"ลุงเล็ก" ผู้เคยทำความสะอาด "กะโหลกฟอลคอน" หลังโดนทรมาน 15 วันก่อนถูกตัดหัว เผยข้อมูล ฟอลคอน-พระปีย์ ศพฝังใกล้กัน พร้อมระบุว่า เจ้าพระยาวิชาเยนทร์เป็นฝรั่งร่างเล็ก ไม่ได้สูงใหญ่
จบกันไปแล้วสำหรับละครอิงประวัติศาสตร์ "บุพเพสันนิวาส" ที่ตอนจบ (11 เมษายน 2561) เรื่องราวเป็นไปอย่างเข้มข้นโดยเฉพาะในช่วงที่ พระเพทราชา เข้ายึดอำนาจสมเด็จพระนารายณ์มหาราช และทำการสำเร็จโทษกับ "เจ้าพระยาวิชาเยนทร์" หรือ "ฟอลคอน" และ "พระปีย์"
กระทั่งได้มาพบกับ "ลุงเล็ก" ชายมีอายุมาดดีคนหนึ่ง ที่บอกว่าเป็นคนช่วยกรมศิลปากรดูแลเขตโบราณสถานวัดสันเปาโล และเคยเป็นผู้ทำความสะอาดกะโหลกศีรษะของเจ้าพระยาวิชาเยนทร์ โดยลุงเล็กเล่าให้ฟังว่า ปัจจุบันหลุมโครงกระดูกของฟอลคอนกับพระปีย์ อยู่ริมถนนตรงข้ามวัดสันเปาโล ถูกดินฝังกลบเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากอยู่ในช่วงเจรจาซื้อ-ขายที่ดินระหว่างเอกชนกับกรมศิลปากร เพื่อจะพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวประวัติศาสตร์
"ลุงเล็ก" ใช้ภาพวาดสีน้ำมันของหอดูดาวเมืองละโว้ (วัดสันเปาโล/เซนต์ปอล) ที่บาทหลวงปูโซ จากคณะเยซูอิต มอบให้หอสมุดแห่งชาติฝรั่งเศส เมื่อปี 2305 เป็นหลักฐานอธิบาย ชี้ไปที่ตัวอาคารรูปร่าง "กากบาท" หรือ "ไม้กางเขน" เชื่อกันว่าน่าจะเป็นโบสถ์คริสเตียน ที่ฝังศพของพระปีย์กับฟอลคอน โครงกระดูกทั้งคู่อยู่ในสภาพไม่มีศีรษะ ซึ่งที่มีรูปร่างใหญ่และสูงกว่า น่าจะเป็นของฟอลคอน ส่วนที่เล็กและเตี้ยกว่าน่าจะเป็นพระปีย์
จริง ๆ แล้ว เจ้าพระยาวิชาเยนทร์ ไม่ใช่คนสูงใหญ่ดังที่บางคนเข้าใจ ส่วนกะโหลกศีรษะ แม้ร่างฟอลคอนถูกฝังอยู่ไม่ไกลจากพระศพของพระปีย์ แต่ศีรษะฟอลคอนถูกตัดไปเสียบประจานไว้ ในระยะที่ห่างออกมา ดังนั้นจึงพบกะโหลกศีรษะในตำแหน่งที่ห่างออกจากโครงกระดูกหลัก และอยู่ในชั้นดินที่ตื้นกว่านั่นเอง
ส่วนหลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับการมรณกรรมของเจ้าพระยาวิชาเยนทร์และพระปีย์ แม้จะมีการให้ข้อมูลแตกต่างกันบ้าง เช่น การตัดหัวแล่เนื้อผ่าศพแยกร่างฟอลคอน แต่หลักฐานส่วนใหญ่ค่อนข้างสอดคล้องตรงกัน นั่นคือ "ฟอลคอนได้ถูกทรมานก่อนตาย" พร้อมเป็นจังหวะไล่เลี่ยเกี่ยวเนื่องกับการฆาตกรรมพระปีย์
"นพ.แกมเฟอร์" ชาวเยอรมัน ที่เข้ามาในสยามราว พ.ศ. 2233 หลังจากพระยาวิชาเยนทร์เสียชีวิตได้ 2 ปี บันทึกไว้ว่า เจ้าพระยาวิชาเยนทร์ถูกจับในวันเดียวกับพระปีย์ เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2231 จากนั้นพระเพทราชาได้ตัดศีรษะพระปีย์ก่อน แล้วโยนลงแทบเท้าพระยาวิชาเยนทร์ ขณะกำลังถูกตรึงโซ่ตรวน พร้อมกล่าวเย้ยหยันว่า "นั่นแหละ พระเจ้าอยู่หัวของเจ้า" ต่อมาพระยาวิชาเยนทร์ถูกทรมานและอดอาหาร 15 วัน จึงถูกนำไปประหาร
ผศ.ดุลยภาค กล่าวว่า แม้จะไม่สามารถชี้ชัดได้เต็มปากว่า โครงกระดูกมนุษย์ที่ถูกค้นพบเป็นของพระปีย์กับฟอลคอน แต่เทียบเวลาการเสียชีวิต ความผูกพันทางการเมือง รวมถึงอาณาบริเวณการประหารและฝังศพ ที่อยู่ในเขตรัศมี ต.ทะเลชุบศร ผมคิดว่าทั้งพระปีย์และฟอลคอน สิ้นลมทรมานในเขตทะเลชุบศรแน่นอน และเป็นไปได้ที่ศพของทั้งคู่จะถูกฝังไว้ด้วยกัน เนื่องจากนับถือศาสนาเดียวกัน หรือแม้แต่เสียบประจานไว้ที่ชุมชนสันเปาโล หากแต่ข้อสันนิษฐานนี้น้ำหนักมากน้อยขนาดไหน ต้องปล่อยให้มีการวินิจฉัยสอบสวนหลักฐานกันต่อไป
ภาพและข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Papan Wongrattanawin, กลุ่มประวัติศาสตร์หลังเที่ยงคืน #เกรียน, Dulyapak Preecharush - ดุลยภาค ปรีชารัชช
