เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2561 เว็บไซต์เดอะซัน เผยเรื่องราวของ เอวาลอน การ์เวย์ สาวชาวอังกฤษ วัย 19 ปี จากเมืองแบรดฟอร์ด ในเวสต์ยอร์กเชียร์ เรื่องราวของเธอกลายเป็นที่พูดถึงอย่างมากในโลกโซเชียล ภายหลังจากเธอตัดสินใจทิ้งแฟนหนุ่มวัยเดียวกัน เพื่อมาคบหากับ ดั๊ก เทรเซอร์ หนุ่มรุ่นใหญ่ที่อายุมากกว่าพ่อของตัวเอง พร้อมเผยว่า ความสัมพันธ์รักของทั้งคู่นั้นแฮปปี้มาก และชีวิตเซ็กส์เยี่ยมยอดแบบสุด ๆ
เอวาลอน ได้พบกับดั๊ก ซึ่งทำงานด้านไอที อยู่ที่เมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ ผ่านทางกระทู้ออนไลน์ เมื่อเดือนมิถุนายน 2559 โดยขณะนั้นเอวาลอนอายุ 17 ปี ส่วนดั๊กอายุ 44 ปี ซึ่งห่างจากเธอมาก และอายุของเขามากกว่าพ่อแท้ ๆ ของเธอเสียอีก อย่างไรก็ดี ด้วยวัยที่แตกต่างกันมากเช่นนี้ ทั้งคู่ไม่ได้มองว่าเป็นอุปสรรคต่อชีวิตรักแต่อย่างใด ทั้งสองเข้ากันได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะเรื่องดนตรี ที่ต่างพูดคุยกันถูกคอ
เอวาลอน เผยว่า ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้คุยกับดั๊กผ่านข้อความสนทนา ดั๊กก็แสดงความจริงใจด้วยการบอกอายุ และบอกว่าเขามีลูกแล้ว จากนั้นทั้งคู่ก็ค่อย ๆ พัฒนาความสัมพันธ์กันมาเรื่อย ๆ หลังจากคุยกันได้ประมาณ 2-3 เดือน ดั๊กก็บินมาหาเอวาลอนที่เวสต์ยอร์กเชียร์ ทั้งคู่ได้ไปเที่ยวด้วยกัน เธอตกหลุมรักดั๊กตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น และทั้งสองตกลงมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกันตั้งแต่ที่ไปทริปแรกด้วยกัน
"ฉันรู้เลยว่า ฉันรักเขาตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอหน้า ตอนนั้นฉันอายุ 17 ปี ซึ่งตามกฎหมายอนุญาตให้คนอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป สามารถมีเซ็กส์ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย" เอวาลอน กล่าว ทั้งนี้เธอยังได้อธิบายเกี่ยวกับเรื่องชีวิตเซ็กส์ระหว่างเธอและดั๊กว่า เวลาที่เธอและเขาอยู่ด้วยกันจะเสพสุขกันอย่างมากมายล้นเหลือ และทั้งสองแฮปปี้แบบที่สุด
เอวาลอน เผยว่า ในตอนแรกความสัมพันธ์ของเธอและดั๊กถูกวิจารณ์และถูกตัดสินจากคนอื่นที่ได้ทราบเรื่อง แต่สุดท้ายเธอก็เลือกที่จะเชื่อมั่นและซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกของตัวเอง และดั๊ก คนที่เธอรัก แม้คนอื่น ๆ จะว่าอย่างไรก็ตามแต่เพื่อนสนิทของเธอได้มีโอกาสเจอกับดั๊ก จึงเข้าใจและยอมรับ
"ฉันอยากจะบอกว่า นี่คือสิ่งที่ฉันเป็น และผู้ชายคนนี้คือคนที่ฉันรัก... ฉันไม่แคร์ว่าคนอื่นจะคิดอย่างไร นี่มันเป็นเรื่องความสัมพันธ์ของฉัน... ฉันแฮปปี้แล้วทำไมฉันจะต้องไปสนใจสิ่งที่คนอื่นคิดด้วยล่ะ" เอวาลอน กล่าว
ขณะที่ดั๊ก กล่าวทิ้งท้ายว่า "พวกเราต้องการให้โลกได้รับรู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเรา มันเป็นอะไรที่น่าอัศจรรย์อย่างที่สุดสำหรับพวกเราจริง ๆ"
ข้อมูลเพิ่มเติมจาก dailymail.co.uk