พล.ต.อ. อัศวิน โพสต์ชี้แจง ยันไม่เคยคิดทำลายหอศิลปฯ ถ้าประชาชนไม่เห็นด้วย กทม. ก็จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว เผยตั้งใจจะทำ co-working space พื้นที่สร้างสรรค์งานศิลป์-พบปะ
จากกรณีที่ทาง กทม. เตรียมจะนำหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานครกลับมาบริหารเอง จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์และมีกระแสคัดค้านอย่างหนัก จนกลายเป็นประเด็นร้อนในโลกโซเชียล มีการลงชื่อคัดค้านผ่านเว็บไซต์ change.org
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 14 พฤษภาคม 2561 พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้โพสต์ข้อความถึงเรื่องนี้ว่า "Ars longa vita brevis" ประโยคดังกล่าวได้รับการแปลอย่างลึกซึ้ง โดย ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี มีใจความว่า "ศิลปะยืนยาว ชีวิตสั้น" แสดงถึงความสำคัญของศิลปะ ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ต้องการสนับสนุนให้ประชาชนมีพื้นที่สาธารณะปราศจากการแทรกแซงเพื่อสร้างสรรค์งานศิลป์ ไม่ว่าจะใช้เพื่อการแสดงออก เพื่อศึกษาหรือร่วมแบ่งปันงานศิลป์ และหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เป็นหนึ่งในจุดสำคัญของประเทศที่ใช้ในการทำกิจกรรมเหล่านี้
จากการที่มีกระแสข่าวในทำนองว่า กทม. จะนำพื้นที่ในหอศิลปฯ ทั้งหมดไปทำอย่างอื่น ? หรือแม้กระทั่งนำไปทำห้างสรรพสินค้า !? รวมไปถึงแคมเปญออกมาคัดค้านการที่ กทม. จะเข้ามาบริหารจัดการหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานครด้วยตนเองนั้น ผมคงต้องตอบว่า กทม. ไม่เคยคิด และไม่มีทางที่จะทำลายสถานที่แสดงศิลปะและวัฒนธรรมของประเทศเรา เพียงแต่เราต้องการพัฒนาสถานที่แห่งนี้ให้ได้ใช้ประโยชน์สูงสุด ปัจจุบันพื้นที่บางส่วนของหอศิลปฯ ยังไม่ได้มีการใช้ประโยชน์ เราต้องการนำพื้นที่เหล่านั้นมาพัฒนาให้เกิดประโยชน์ หนึ่งในแนวทางที่อยากจะปรับปรุงก็คือ การนำพื้นที่เหล่านั้นมาปรับให้เป็นสถานที่ที่ทุกคนได้เข้ามาใช้สร้างสรรค์งานศิลป์ ทำงาน พบปะ และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น หรือที่เรียกกันว่า co-working space ในส่วนนิทรรศการก็ยังจะต้องใช้เพื่อแสดงงานศิลปะและวัฒนธรรมอย่างเดิม
แต่การที่ กทม. จะเข้าไปพัฒนาพื้นที่ส่วนที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์นั้น อาจติดด้วยระเบียบและกฎหมายการมอบกิจการให้มูลนิธิ กทม. จึงมีเป้าหมายที่จะพัฒนาพื้นที่เหล่านั้น เพื่อให้ทุกคนมีพื้นที่ที่ให้ทุกคนได้ใช้ประโยชน์ร่วมกันและดึงดูดให้ประชาชนสนใจงานศิลป์มากขึ้น สำหรับแนวทางการพัฒนานั้นอาจมีการดึงผู้ที่เกี่ยวข้องและมีประสบการณ์หรือความเชี่ยวชาญมาช่วยพัฒนา ผมเชื่อมั่นว่า ศิลปะเป็นเรื่องของอิสระทางความคิดและจินตนาการ ศิลปะเป็นสิ่งจรรโลงใจหาใช่เพื่อวัตถุประสงค์ใด และสถานที่แสดงศิลปวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าแห่งนี้จะต้องยังคงอยู่เพื่อประชาชนทุกคนครับ สุดท้ายนี้ถ้าประชาชนไม่เห็นด้วย กทม. ก็จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการพัฒนาในพื้นที่ดังกล่าวครับ


ภาพและข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก ผู้ว่าฯ อัศวิน, Bacc หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร






