พล.ต.อ. วิระชัย ทรงเมตตา ลงพื้นที่จำลองเหตุการณ์ ลุยสะสางคดีอุ้มข่มขืนน้องกิ๊ฟ ด้าน ตำรวจ สภ.มะขาม จ่อออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องอีก 2 ราย
วันที่ 3 มิถุนายน 2561 พล.ต.อ. วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะ ได้เดินทางไปติดตามคดีอุ้มข่มขื นน้องกิ๊ฟ อายุ 21 ปี ที่ จ.จันทบุรี พร้อมเข้าตรวจหาหลักฐานเพิ่มเติ ม และค้นห้องของน้องกิ๊ฟเพื่อหาว่ าพบยาตัวไหนที่เกี่ยวข้องกั บการเสียชีวิตของน้องกิ๊ฟบ้ างหรือไม่ เนื่องจากทราบมาว่าพบยาลดความอ้ วนในห้องด้วย
พล.ต.อ. วิระชัย ระบุว่า ตัวยาที่ได้จากห้องของน้อง เบื้องต้นได้สอบถามเภสัชกรว่ าเป็นชนิดเดียวกับยาลดความอ้ วนหรือไม่ หากใช่ จะมีผลต่อประสาทกล้ามเนื้อหั วใจมากน้อยแค่ไหนถึงขั้นเสียชี วิตหรือไม่ และหากพบสารจากยานี้จริงก็ จะสามารถตรวจสอบหารอยนิ้วมื อแฝงจากซองยาว่าสรุปแล้วเป็ นยาที่น้องหยิบกินเองหรือไม่ หรือมีลายนิ้วมือผู้อื่นเข้ ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งจะสามารถชี้ความกระจ่างเกี่ ยวกับเรื่องยาได้ชัดเจน
ต่อมา พล.ต.อ. วิระชัย พร้อมด้วยตำรวจสืบสวนชุดคลี่คลายคดี ได้นำผู้ที่เกี่ยวข้องมาดำเนิ นการจำลองเหตุการณ์ระหว่างอยู่ ในผับที่เกิดเหตุ
ซึ่งหลังจากเสร็จสิ้นแล้ว พล.ต.อ. วิระชัย ได้ชี้แจงสรุปความคืบหน้าว่า จากการสอบสวนนั้นสาเหตุการเสี ยชีวิตไม่เกี่ยวข้องกั บการประสงค์ต่อทรัพย์ เพราะไม่มีทรัพย์สินสูญหาย ส่วนกรณีที่มีการกล่าวอ้างถึ งเงินในบัญชีผู้ตายที่สูงถึงหลั กล้านนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะยอดเงินดั งกล่าวเป็นยอดรวมระยะเวลา 2 ปีที่เดินบัญชีตามปกติ แต่ต้องตรวจสอบอีกครั้ง ทั้งนี้ ผู้ตายไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด หรือธุรกิจสีเทา และไม่มีน้ำหนักเรื่องชู้สาว สาเหตุการฆาตกรรมไม่ได้ มาจากการตัดตอนเรื่องผิดกฎหมาย ไม่ได้ถูกมอมเหล้าแต่อย่างใด
สำหรับสาเหตุที่น็อกหมดสติ และถูกสารกระตุ้นทางเพศหรือไม่ รวมทั้งยาลดความอ้วนที่พบในห้ องนั้น ต้องรอผลการชันสูตรพลิ กศพจากแพทย์
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.มะขาม ได้จับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 4 ราย และพบว่าอาจจะมีผู้ต้องหาอีก 2 ราย ซึ่งจะเตรียมขอศาลอนุมัติหมายจั บต่อไป รวมถึงอาจจะทำการถอนใบอนุ ญาตสถานบันเทิงที่เกิดเหตุ เพราะปล่อยให้เยาวชนอายุ 20 ปี เข้าใช้บริการและปล่ อยปละละเลยจนเกิดเหตุดังกล่าวขึ้ น
ภาพและข้อมูลจาก สปริงนิวส์