ทนายรณณรงค์ เตือนวัยโจ๋เล่นน้ำสงกรานต์ ขืนใจสาวประแป้ง เจอคุก 3 ปี

           ทนายรณณรงค์ แนะวัยรุ่นเล่นสงกรานต์ด้วยความเป็นไทย ไม่บังคับหรือขู่เข็ญใจกัน ชี้เข้าข่ายผิดตามประมวลกฎหมาย มาตรา 309 โทษหนักจำคุก 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท

           วันที่ 9 เมษายน 2561 มีรายงานว่า ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ได้มีการโพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก ทนายคู่ใจ กล่าวถึงประเพณีไทยอย่าง เทศกาลสงกรานต์ 2561 ที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เพื่อเป็นการเตือนสติแก่บรรดาวัยโจ๋หนุ่ม-สาวทั้งหลายที่กำลังคิดที่จะออกไปเล่นสาดน้ำ สืบสานประเพณี แต่ลืมความเป็นไทย กับการถ้อยทีถ้อยอาศัย ดังจะเห็นได้ตามข่าว

           โดย ทนายรณณรงค์ ระบุข้อกฎหมายบังคับใช้เพื่อป้องกันสิทธิเสรีภาพ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 309 ผู้ใดข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


           ทั้งนี้ หากผู้กระทำโดยมีอาวุธ หรือโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป หรือได้กระทำเพื่อให้ผู้ถูกข่มขืนใจทำ ถอน ทำให้เสียหาย หรือทำลายเอกสารสิทธิอย่างใด ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และถ้ากระทำโดยอ้างอำนาจอั้งยี่หรือซ่องโจร ไม่ว่าอั้งยี่หรือซ่องโจรนั้นจะมีอยู่หรือไม่ ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-7 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000-140,000 บาท


           สำหรับข้อกฎหมายการข่มขืนใจผู้อื่น หมายถึงการบังคับให้ผู้อื่นต้องกระทำหรือไม่กระทำ หรือต้องยอมในสิ่งที่เขาไม่ต้องการ ซึ่งเป็นการลิดรอนเสรีภาพของผู้อื่น เช่น การขู่ว่าให้เขายกมือขึ้น หรือบอกว่าอย่าขยับ จะเห็นได้ว่าผู้อื่นนั้นต้องกระทำในสิ่งที่เขาไม่อยากจะทำ ไม่ได้กระทำในสิ่งที่เขาอยากทำ หรือต้องยอมในสิ่งที่ไม่อยากจะยอม เป็นการข่มขืนใจ ความผิดฐานข่มขืนใจผู้อื่น ตามมาตรา 309 เป็นความผิดที่ต้องการผล หมายความว่าหากมีการกระทำอันเป็นการข่มขืนใจแล้ว แต่ผู้ถูกข่มขืนใจไม่กระทำตาม หรือไม่หยุดการกระทำ หรือไม่ยอมตามที่ข่มขู่ จะมีความผิดเพียงแค่พยายามกระทำความผิด (ฎีกา 2436/2534) แต่ถ้าผู้นั้นยอมกระทำตาม หรือยอมตามที่ถูกข่มขู่ก็เป็นความผิดสำเร็จ (ฎีกา 1717/2527)

ภาพจาก เฟซบุ๊ก สงกรานต์สยาม

ภาพและข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก ทนายคู่ใจ