ญาติของหนึ่งในผู้ต้องหาอุ้มข่มขืน วอนสังคมอย่าด่าเกินจริง ขอให้รอความจริงปรากฏ-นึกถึงครอบครัวผู้ต้องหาด้วย ด้านเพื่อนสนิทเผย กิ๊ฟ รู้จักกับ 1 ในผู้ต้องหา
โดย นายเจริญ วงศ์เวียน น้าชายของผู้เสียชีวิต ระบุว่า รู้สึกอุ่นใจที่ รอง ผบ.ตร. ลงมาติดตามคดีนี้ด้วยตัวเอง และเชื่อในความยุติธรรม ขณะนี้ศพของหลานสาวยังคงอยู่ที่โรงพยาบาล อย่างไรก็ดีตนเชื่อว่าผู้ต้องหามีมากกว่า 4 คนแน่นอน
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวอมรินทร์ทีวี ได้เดินทางไปพบกับ น.ส.พลอย (นามสมมติ) เพื่อนสนิทของกิ๊ฟ ระบุว่า ตนรู้จักกับกิ๊ฟมากว่า 10 ปี เพราะอยู่บ้านใกล้กันตั้งแต่เด็ก มารู้ข่าวว่ากิ๊ฟเสียชีวิตแล้วก็ตอนที่ แอร์ โทร. มาบอก
พลอย เล่าต่อว่าว่า ในคืนวันเกิดเหตุ (26 พฤษภาคม) กิ๊ฟ ชวนตนไปเจอที่หอพักโดยให้ตนซื้อข้าวไปให้ ตอนนั้นยังคิดว่าไม่ได้เจอเพื่อนมานาน คิดว่าจะได้นั่งคุยกัน แต่เมื่อเดินทางไปถึง กิ๊ฟกลับแต่งกายชุดที่ไปสถานบันเทิง มีท่าทีรีบ วิ่งสวนกับตนออกไป ตอนนั้นยอมรับว่าตนน้อยใจ และพูดกับกิ๊ฟว่า ตนอุตส่าห์มาหาและยังให้ซื้อข้าวมาให้อีก แต่กิ๊ฟไม่อยู่พูดคุยกับตน ซึ่งหลังจากนั้นตนก็ไม่ได้ติดต่อกับกิ๊ฟอีก
ก่อนวันเกิดเหตุ (25 พฤษภาคม) ตนได้ไปเที่ยวสถานบันเทิงกับกิ๊ฟ แต่ร้านนั้นมีลูกค้าเยอะไม่มีที่นั่ง กิ๊ฟบังเอิญไปเจอบอล หนึ่งในผู้ต้องหา ซึ่งกิ๊ฟบอกว่ารู้จักกับพี่บอล จึงได้เข้าไปนั่งด้วย แต่คืนนั้นไม่ได้เกิดอะไรขึ้น ตนกับกิ๊ฟก็กลับด้วยกันตามปกติ ยืนยันว่า กิ๊ฟกับบอลไม่ได้มีการคุยกันเป็นพิเศษ
ทั้งนี้ กิ๊ฟ ไม่มีเรื่องยาเสพติด ยืนยันว่ากิ๊ฟเป็นคนคอแข็ง ไม่เมาง่าย ๆ กิ๊ฟไม่เคยเมาจนไม่ได้สติถึงขั้นกลับบ้านเองไม่ได้ กลุ่มเพื่อนยังมีการคุยกัน และกังวลว่าคนร้ายจะไม่ได้รับโทษ อีกทั้งยังเชื่อว่าผู้ก่อเหตุน่าจะมีมากกว่านี้ด้วย
อย่างไรก็ดี จากการที่ทีมข่าวพูดคุยกับญาติของ นายสุรสิทธิ์ ใจคำมี หรือ บอล อายุ 24 ปี หนึ่งในผู้ต้องหาในคดีนี้ ระบุว่า ให้รอฟังผลผลการชันสูตรผู้ตายก่อน ส่วนทางครอบครัวยังไม่ปักใจเชื่อว่าบอลจะเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ แต่ก็ไม่ปฏิเสธ หากผลชันสูตรพิสูจน์ได้ว่าบอลก่อเหตุจริง อย่างไรก็ตาม ครอบครัวก็ยังเชื่อมั่นใจตัวของบอล
นางแมว ยอมรับว่า ตนสนิท และรู้จักนิสัยของหลานอย่างดี แต่หากตนบอกว่าหลานเป็นคนดี คนอื่นก็จะมองว่าตนเข้าข้างหลาน แต่ในเมื่อหลานตนเป็นคนดีก็คงตอบเช่นนั้น เวลาว่างก็มาช่วยทำสวน เป็นปกติของเด็กทั่วไป ตนยอมรับว่าหลานเป็นคนติดเพื่อน
ส่วนกระแสสังคมที่ด่าถึงพ่อ-แม่ และญาติ ตนอยากทราบว่าคนที่มาต่อว่านั้นรู้ความจริงเท่าไร ถึงได้ด่า เพราะหลานตนยอมรับในสิ่งที่ทำลงไปแล้ว อยากให้สังคมนึกถึงครอบครัวของผู้ต้องหาบ้าง ตนไม่อยากให้ใครมาด่าว่าแบบเกินจริง อยากให้คนที่รับฟังข่าวสารจากผลสรุปเสียก่อน แล้วค่อยมาวิจารณ์ เพราะขณะนี้การวิจารณ์เหมือนหลานชายตนเป็นฆาตกรที่อภัยให้ไม่ได้
อย่างไรก็ตาม
ตนไม่เชื่อว่าหลานจะลงมือทำเช่นนี้
ในเรื่องของยาเสพติดตนก็คิดว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะมีเด็ดขาด
และเรื่องเงินกู้ก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ตนยังไม่ได้ไปเยี่ยมหลาน
แต่แม่ของหลานไปเยี่ยมมาเมื่อวานนี้ (1 มิถุนายน) และบอกว่า
ทีมอยากกลับบ้าน แต่ไม่ได้มีการพูดถึงเรื่องเหตุที่เกิดขึ้น
ภาพและข้อมูลจาก amarintv
