ใครผิดกันแน่ สาวฉุนหนุ่มคู่เดต ส่งบิลค่าอาหารมาให้จ่าย หลังไม่สานสัมพันธ์ต่อ

        หนุ่มส่งบิลค่าอาหารมื้อค่ำมาเก็บเงินจากสาวคู่เดต หลังเธอปฏิเสธไม่สานต่อความสัมพันธ์ ไม่ตอบข้อความแชทกลับ ด้านโซเชียลเถียงกันสนั่น งานนี้ใครกันแน่ที่ผิด ?

        เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2561 เว็บไซต์เดลี่เมล เผยเรื่องราวชวนหัวเสียของ อะแมนดา เบอร์เนตต์ หญิงสาวชาวอเมริกันวัย 23 ปี จากรัฐอินดีแอนา เธอได้ออกมาเผยว่า เธอได้ไปออกเดตดินเนอร์กับชายหนุ่มรายหนึ่ง (ไม่เผยชื่อ) ที่ร้านอาหารในเมืองอินเดียแนโพลิส หลังจากนั้น เธอรู้สึกว่าเธอยังไม่ถูกใจฝ่ายชาย จึงตัดสินใจไม่สานต่อความสัมพันธ์ ทว่ากลับเกิดสิ่งที่เธอคิดไม่ถึง หนุ่มคู่เดตรายนั้น ได้ส่งบิลค่าอาหารมาเรียกเก็บเงินจากเธอครึ่งหนึ่ง
        โดยภายหลังจากที่อะแมนดา ได้รับบิลดังกล่าวมา เธอรู้สึกโกรธและไม่พอใจฝ่ายชายเป็นอย่างมาก เธอนำภาพบิลดังกล่าวมาโพสต์แชร์ลงโซเชียลของเธอ พร้อมระบุข้อความว่า "ผู้ชายคนหนึ่ง ส่งบิลค่าอาหารมื้อค่ำเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนมาให้ เพราะฉันไม่ตอบข้อความเขา ฉันรับไม่ได้"  โดยบิลดังกล่าวมีรายการค่าอาหารและเครื่องดื่มทั้งหมดที่ทั้งคู่รับประทานและดื่มไปในคืนนั้น พร้อมทั้งราคาบอกกำกับไว้เสร็จสรรพ รวมทั้งสิ้น 39.52 เหรียญ (ราว 1,200 บาท)


        อย่างไรก็ดี ภายหลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ไปมากมายในสังคมออนไลน์ หลายคนไม่ได้มีความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน ส่วนที่เข้าข้างฝ่ายชายระบุว่า มันเป็นเรื่องสมควรแล้วที่อะแมนดาจะต้องแชร์ค่าอาหารกับเขา หากเธอไม่ได้อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ และไม่ใช้เวลาอธิบายเหตุผลกับเขาดี ๆ เธอทิ้งเขาโดยการไม่ตอบแชทแล้วหายไปเฉย ๆ ฝ่ายชายทำแบบนี้มันก็ถูกต้องแล้ว ยุติธรรมดี

        ขณะที่อีกฝ่าย กล่าวว่า มันก็ขึ้นอยู่กับว่าเดตของทั้งคู่เป็นไปด้วยดีไหม ฝ่ายชายอาจจะทำเรื่องที่อะแมนดาไม่ชอบใจ และเธอก็มีสิทธิ์ที่จะไม่สานต่อความสัมพันธ์ ส่วนบางคนก็บอกว่า ให้เธอส่งบิลค่าเสียเวลากลับไปให้ฝ่ายชายบ้าง อย่างไรก็ดี บางส่วนก็บอกว่า อย่าเพิ่งตัดสินอะไรเลยดีกว่า จนกว่าจะได้ฟังความจากทั้งสองฝ่าย


        ทั้งนี้ ภายหลังจากอะแมนดาถูกคอมเมนต์ต่อว่าต่าง ๆ นานา เช่น "ทำไมเธอไม่ตอบข้อความเขาล่ะ" และ "เธอก็แค่ต้องการหลอกกินอาหารฟรีเท่านั้น" อะแมนดาได้คอมเมนต์ตอบกลับชาวโซเชียลเหล่านั้นไปว่า "พวกคุณในฐานะผู้หญิง ไม่จำเป็นต้องให้อะไรผู้ชายเป็นการตอบแทนสำหรับดินเนอร์มื้อถูก ๆ นี่หรอก"

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Amanda Burnett, ทวิตเตอร์ @mandaburnett