กองปราบฯ คุมตัวพระชั้นผู้ใหญ่ 5 รูป พร้อมฆราวาส ฝากขังผลัดแรก หลังพบมีเอี่ยวฟอกเงินคดีเงินทอนวัด
![คดีเงินทอนวัด]( "คดีเงินทอนวัด")
ความคืบหน้าเรื่องนี้ วันที่ 24 พฤษภาคม 2561 TNN 24 รายงานว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ได้นำตัวพระชั้นผู้ใหญ่ จำนวน 5 รูป เข้าไปขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ฝากขังผลัดแรก ประกอบด้วย
1. พระศรีคุณาภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร
2. พระครูสิริวิหารการ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร
3. พระวิจิตรธรรมาภรณ์ หรือ เจ้าคุณเทอด ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร
4. พระพรหมดิลก (เอื้อน หาสธมฺโม) เจ้าอาวาสวัดสามพระยา กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) และเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร
5. พระอรรถกิจโสภณ เลขาเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร วัดสามพระยาวรวิหาร
![คดีเงินทอนวัด]( "คดีเงินทอนวัด")
เบื้องต้น ทางตำรวจได้ยื่นคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเกรงว่าจะเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ซึ่งหากศาลมีความเห็นรับฝากขังก็จะให้สึกจากความเป็นพระทันที ส่วนพระพรหมเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร และพระพรหมสิทธิ เจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ที่ถูกออกหมายจับ กำลังอยู่ระหว่างการติดตามตัว
สำหรับคดีเงินทอนวัดของวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ตำรวจพบการทุจริตในปี 2557 เป็นงบประมาณสนับสนุนโรงเรียนปริยัติธรรมของวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร จำนวน 87.5 ล้านบาท ทั้งที่วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ไม่มีการจัดตั้งโรงเรียนดังกล่าว ส่วนงบปี 2559 มีโครงการอบรมคุณธรรม งบประมาณ 37.2 ล้านบาท ถูกนำไปกระจายให้วัด 2 แห่งในต่างจังหวัด รวม 8,000,000 บาท และได้มีการทอนคืนวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร 29.2 ล้านบาท ส่วนโครงการศูนย์กลางเผยแผ่พระพุทธศาสนา งบประมาณ 32.5 ล้านบาท พบว่าเงินถูกโอนเข้าบัญชี น.ส.นุชรา จำนวน 25 ล้านบาท และนายธีระพงษ์ จำนวน 5,000,000 บาท ทำให้เข้าข่ายความผิดฐานฟอกเงิน
ส่วนวัดสามพระยาวรวิหารและวัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร ตำรวจพบว่าได้รับเงินงบประมาณมาวัดละ 5,000,000 บาท เพื่อใช้เป็นงบอุดหนุนวัด แต่เงินถูกโอนเข้าบัญชีฆราวาสรวม 9 บัญชี ส่วนรายละเอียดในการให้ปากคำของพระทั้ง 5 รูป และฆราวาสทั้ง 4 คน พล.ต.ท. ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) จะเปิดเผยต่อสื่อมวลชนอีกครั้ง
จากกรณีที่ พล.ต.ต. ไมตรี ฉิมเฉิด ผู้บังคับการปราบปราม (ผบก.ป.) นำกำลังตำรวจกองปราบปราม และตำรวจ ปอท. เข้าตรวจค้น พร้อมนิมนต์พระเถระชั้นผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินทอนวัด หลังพบว่ามีพระตำแหน่งสูงจากวัดสามพระยาวรวิหาร และวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร รวมถึงฆราวาส เข้าข่ายมีความผิดนั้น (อ่านข่าว : ตำรวจลุยค้นวัดสระเกศฯ เจ้าอาวาสหายจ้อยไม่พบตัว ผงะเจอช่องทางลับคาดใช้เผ่นหนี)
ความคืบหน้าเรื่องนี้ วันที่ 24 พฤษภาคม 2561 TNN 24 รายงานว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ได้นำตัวพระชั้นผู้ใหญ่ จำนวน 5 รูป เข้าไปขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ฝากขังผลัดแรก ประกอบด้วย
2. พระครูสิริวิหารการ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร
3. พระวิจิตรธรรมาภรณ์ หรือ เจ้าคุณเทอด ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร
4. พระพรหมดิลก (เอื้อน หาสธมฺโม) เจ้าอาวาสวัดสามพระยา กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) และเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร
5. พระอรรถกิจโสภณ เลขาเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร วัดสามพระยาวรวิหาร
นอกจากนี้ยังฝากขังฆราวาสที่ถูกออกหมายจับ ประกอบด้วย น.ส.นุชรา สิทธินอก แม่บ้านที่รับโอนเงิน 25 ล้านบาท, ร.ท. ฐิติทัตน์ นิพนธ์พิทยา, นางฑัมม์พร นิพนธ์พิทยา แม่ของ ร.ท. ฐิติทัตน์, นายธีระพงษ์ พันธุ์ศร และนายทวิช สังข์อยู่ ซึ่งทั้งหมดเกี่ยวกับบริษัท ดี ดี ทวีคูณ จำกัด ที่รับผลิตสื่อให้กับวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร
สำหรับคดีเงินทอนวัดของวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ตำรวจพบการทุจริตในปี 2557 เป็นงบประมาณสนับสนุนโรงเรียนปริยัติธรรมของวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร จำนวน 87.5 ล้านบาท ทั้งที่วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ไม่มีการจัดตั้งโรงเรียนดังกล่าว ส่วนงบปี 2559 มีโครงการอบรมคุณธรรม งบประมาณ 37.2 ล้านบาท ถูกนำไปกระจายให้วัด 2 แห่งในต่างจังหวัด รวม 8,000,000 บาท และได้มีการทอนคืนวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร 29.2 ล้านบาท ส่วนโครงการศูนย์กลางเผยแผ่พระพุทธศาสนา งบประมาณ 32.5 ล้านบาท พบว่าเงินถูกโอนเข้าบัญชี น.ส.นุชรา จำนวน 25 ล้านบาท และนายธีระพงษ์ จำนวน 5,000,000 บาท ทำให้เข้าข่ายความผิดฐานฟอกเงิน
ส่วนวัดสามพระยาวรวิหารและวัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร ตำรวจพบว่าได้รับเงินงบประมาณมาวัดละ 5,000,000 บาท เพื่อใช้เป็นงบอุดหนุนวัด แต่เงินถูกโอนเข้าบัญชีฆราวาสรวม 9 บัญชี ส่วนรายละเอียดในการให้ปากคำของพระทั้ง 5 รูป และฆราวาสทั้ง 4 คน พล.ต.ท. ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) จะเปิดเผยต่อสื่อมวลชนอีกครั้ง
ภาพจาก ไทยโพสต์
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
