อีจัน พาย้อนรอยคดีดังสุดสะเทือนขวัญ "เปรี้ยวฆ่าหั่นศพ" ก่อนศาลอ่านคำพิพากษา ในวันที่ 10 พฤษภาคม 2561
นับเป็นคดีสุดสะเทือนขวัญ โหดเหี้ยมเป็นอย่างมาก สำหรับคดีฆ่าหั่นศพ น.ส.วริศรา กลิ่นจุ้ย หรือ แอ๋ม สาวคาราโอเกะ ซึ่งภายหลังพบว่ามือฆ่าคือ น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือ เปรี้ยว ก่อนเธอจะร่วมกับพวกหั่นศพผู้ตายเป็นสองท่อน และนำไปฝังไว้ที่ไร่อ้อยใน อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น ปมมาจากความแค้นส่วนตัว
และในวันพรุ่งนี้ (10 พฤษภาคม 2561) ศาลชั้นต้นจะนัดอ่านคำพิพากษาโทษของจำเลย ซึ่งในโอกาสนี้ อีจัน ได้เผยสกู๊ปย้อนรอยคดีดังกล่าวอีกครั้ง...คดีฆ่าหั่นศพที่คนไทยยากจะลืมเลือน
วันที่ 25 พฤษภาคม 2560 ชาวบ้าน ต.คำม่วง อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น พบชิ้นส่วนมนุษย์ถูกหั่นเป็น 2 ท่อน ฝังดินอยู่ในป่าบ้านโนนสง่า หมู่ 9 เมื่อตำรวจได้ทำการสืบสวนจึงทราบว่าผู้ตายคือ น.ส.วริศรา กลิ่นจุ้ย หรือ แอ๋ม อายุ 23 ปี สาวหน้าตาดี ทำงานอยู่ร้านคาราโอเกะ ใน จ.ขอนแก่น
พร้อมตั้งปมการสังหารโหดครั้งนี้ไว้ 3 ประเด็นคือ ขัดแย้งเรื่องส่วนตัว, ชู้สาว และถูกลวงมาฆ่าชิงทรัพย์ ก่อนเริ่มแกะรอยตั้งแต่ร้านคาราโอเกะ ตรวจกล้องวงจรปิดพบแอ๋มไปกดเงินหน้าเซเว่น โดยมีสาวทอมชื่อ น้ำฝน เป็นคนขี่มอเตอร์ไซค์ไปส่ง
เมื่อเรียก น้ำฝน มาสอบปากคำ เจ้าตัวให้การว่า ตนเองรู้จักกับแอ๋ม ผ่านเฟซบุ๊กเพียง 1 สัปดาห์ เคยเจอกัน 3-4 ครั้ง และในวันที่ 23 พฤษภาคม 2560 ประมาณตี 4 ก็ได้ไปส่งแอ๋มที่หน้าปากซอยหอของแอ๋ม แล้วก็กลับห้องพักและวิดีโอคอลหากัน ซึ่งขณะนั้นแอ๋มยังอยู่ด้านล่างหอพัก แต่หลังจากนั้นก็ติดต่อแอ๋มไม่ได้อีกเลย จนมาทราบว่าเสียชีวิต
นอกจากนี้ ตำรวจยังทราบว่า แอ๋ม สนิทสนมกับ ป๊อปปี้ สาวทอมอีกคนหนึ่งที่คบหากันมาประมาณ 3 ปี ก่อนที่แอ๋มจะไปแต่งงานกับ นายศักดิ์ชัย โดย ป๊อปปี้ เล่าว่า ตนเองติดต่อหาแอ๋มครั้งสุดท้ายเมื่อเวลา 06.22 น. ของวันที่ 23 พฤษภาคม 2560 ขณะนั้น แอ๋มบอกว่าอยู่กับเพื่อน จากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย
จากนั้นตำรวจจึงเรียกนายศักดิ์ชัย ผู้เป็นสามี มาสอบปากคำ โดยเจ้าตัวยืนยันว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยจากการสอบสวนทั้ง 3 คน ตำรวจยังไม่พบพิรุธ แต่ต่อมาตำรวจก็ได้เบาะแสเพิ่มเติมเป็นรถต้องสงสัยที่แอ๋มขึ้นจากหน้าปากซอยหอพัก จากนั้นในวันที่ 29 พฤษภาคม ก็มีการยื่นศาลขอออกหมายจับ นายวศิน, น.ส.จิดารัตน์, น.ส.ปรียานุช และ น.ส.กวิตา
ต่อมาเจ้าหน้าที่สามารถจับ นายวศิน ได้ก่อนที่ สปป.ลาว โดยนายวศิน รับสารภาพว่า รู้เห็นการฆาตกรรมแอ๋ม พร้อมบอกว่าก่อนเกิดเหตุได้เช่ารถฮอนด้า ซีอาร์วี และไปลักพาตัวแอ๋มมา โดยซัดทอดว่า เปรี้ยว ใช้ถุงพลาสติกคลุมหัวแอ๋ม และลงมือซ้อม ซึ่งขณะนั้นแอ๋ม พูดท้าทายว่า "ซ้อมเลย ถ้าไม่ตายจะมาเอาคืน" เปรี้ยวจึงบีบคอแอ๋มจนแน่นิ่งไป
หลังจากนั้นเปรี้ยวก็ให้ขับรถไปยัง อ.เขาสวนกวาง เพื่อนำศพแอ๋มไปทิ้ง โดยแวะซื้ออุปกรณ์หั่นและอำพรางระหว่างทาง ก่อนจะขับรถไปที่รีสอร์ท ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยเปรี้ยวเป็นคนลงมือหั่นศพแอ๋มแต่เพียงผู้เดียว สาเหตุมาจากแค้นที่แอ๋มเป็นสายให้ตำรวจมาจับเปรี้ยวในคดียาเสพติด
ต่อมาเจ้าหน้าที่สามารถจับตัว น.ส.จิดารัตน์ หรือ เบนซ์ ได้ หลังหนีไปกบดานอยู่ที่ จ.อุบลราชธานี โดยจากการสอบสวนเบนซ์ให้การว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆ่าแอ๋มเพราะวันเกิดเหตุอยู่ที่กรุงเทพฯ แต่ถึงแม้เธอจะไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ แต่เบนซ์เป็นคนนำทรัพย์สินของแอ๋มไปขาย และต่อมาตำรวจก็สืบจนพบผู้ร่วมก่อเหตุเพิ่มอีก 1 คนคือ น.ส.อภิวันท์ หรือ แจ้ จึงขอศาลออกหมายจับ และได้เบาะแสว่า เปรี้ยว เอิร์น และแจ้ ซ่อนตัวอยู่ในประเทศเมียนมา กระทั่งวันที่ 3 มิถุนายน เวลา 21.37 น. เจ้าหน้าที่สามารถจับแก๊งฆ่าหั่นศพได้ทั้งทีม
และในวันพรุ่งนี้ (10 พฤษภาคม) ศาลจังหวัดขอนแก่น จะทำการเบิกตัวผู้ต้องหามารับฟังคำพิพากษา ซึ่งต้องมาลุ้นกันว่าผลการพิจารณาคดีจะออกมาในรูปแบบใด
ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ของอีจัน เพิ่มเติมได้ที่ https://www.ejan.co/news
ภาพและข้อมูลจาก
