรักษนิยมความเป็นไทยที่น่าประทับใจ ทว่าล่าสุด ก็ไม่วายเกิดเป็นกระแสดราม่าขึ้นในโลกโซเชียล เมื่อมีผู้แชร์ภาพของน้องหมาพันธุ์ไซบีเรียน ฮัสกี้ สวมใส่ชุดไทย ตามรอยละคร บุพเพสันนิวาส ลามไปจนถึง น้องนางตู้กระจก ในบริการอาบอบนวด ก็พากันสวมชุดไทย นุ่งซิ่นห่มสไบมานั่งเรียกลูกค้ากันเรียงราย ทำให้หลายคนต่างแสดงความคิดเห็นว่าไม่เหมาะสม เนื่องจากชุดไทยเป็นชุดสูงค่า บ้างก็ว่าเป็นชุดประจำชาติ ไม่ควรนำมาใส่เช่นนี้
ปกติแล้วมักจะแต่งชุดให้น้องหมาตามกระแสหรือตามเทศกาล แล้วถ่ายภาพนำไปโพสต์ให้แฟน ๆ ที่ติดตามได้ชม แต่ก่อนหน้านี้ไม่ถูกต่อว่าใด ๆ ส่วนประเด็นเรื่องที่ว่าเป็นการทรมานสัตว์นั้น เธอยืนยันว่าไม่ใช่อย่างแน่นอนเพราะใส่ให้แค่ประมาณ 20 นาที ก่อนจะถอดออก เพราะเธอรู้ดีว่าสุนัขพันธุ์นี้ขี้ร้อน ทั้งนี้อยากขอชี้แจงว่า ไม่เคยหากินกับสุนัข ทำไปด้วยเจตนาที่ดีจริง ๆ
ขณะที่ทางด้าน นายประสาท ทองอร่าม หรือ ครูมืด ผู้เชี่ยวชาญศิลปวัฒนธรรมไทย สำนักการสังคีต กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม เผยว่า ส่วนตัวมองว่า กรณีสุนัขสวมชุดไทยนั้น ชุดที่มันใส่เป็นชุดธรรมดา เป็นผ้าถุงธรรมดา และเข็มขัดเครื่องประดับธรรมดา แล้วสุนัขก็ไม่ใช่สัตว์ที่ไร้ค่าหรือด้อยอะไร สุนัข แปลว่า ผู้ที่มีเล็บงาม เป็นสัตว์ที่คุ้นเคยกับมนุษย์มานาน คนที่รักสุนัขก็อยากจะให้สัตว์เลี้ยงได้แต่งกายตามเจ้าของที่อนุรักษนิยมความเป็นไทย จึงมองว่าไม่น่าเกลียด แต่ก็ขออย่าให้เกินเลยไป
ทั้งนี้ ขอให้ตีความเรื่องชุดประจำชาติใหม่ ในสมัยก่อนหญิงไทย ชายไทยก็ไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้า ต่อมาจึงจะมีการใส่ผ้าสไบ และสวมใส่เป็นชุดขึ้นมา ชุดประจำชาติจึงต้องเป็นชุดที่เราสวมใส่กันเป็นประจำ ส่วนชุดที่ปรากฏนั้น เป็นชุดที่คนไทยเราสวมใส่ และบ่งบอกความเป็นไทยเท่านั้น แต่ถ้าจะให้พูดถึงชุดประจำชาติจริง ๆ ก็คงมีตั้งแต่ชุดไทยจักรี ชุดไทยเรือนต้น และชุดไทยอีกหลากหลายประเภท ชาวบ้านธรรมดาที่ใส่ผ้าไหมผ้าสวย ๆ ออกงาน เขาก็แต่งกันเพื่อโชว์ความสวยงามตามเทศกาลสำคัญเท่านั้นเอง
ส่วนกรณี หญิงสาวสวมชุดไทยนั่งในห้องกระจก ครูมืด กล่าวว่า ชุดไทยหากจะใส่ก็ต้องขึ้นอยู่ที่ความพอดี ความสมควร และโอกาสที่จะใช้ ต้องคิดว่าใส่ออกไปเพื่อทำอะไร อย่าเอาชุดไทยมาทำในเรื่องที่เป็นการเสื่อมเสีย แต่การสวมชุดไทยในสถานที่เช่นนั้น เพื่อให้ผู้ชายส่วนใหญ่มาเที่ยวหาความเริงรมย์ เพื่อต้องการโปรโมทเรียกลูกค้า มันไม่สมควรเป็นอย่างยิ่ง ทั้งไม่เหมาะสม และไม่ถูกกาลเทศะ และมองเป็นเชิงลบ แขกที่เที่ยวสถานที่เช่นนั้นตั้งใจไปอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่ต้องสวมชุดไทยเพื่อโปรโมทแต่อย่างใด ส่วนตัวมองว่าเป็นแค่กระแส หากหมดกระแสก็กลับมาสวมชุดวาบหวิวเหมือนเดิม
ภาพและข้อมูลจาก
, เฟซบุ๊ก YarisHusky Thailand ฮัสกี้ ไซน้อยผู้หิวโหย, Drama-addict