พ่อชาวสวิส ลั่นจะย้ายลูกรักษาห้องพิเศษ ขอจ่ายเอง คาใจอดีตภรรยาเก็บเงินบริจาค 2 ล้าน แต่ไม่เอาออกมาใช้ เผยเหตุไม่ลงรอยกัน เชื่อเป็นเพราะเคยขอให้เลิกยุ่งกับยาเสพติด
เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2561 นายมาร์เซล เลออง โบเรล พ่อของเด็กลูกครึ่ง และ น.ส.ชนันรัตน์ เพื่อนชาวไทย ได้เดินทางมาเยี่ยมอาการของ ด.ญ.ดีมา พาเมล่า โบเรล อายุ 11 ปี และ เด็กชายลูก้า ฟรองชัว โบเรล อายุ 10 ปี ที่โรงพยาบาลแพทย์ปัญญา รามคำแหง
โดย นายมาร์เซล เปิดเผยกับทีมข่าวอมรินทร์ทีวีว่า ล่าสุดอาการของลูกทั้งสองเริ่มดีขึ้นแล้ว น้องลูก้าบอกกับตนว่าอยากได้โทรศัพท์ไอโฟน ส่วนน้องดีดี้บอกว่าอยากได้หนังสือเรียนระดับมัธยม ซึ่งตนก็จะออกไปซื้อให้ ส่วนอาการของน้องชนิดา ลูกอีกคนที่ยังอยู่โรงพยาบาลรามคำแหง ล่าสุดอาการยังคงที่ แต่ชีพจรเต้นสูงขึ้นเวลาได้ยินเสียงพ่อ และมีน้ำตาไหลออกมาด้วย ก็ถือว่ายังมีความหวัง
นายมาร์เซล บอกอีกว่า การมาในวันนี้เพื่อจะทำเรื่องขอย้ายลูก ๆ ไปอยู่ห้องพิเศษ และจะขอยาดี ๆ ให้ลูก โดยค่าใช้จ่ายส่วนนี้จะนำเงินมาจากครอบครัวที่สวิสฯ และผู้ที่ร่วมบริจาค ทั้งนี้ เพื่อความโปร่งใส ตนจะเปิดบัญชีเป็นชื่อลูก และทุกครั้งที่มีการเบิกจ่ายจะนำหลักฐานไปแจ้งธนาคารให้ทราบทุกครั้ง แต่สิ่งที่กังวลมากตอนนี้ คือ ตนไม่ไว้ใจอดีตภรรยา ไม่เชื่อว่าจะสามารถดูแลลูกได้ ตนจึงออกมาจัดการเรื่องลูกเอง เพราะไม่อยากไปวัดรอบสองแล้ว
ส่วนเงินบริจาคที่ทางอดีตภรรยาได้รับมา ตนไม่ทราบว่ามีการจัดการเงินก้อนนั้นอย่างไร ซึ่งเท่าที่ทราบมาเงินบริจาคมีอยู่ประมาณ 2 ล้านบาท แต่สงสัยว่าเหตุใดไม่เอาเงินจำนวนนี้มาเป็นค่าห้องพิเศษให้ลูกบ้าง หากบอกว่าจะเอามาเป็นค่าเล่าเรียนลูก ตนมองว่าสิ่งที่ควรใช้จ่ายตอนนี้น่าจะเป็นเรื่องการรักษาตัวมากกว่า เพราะเด็ก ๆ ยังต้องรักษาตัวอีกนานหลายเดือน
นายมาร์เซล ยังกล่าวถึงสาเหตุที่ตนไม่พูดคุยกับอดีตภรรยา ทั้งที่ทั้งคู่ก็ต่างรักลูกมาก ซึ่งตนก็เคยถามตัวเองเหมือนกันว่าทำไมตลอด 3 ปี จึงคุยกันไม่ได้ เคยถามอดีตภรรยาแล้ว แต่ก็ได้รับคำตอบมาแค่ว่า เพราะผมไม่ดี หรืออาจจะเป็นเพราะอดีตภรรยาโกรธตนมาก ที่ขอให้เลิกยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด แม้จะเคยให้โอกาสกลับตัวแล้ว แต่อดีตภรรยาก็ไม่เคยปรับปรุงตัว
ภาพและข้อมูลจาก
