สุดระทึก ไฟไหม้ตึกทรัมป์ทาวเวอร์ สังเวย 1 ศพ เผยไม่มีสปริงเกอร์ดับเพลิง

          เกิดเหตุเพลิงไหม้อพาร์ตเมนต์หรู บนชั้น 50 ตึกทรัมป์ทาวเวอร์ ในนิวยอร์ก มีผู้เสียชีวิต 1 ราย รายงานเผย ไม่มีการติดตั้งระบบสปริงเกอร์ดับเพลิง

          เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2561 สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานว่า ในเวลาประมาณ 17.30 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) หน่วยดับเพลิงและกู้ภัยนิวยอร์ก ระดมกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 200 นาย เร่งไปตรวจสอบอาคารทรัมป์ทาวเวอร์ (Trump Tower) หลังได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้บนชั้น 50 ของตัวอาคาร โดยเปลวไฟโหมกระหน่ำอย่างรุนแรง กลุ่มควันจำนวนมากลอยออกมาจากหน้าต่าง สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนแม้ในระยะไกล เจ้าหน้าต้องใช้เวลานานร่วม 2 ชั่วโมง กว่าจะสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้สำเร็จ
          อาคารทรัมป์ทาวเวอร์ คือหนึ่งในตึกที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดแห่งหนึ่งในนิวยอร์ก เป็นตึกสูง 58 ชั้น ตั้งอยู่บริเวณริมถนนฟิฟท์ อเวนิว 56-57 ย่านมิดทาวน์ แมนฮัตตัน มหานิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา โดย โดนัลด์ ทรัมป์ ได้สร้างตึกนี้ในปี 2522 สมัยที่เขายังไม่ได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ตึกสร้างเสร็จสิ้นและเปิดทำการในปี 2526 โดยใช้เป็นอาคารสำนักงาน อพาร์ตเมนต์ และที่พำนักส่วนตัวของครอบครัวทรัมป์ แต่ในตอนเกิดเหตุเพลิงไหม้ ไม่มีสมาชิกคนใดในครอบครัวทรัมป์อยู่ในที่เกิดเหตุ ซึ่งประธานาธิบดีทรัมป์ ได้ทวีตข้อความถึงเหตุดังกล่าวว่า เพลิงไหม้ที่อาคารทรัมป์ทาวเวอร์ถูกควบคุมแล้ว ตึกแห่งนี้แข็งแรงมาก (สร้างมาอย่างดี) ขอบคุณเจ้าหน้าที่ดับเพลิงชายและหญิงทุก ๆ นาย ที่ทำหน้าที่อย่างยอดเยี่ยม


          จุดที่ไฟไหม้คืออพาร์ตเมนต์หรูมูลค่า 2.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 78 ล้านบาท) ของนายท็อดด์ บราสเนอร์ เศรษฐีนักสะสมศิลปะ วัย 67 ปี โดยเขาอาศัยอยู่ที่นี่มาตั้งแต่ปี 2539 ถึงแม้ว่าเขาจะล้มละลายหมดสิ้นเงินทองไปมากมายตั้งแต่ปี 2558 เขาก็ยังคงไม่ย้ายออกไปไหน รายงานระบุว่า เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปถึงอพาร์ตเมนต์ที่ไฟกำลังลุกไหม้ ท็อดด์ก็ไม่ได้สติแล้ว เจ้าหน้าที่เร่งนำตัวเขาส่งโรงพยาบาล แต่อาการของเขาสาหัสมาก และเขาก็เสียชีวิตในเวลาต่อมา ทั้งนี้ไม่พบผู้เสียชีวิตนอกเหนือจากนี้ มีเพียงเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้รับบาดเจ็บขณะปฏิบัติหน้าที่ 6 นาย แต่เคราะห์ดีที่ไม่รุนแรงมาก

          หน่วยดับเพลิงเปิดเผยว่า บริเวณอพาร์ตเมนต์ดังกล่าวไม่มีการติดตั้งระบบสปริงเกอร์ดับเพลิงแต่อย่างใด ซึ่งมันอาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้เปลวเพลิงลุกลามอย่างรุนแรงมาก แต่อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าอะไรคือสาเหตุของเพลิงไหม้ครั้งนี้ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเร่งสอบสวนให้ทราบแน่ชัดต่อไป

ข้อมูลจาก dailymail.co.uk, usatoday.com