คณะเภสัชศาสตร์ ม.ขอนแก่น เผยผลงานวิจัย ครีมรองพื้นสารสกัดจากเปลือกยางนา ช่วยสาวไทยสวยด้วยธรรมชาติ ปลอดภัย ไร้สารพิษ
![ครีมรองพื้น]( "ครีมรองพื้น")
สำหรับสาว ๆ ทั้งหลายเวลาแต่งหน้าสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญมาก ๆ ก็คือการเลือกใช้รองพื้นนี่แหละ ซึ่งปัจจุบันก็มีรองพื้นหลากหลายยี่ห้อ หลากหลายราคา ทั้งแบรนด์ของไทย และของต่างประเทศมาให้เลือกสรร ชนิดที่ว่าจิ้มไม่ถูกกันเลยทีเดียวว่าจะใช้เจ้าไหนดี ซึ่งการเลือกรองพื้นนั้นเราต้องคำนึงด้วยว่าเราใช้แล้วหน้าจะแพ้ไหม ปลอดภัยหรือเปล่า ด้วยเหตุนี้เอง คณะเภสัชศาสตร์ ม.ขอนแก่น จึงได้คิดค้นครีมรองพื้น "สารสกัดจากเปลือกยางนา" ปลอดภัย ไร้สารตกค้าง เพื่อให้สาวไทยสวยธรรมชาติ ปลอดภัย เสริมภูมิคุ้มกันให้ผิวสุขภาพดี
วันที่ 30 พฤษภาคม 2561 ที่ห้องประชุมสิริคุณากร 3 อาคารสิริคุณากร ม.ขอนแก่น คณะเภสัชศาสตร์ ได้แถลงข่าวผลงานวิจัย ครีมรองพื้นที่มีสารสกัดยางนา ซึ่งเป็นผลงานของ ผศ. ดร.แคทรียา สุทธานุช คณะเภสัชศาสตร์ ม.ขอนแก่น
![ครีมรองพื้น]( "ครีมรองพื้น")
การคิดค้นครีมรองพื้นที่มีสารสกัดยางนา สืบเนื่องมาจาก ปัจจุบันพบว่าผู้คนให้ความสนใจเรื่องสุขภาพ และความสวยงามกันมากขึ้น แต่คนจำนวนไม่น้อยมักเป็นเหยื่อของความงามแบบฉาบฉวย ใช้ครีม และผลิตภัณฑ์เพื่อความงามอย่างเร่งด่วน กระทั่งเกิดผลกระทบต่อผิวพรรณและร่างกาย ตามที่เป็นกระแสทางสังคมดังเช่นที่ผ่านมา
ผศ. ดร.แคทรียา เผยว่า ต้นยางนา เป็นพืชอนุรักษ์ลำดับที่ 9 ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ปลูกมากใน จ.ขอนแก่น โดยเฉพาะ อ.อุบลรัตน์ จากการศึกษาวิจัยพบว่ายางนามีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ มีสารออกฤทธิ์ที่มีฤทธิ์เวชสำอางที่หลากหลาย ที่สามารถยับยั้งเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการสร้างเม็ดสีเมลานิน และค้นพบสารเรสเวอราทรอล (Resveratrol) ซึ่งเป็นสารที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ต้านการอักเสบ เสริมภูมิคุ้มกันให้ผิวสุขภาพดี ยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนส จึงช่วยให้ผิวไม่มีริ้วรอยและกระจ่างใสขึ้น
โดยจะสังเกตได้ว่า สารสกัดดังกล่าวไม่ได้ให้ผลฤทธิ์ใดฤทธิ์หนึ่ง แต่ให้ฤทธิ์แบบองค์รวม ใช้เพียงหลอดเดียวก็สามารถเป็นทั้งครีมบำรุง กันแสงแดด และฟื้นฟูผิวพรรณอย่างครอบคลุมทุกสภาพผิว
![ครีมรองพื้น]( "ครีมรองพื้น")
ด้วยคุณสมบัติตามที่กล่าวข้างต้น จึงได้คิดค้นสูตรรองพื้นที่มีสารสกัดจากเปลือกยางนา ซึ่งเป็นส่วนของพืชที่ไม่มีใครเคยนำไปใช้ประโยชน์มาก่อน มาใช้เป็นส่วนผสมซึ่งไม่มีสารสังเคราะห์ที่เป็นอันตรายต่อผิวหนัง
สำหรับขั้นตอนการผลิตครีมรองพื้นจากสารสกัดยางนา ผศ. ดร.แคทรียา เผยว่า นำเปลือกยางนามาสกัดเป็นผง จากนั้นสกัดเป็นสารชนิดเหลว ต่อมานำมาหยดผสมกับสูตรตำรับที่ประกอบด้วย ไขมันจากธรรมชาติ แป้ง วิตามิน เฉดสีธรรมชาติ ในปริมาณที่เหมาะสมปั่นรวมกันจนได้เนื้อรองพื้นที่เนียนละเอียด
ซึ่งมี 3 เฉดสีให้เลือกใช้ที่เหมาะสมกับสภาพผิวของตนเอง มีชนิดซองหัวบีบ และชนิดกระปุกจำหน่าย ที่ศูนย์ทรัพย์สินทางปัญญา ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณานำเข้าสู่อุตสาหกรรมเชิงพาณิชย์ด้วยกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน เพื่อรองรับความต้องการของผู้อุปโภค
![ครีมรองพื้น]( "ครีมรองพื้น")
ทั้งนี้ เพราะอยากจะปลูกฝังค่านิยมอันดีงามให้สาวไทย มีการดูแลสุขภาพผิวและใช้เครื่องสำอางที่มีประสิทธิภาพ สวยสุขภาพดีอย่างไร้สารพิษ พร้อมให้ข้อมูลถึงผู้ที่ได้รับผลกระทบจากครีมที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่มีการรับรองจากองค์การอาหารและยา หรือเกิดอาการแพ้ ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเฉพาะทาง และปฏิบัติตามขั้นตอนที่แพทย์แนะนำ คือ ค่อย ๆ ลดปริมาณการใช้สารลง ดื่มน้ำมาก ๆ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อขจัดสารพิษออกจากร่างกาย และหันมาใช้ครีมที่มีงานวิจัยรองรับ แม้จะใช้เวลานานแต่รับรองว่าปลอดภัย ไร้สารแน่นอน
สำหรับสาว ๆ ทั้งหลายเวลาแต่งหน้าสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญมาก ๆ ก็คือการเลือกใช้รองพื้นนี่แหละ ซึ่งปัจจุบันก็มีรองพื้นหลากหลายยี่ห้อ หลากหลายราคา ทั้งแบรนด์ของไทย และของต่างประเทศมาให้เลือกสรร ชนิดที่ว่าจิ้มไม่ถูกกันเลยทีเดียวว่าจะใช้เจ้าไหนดี ซึ่งการเลือกรองพื้นนั้นเราต้องคำนึงด้วยว่าเราใช้แล้วหน้าจะแพ้ไหม ปลอดภัยหรือเปล่า ด้วยเหตุนี้เอง คณะเภสัชศาสตร์ ม.ขอนแก่น จึงได้คิดค้นครีมรองพื้น "สารสกัดจากเปลือกยางนา" ปลอดภัย ไร้สารตกค้าง เพื่อให้สาวไทยสวยธรรมชาติ ปลอดภัย เสริมภูมิคุ้มกันให้ผิวสุขภาพดี
วันที่ 30 พฤษภาคม 2561 ที่ห้องประชุมสิริคุณากร 3 อาคารสิริคุณากร ม.ขอนแก่น คณะเภสัชศาสตร์ ได้แถลงข่าวผลงานวิจัย ครีมรองพื้นที่มีสารสกัดยางนา ซึ่งเป็นผลงานของ ผศ. ดร.แคทรียา สุทธานุช คณะเภสัชศาสตร์ ม.ขอนแก่น
การคิดค้นครีมรองพื้นที่มีสารสกัดยางนา สืบเนื่องมาจาก ปัจจุบันพบว่าผู้คนให้ความสนใจเรื่องสุขภาพ และความสวยงามกันมากขึ้น แต่คนจำนวนไม่น้อยมักเป็นเหยื่อของความงามแบบฉาบฉวย ใช้ครีม และผลิตภัณฑ์เพื่อความงามอย่างเร่งด่วน กระทั่งเกิดผลกระทบต่อผิวพรรณและร่างกาย ตามที่เป็นกระแสทางสังคมดังเช่นที่ผ่านมา
ผศ. ดร.แคทรียา เผยว่า ต้นยางนา เป็นพืชอนุรักษ์ลำดับที่ 9 ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ปลูกมากใน จ.ขอนแก่น โดยเฉพาะ อ.อุบลรัตน์ จากการศึกษาวิจัยพบว่ายางนามีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ มีสารออกฤทธิ์ที่มีฤทธิ์เวชสำอางที่หลากหลาย ที่สามารถยับยั้งเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการสร้างเม็ดสีเมลานิน และค้นพบสารเรสเวอราทรอล (Resveratrol) ซึ่งเป็นสารที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ต้านการอักเสบ เสริมภูมิคุ้มกันให้ผิวสุขภาพดี ยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนส จึงช่วยให้ผิวไม่มีริ้วรอยและกระจ่างใสขึ้น
โดยจะสังเกตได้ว่า สารสกัดดังกล่าวไม่ได้ให้ผลฤทธิ์ใดฤทธิ์หนึ่ง แต่ให้ฤทธิ์แบบองค์รวม ใช้เพียงหลอดเดียวก็สามารถเป็นทั้งครีมบำรุง กันแสงแดด และฟื้นฟูผิวพรรณอย่างครอบคลุมทุกสภาพผิว
ด้วยคุณสมบัติตามที่กล่าวข้างต้น จึงได้คิดค้นสูตรรองพื้นที่มีสารสกัดจากเปลือกยางนา ซึ่งเป็นส่วนของพืชที่ไม่มีใครเคยนำไปใช้ประโยชน์มาก่อน มาใช้เป็นส่วนผสมซึ่งไม่มีสารสังเคราะห์ที่เป็นอันตรายต่อผิวหนัง
สำหรับขั้นตอนการผลิตครีมรองพื้นจากสารสกัดยางนา ผศ. ดร.แคทรียา เผยว่า นำเปลือกยางนามาสกัดเป็นผง จากนั้นสกัดเป็นสารชนิดเหลว ต่อมานำมาหยดผสมกับสูตรตำรับที่ประกอบด้วย ไขมันจากธรรมชาติ แป้ง วิตามิน เฉดสีธรรมชาติ ในปริมาณที่เหมาะสมปั่นรวมกันจนได้เนื้อรองพื้นที่เนียนละเอียด
ซึ่งมี 3 เฉดสีให้เลือกใช้ที่เหมาะสมกับสภาพผิวของตนเอง มีชนิดซองหัวบีบ และชนิดกระปุกจำหน่าย ที่ศูนย์ทรัพย์สินทางปัญญา ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณานำเข้าสู่อุตสาหกรรมเชิงพาณิชย์ด้วยกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน เพื่อรองรับความต้องการของผู้อุปโภค
ทั้งนี้ เพราะอยากจะปลูกฝังค่านิยมอันดีงามให้สาวไทย มีการดูแลสุขภาพผิวและใช้เครื่องสำอางที่มีประสิทธิภาพ สวยสุขภาพดีอย่างไร้สารพิษ พร้อมให้ข้อมูลถึงผู้ที่ได้รับผลกระทบจากครีมที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่มีการรับรองจากองค์การอาหารและยา หรือเกิดอาการแพ้ ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเฉพาะทาง และปฏิบัติตามขั้นตอนที่แพทย์แนะนำ คือ ค่อย ๆ ลดปริมาณการใช้สารลง ดื่มน้ำมาก ๆ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อขจัดสารพิษออกจากร่างกาย และหันมาใช้ครีมที่มีงานวิจัยรองรับ แม้จะใช้เวลานานแต่รับรองว่าปลอดภัย ไร้สารแน่นอน
ภาพและข้อมูลจาก คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
