วันนี้ในอดีต 11 พฤษภาคม รำลึก แฝดสยาม "อิน-จัน" ฝาแฝดชาวไทย ที่มีชื่อเสียงดังไกลในต่างแดน และเป็นฝาแฝดตัวติดกันคู่แรกของโลก ที่สามารถดำรงชีพเหมือนคนธรรมดาได้ตลอดชีวิต แถมมีทายาทถึง 1,500 คน
หากพูดถึง "แฝดสยาม" คงไม่มีใครไม่รู้จัก "อิน-จัน" (Siamese Twins) ฝาแฝดชาวไทยที่มีชื่อเสียงโด่งดังทั่วโลก เนื่องจากไปใช้ชีวิตอยู่ที่สหรัฐอเมริกา จนได้แต่งงานกับสองสาวพี่น้องชาวอเมริกัน และมีทายาทถึง 1,500 คน และเนื่องในวันที่ 11 พฤษภาคม ของทุกปี วันถือกำเนิดแฝดสยามคู่นี้ กระปุกดอทคอม ขอย้อนเล่าประวัติความเป็นมา รวมถึงการใช้ชีวิตในต่างแดนไปจนถึงชีวิตความรัก ครอบครัว และวาระสุดท้ายของอิน-จัน
ทั้งนี้ อิน-จัน ถือเป็นฝาแฝดคู่แรกของโลกที่สามารถใช้ชีวิตเหมือนคนธรรมดาได้ตลอดชีวิต ซึ่งแตกต่างไปจากฝาแฝดตัวติดกันคู่อื่น ๆ ที่มักเสียชีวิตหลังคลอดได้ไม่นาน ทว่า ในกฎหมายสมัยนั้น ทั้งคู่เกือบจะต้องถูกประหารชีวิตเนื่องจากความเชื่อที่ว่าเป็นตัวกาลกิณี แต่ท้ายที่สุดก็ต้องยกเลิกไป เพราะไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงใด ๆ เกิดขึ้น

เมื่อทั้งคู่อายุได้แค่ 2 ขวบ พ่อก็เสียชีวิตลง ภาระจึงตกอยู่ที่แม่แต่เพียงผู้เดียว แฝดทั้งคู่จึงช่วยเหลือผู้เป็นแม่เท่าที่เด็กในวัยเดียวกันจะทำได้ จนในปี พ.ศ. 2367 ความพิเศษของเด็กทั้งคู่ทราบไปถึงพระกรรณของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้นางนากและ อิน-จัน เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท จากนั้นในปี พ.ศ. 2370 ก็มีพระบรมราชานุญาตให้ อิน-จัน เดินทางร่วมไปกับคณะทูตเพื่อเจริญสัมพันธไมตรีกับประเทศโคชินไชน่า (เวียดนามในปัจจุบัน)
กระทั่งในปี พ.ศ. 2367 มีพ่อค้าชาวต่างชาติ ชื่อ นายโรเบิร์ต ฮันเตอร์ ได้นั่งเรือผ่านแม่น้ำแม่กลอง และได้พบแฝดคู่นี้กำลังว่ายน้ำเล่นอยู่ ด้วยความประหลาดและสนใจ นายฮันเตอร์จึงคิดที่จะนำฝาแฝดคู่นี้ไปแสดงโชว์ตัวที่สหรัฐอเมริกา จึงเข้ามาทำความสนิทสนมกับครอบครัวของ อิน-จัน อยู่นานนับปี จนในที่สุดปี พ.ศ. 2372 นางนากก็ยอมให้ลูกชายทั้งสองไปประเทศสหรัฐอเมริกา

สำหรับเรื่องเพศสัมพันธ์ของ อิน-จัน กับภรรยานั้น มีรายงานระบุว่า เพื่อให้เป็นไปตามครรลองของประเพณีอันดีงาม และหลีกเลี่ยงคำครหาในยุคนั้น อิน-จัน ใช้วิธีขึงผ้าไว้ตรงกลางเวลาหลับนอนกับภรรยา กันไม่ให้อีกฝ่ายเห็นรายละเอียดของเพลงรัก เนื่องจากทั้งสองมีระบบประสาทที่แยกจากกัน จึงไม่น่าทำให้พลอยตื่นเต้นไปกับความรู้สึกต่าง ๆ นานาของอีกฝ่ายด้วย
ทั้งนี้ ด้วยความเป็นฝาแฝดของ อิน-จัน ส่งผลให้กรรมพันธุ์ดังกล่าวตกทอดสู่ทายาทในตระกูลของเขา โดยตระกูลบังเกอร์ให้กำเนิดทายาทฝาแฝดถึง 11 คู่ ทั้งหมดมีร่างกายปกติ และเหลนแฝดคู่แรกของตระกูลยังใช้ชื่อว่า อิน-จัน บังเกอร์ เหมือนบรรพบุรุษของเขา ปัจจุบันเหลนแฝดคู่นี้มีอายุ 66 ปี
จากบันทึกที่ได้บันทึกไว้ ระบุว่า จัน (คนน้อง) เป็นคนอารมณ์ร้อน หุนหันพลันแล่น และชอบดื่มเหล้าจนเมามาย ขณะที่ อิน (ผู้พี่) กลับมีนิสัยตรงกันข้าม คือ ใจเย็น สุขุมกว่า และไม่ดื่มเหล้า ทั้งคู่เคยทะเลาะวิวาทจนถึงขั้นชกต่อยกันเองมาแล้วด้วย
กระทั่งวันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2417 อิน-จัน ได้เสียชีวิตลง โดยจันเสียชีวิตไปก่อนด้วยอาการหัวใจวาย จากนั้นอีกราว 2 ชั่วโมงถัดมา อินก็ได้เสียชีวิตตามไปด้วย ซึ่งจากการชันสูตรและลงความเห็นของแพทย์สมัยใหม่ เผยว่า อินต้องสูญเสียเม็ดเลือดแดงให้แก่จันที่เสียชีวิตไปแล้ว ผ่านทางเนื้อที่เชื่อมกันที่อก

ภายหลังได้มีการสร้างอนุสรณ์สถานแฝดสยามอิน-จัน ที่ ต.ลาดใหญ่ อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานแด่ฝาแฝดสยามอิน-จัน ที่ได้สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยไปทั่วโลก ส่วนตับที่เชื่อมติดกันได้มีการเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์ Mütter ในเมืองฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย และของใช้ส่วนตัวของ อิน-จัน ได้ถูกเก็บรักษาไว้ที่ห้องสมุดของมหาวิทยาลัยนอร์ทแคโรไลนา
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ชมรมประวัติศาสตร์สยาม, ย้อนรอยประวัติศาสตร์ยุคใหม่ในสยาม
ข้อมูลจาก triptravelgang.com, ipsr.mahidol.ac.th
ภาพและข้อมูลจาก ลานธรรมจักร/พลเอก นิพัทธ์ ทองเล็ก, เฟซบุ๊ก ประวัติศาสตร์ชาติไทยก่อนและหลัง พ.ศ ๒๔๗๕, wikipedia.org






