คู่รักบิ๊กไซส์หนักกว่า 200 กก. ถูกบริษัทแท็กซี่แบน บอกทำรถพังไป 2 คันแล้ว

คู่รักบิ๊กไซส์หนักกว่า 200 กก. ถูกบริษัทแท็กซี่แบน บอกทำรถพังไป 2 คันแล้ว

          คู่รักบิ๊กไซส์สุดน้อยใจ ถูกบริษัทแท็กซี่สั่งห้ามไม่ให้ใช้บริการ บอกเพราะฝ่ายชายที่น้ำหนักตัวมากกว่า 200 กก. ทำรถพังเสียหายไป 2 คัน เจ้าตัวไม่เชื่อว่าจะเป็นจริง ชี้เป็นการเลือกปฏิบัติชัด ๆ

          เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2561 เว็บไซต์เดลี่เมล รายงานว่า มาร์คัส เอ็ดวาร์ดส์ อายุ 29 ปี และเทย์เลอร์ ฟอล์คเนอร์ อายุ 26 ปี คู่รักบิ๊กไซส์ชาวอังกฤษ จากเขตฮอดจ์ ฮิลล์ ในเมืองเบอร์มิงแฮม เกิดอาการไม่พอใจเป็นอย่างมาก ภายหลังจากถูกบริษัทแท็กซี่ Centrex Cars สั่งห้ามไม่ให้ใช้บริการ โดยระบุว่า เอ็ดวาร์ดส์ ฝ่ายชายซึ่งมีน้ำหนักตัวมากถึง 230 กิโลกรัม ทำรถของทางบริษัทเสียหายไป 2 คัน
          รายงานเผยว่า เอ็ดวาร์ดส์ และฟอล์คเนอร์ มักจะเรียกใช้บริการรถแท็กซี่ของทางบริษัทดังกล่าวบ่อย ๆ มากถึงวันละ 4 ครั้ง เพื่อเดินทางไป-กลับระหว่างบ้านกับบ้านแม่ของเอ็ดวาร์ดส์ กระทั่งเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ทั้งคู่พยายามติดต่อจองบริการรถแท็กซี่ให้มารับเช่นเดิม แต่กลับถูกทางบริษัทปฏิเสธ ด้วยเหตุผลเรื่องน้ำหนักตัวของพวกเขา

คู่รักบิ๊กไซส์หนักกว่า 200 กก. ถูกบริษัทแท็กซี่แบน บอกทำรถพังไป 2 คันแล้ว

          สำหรับ เอ็ดวาร์ดส์ หนักประมาณ 230 กิโลกรัม ในขณะที่ ฟอล์คเนอร์ หนักประมาณ 120 กิโลกรัม ซึ่งหากรวมน้ำหนักของทั้งคู่แล้วอยู่ที่ราว 350 กิโลกรัม โดยเอ็ดวาร์ดส์ เผยว่า ตนป่วยด้วยโรคอ้วน รวมทั้งมีอาการของเซลล์เนื้อเยื่อที่ขาอักเสบ ของเหลวในร่างกายมีปัญหา และมีลิ่มเลือดอุดตันที่ปอดและหัวใจ

          การตัดสินใจของทางบริษัทแท็กซี่ สร้างความน้อยเนื้อต่ำใจให้กับเอ็ดวาร์ดส์และฟอล์คเนอร์เป็นอย่างมาก ทั้งคู่เผยว่า พวกเขาเป็นลูกค้าที่ซื่อสัตย์กับทางบริษัทดังกล่าวมาเนิ่นนานถึง 5 ปีด้วยกัน ตกวันหนึ่งพวกเขาจ่ายค่าบริการให้มากกว่า 20 ปอนด์ (ราว 870 บาท) อีกทั้งพวกเขายังจองรถที่มีที่นั่งจำนวน 5 ที่นั่ง เพื่อสามารถโดยสารไปได้สะดวก ซึ่งมีราคาสูงกว่ารถแบบปกติ

          เอ็ดวาร์ดส์ กล่าวว่า "ผมอ้วนเพราะปัญหาทางสุขภาพ แต่สิ่งที่ทางบริษัทแท็กซี่ทำ เป็นการเลือกปฏิบัติต่อคนอ้วนเช่นผม ผมไม่เชื่อว่าผมจะทำรถ 2 คันดังกล่าวพัง แต่ผมคิดว่าพวกเขาแค่ต้องการไม่อยากให้คนอ้วนอย่างผมไปใช้บริการรถของพวกเขา พวกเขาควรรู้ไว้ว่าผมอ้วนเพราะผมป่วย ยังไม่นับเรื่องเงินที่พวกเขาเคยได้จากผมไปทั้งหมดอีก พวกเขาควรจะมีความละอายแก่ใจบ้าง"

          ขณะที่ทางด้าน ฟอล์คเนอร์ เผยว่า เธอมีปัญหาทางด้านสุขภาพเช่นกัน โดยเธอเป็นโรคลมชัก อันมีสาเหตุทำให้เธอมีน้ำหนักตัวเกินเช่นนี้ ซึ่งเธอเองก็รู้สึกช็อก ทั้งตกใจ และแปลกใจเป็นอย่างมาก เมื่อได้ทราบข้ออ้างจากทางบริษัทแท็กซี่ที่ระบุว่า เอ็ดวาร์ดส์ ทำรถของพวกเขาพังไป 2 คัน ในตอนแรกเธอยังนึกว่าเป็นมุกตลกเสียด้วยซ้ำ แต่เอ็ดวาร์ดส์ได้ยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง พร้อมกับบอกให้ใช้บริการกับบริษัทอื่นในครั้งหน้า

          "พวกเราทั้งรู้สึกโกรธและเสียใจต่อทัศนคติของพวกเขา พวกเรารู้สึกว่ากำลังถูกข่มเหงรังแก เหตุเป็นเพราะความอ้วน และเราก็ไม่สามารถทำอะไรได้" ฟอล์คเนอร์ กล่าว

          ขณะที่ทางด้านโฆษกของทางบริษัทแท็กซี่ดังกล่าว ได้ออกมาเผยกับสื่อ โดยปฏิเสธว่า ทางบริษัทไม่ได้สั่งห้ามเอ็ดวาร์ดส์และฟอล์คเนอร์ เพียงแต่ทางบริษัทเห็นว่า ไม่มีรถคันไหนที่เพียงพอต่อขนาดตัวของเอ็ดวาร์ดส์ เนื่องจากเขามีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นมามาก ทั้งนี้ทางโฆษกยอมรับว่า มีพนักงานขับแท็กซี่พูดถึงเรื่องที่ว่า รถมีปัญหาภายหลังจากให้บริการเอ็ดวาร์ดส์


ภาพจาก Centrex Cars, adelaidenow.com


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
คู่รักบิ๊กไซส์หนักกว่า 200 กก. ถูกบริษัทแท็กซี่แบน บอกทำรถพังไป 2 คันแล้ว อัปเดตล่าสุด 11 พฤษภาคม 2561 เวลา 12:01:42 15,040 อ่าน
TOP
x close