กรมการขนส่งฯ สั่งฟันแท็กซี่ ! เพิกถอนใบอนุญาต หลังทิ้งสาวกลางมอเตอร์เวย์

          กรมการขนส่งฯ เพิกถอนใบอนุญาต แท็กซี่ทิ้งสาวกลางมอเตอร์เวย์ หลังพบยาไอซ์ในครอบครอง ชี้เป็นความผิดร้ายแรง

          เป็นประเด็นที่ถูกวิจารณ์กว้างขวางในสังคมออนไลน์ กรณีสาวผู้ใช้เฟซบุ๊ก Sukanya Saetiao ออกมาอัดคลิประบายความคับแค้นใจ หลังถูกคนขับแท็กซี่ ทะเบียน ทส-9435 ปล่อยทิ้งลงกลางมอเตอร์เวย์ หลังรับจากสุวรรณภูมิ เพื่อจะไปห้วยขวาง เหตุเพราะเธอไม่ยอมเหมาจ่ายราคา 500 บาท ก่อนที่ต่อมา ตำรวจจะสามารถจับกุม นายบุญช่วย ทิมนนท์ วัย 37 ปี โชเฟอร์ พบเสพยาไอซ์ระหว่างขับรถ แถมพยายามยัดเงินเจ้าหน้าที่แลกไม่เอาผิด สุดท้ายโดนหลายข้อหาหนัก (อ่านข่าว : รวบแล้ว แท็กซี่ทิ้งสาวกลางมอเตอร์เวย์ พบเสพยาไอซ์ แถมพยายามยัดเงินตำรวจ)
          ความคืบหน้าล่าสุด (18 เมษายน 2561) กรมการขนส่งทางบก ได้เพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ นายบุญช่วย ทิมนนท์ ทันที หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจพบมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครอง ซึ่งถือเป็นความผิดร้ายแรง และเป็นพฤติกรรมที่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของผู้ใช้บริการรถสาธารณะ จึงมีมาตรการลงโทษขั้นเด็ดขาดสูงสุด และบันทึกประวัติความผิดไว้ทั้งที่ศูนย์ข้อมูลประวัติของกรมการขนส่งทางบก และฐานข้อมูลประวัติอาชญากรรมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในส่วนความผิดเกี่ยวกับพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 กรมการขนส่งทางบก ดำเนินการเปรียบเทียบปรับตามมาตรา 5 (2) ไม่ใช้มาตรค่าโดยสาร เปรียบเทียบปรับไม่เกิน 1,000 บาท, มาตรา 57 เบญจ ไม่ส่งผู้โดยสารตามสถานที่ตามที่ได้ตกลงกันไว้ เปรียบเทียบปรับไม่เกิน 1,000 บาท มาตรา 66/5 เรียกเก็บอัตราค่าโดยสารเกิน ปรับ 5,000 บาท

          ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางบก มีมาตรการตรวจสอบพฤติกรรมการให้บริการและกวดขันจับกุมรถโดยสารสาธารณะที่กระทำความผิดอย่างเข้มข้นจริงจัง เป็นมาตรฐานเช่นเดียวกับกรณีที่มีชาวต่างชาติโพสต์คลิประบุพฤติกรรมของคนขับรถแท็กซี่ในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ขอเก็บอัตราค่าโดยสารเหมาจ่าย เมื่อผู้โดยสารปฏิเสธจึงใช้มาตรค่าโดยสาร แต่เมื่อถึงปลายทางได้เรียกเก็บอัตราค่าโดยสารสูงกว่าที่ปรากฏในมาตรค่าโดยสาร มีความผิดตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 มาตรา 66/5 ฐานเรียกเก็บอัตราค่าโดยสารเกิน ปรับ 5,000 บาท

          และจะพิจารณาพักใช้เพิกถอนใบอนุญาตขับรถ เนื่องจากพฤติกรรมดังกล่าวถือเป็นการขู่กรรโชกทรัพย์จากผู้โดยสาร อีกทั้งทำลายภาพลักษณ์ของประเทศ เร่งประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิติดตามตัวคนขับรถแท็กซี่มาดำเนินการตามกฎหมายสูงสุดทันที

ภาพและข้อมูลจาก