เปิดปูมหลังมือมีดญี่ปุ่น จากเด็กถูกแกล้ง หาเงินเรียนเอง สู่การเป็นฆาตกร

เปิดปูมหลังมือมีดชาวญี่ปุ่น หลังก่อเหตุสะเทือนขวัญ ไล่แทงผู้โดยสารบนรถไฟชินคันเซ็น จนเป็นเหตุให้เหยื่อเคราะห์ร้ายต้องสังเวยชีวิต และได้รับบาดเจ็บ

ภาพจาก JIJI PRESS / AFP

นับเป็นเหตุการณ์สะเทือนขวัญชาวญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก สำหรับกรณี หนุ่มคนร้ายก่อเหตุใช้อาวุธมีดไล่แทงผู้โดยสารบนรถไฟความเร็วสูงชินคันเซ็น ซึ่งมีผู้โดยสารมากกว่า 800 ชีวิต ขณะกำลังเดินทางจากกรุงโตเกียว มุ่งหน้าไปยังโอซาก้า เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันที่ 9 มิถุนายน 2561 เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน จากการถูกมีดปาดคอ และมีผู้บาดเจ็บอีก 2 คนเป็นผู้หญิง

สำนักข่าวบีบีซี เผยรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นสามารถจับกุมหนุ่มผู้ก่อเหตุได้ที่สถานีโอะดะวะระ ทางตอนใต้ของกรุงโตเกียว ทราบชื่อคือ อิชิโระ โคจิมะ อายุ 22 ปี ถูกดำเนินคดีในข้อหาฆาตกรรม โดยเจ้าหน้าที่เผยว่า หนุ่มคนร้ายรายนี้ก่อเหตุไล่แทงเหยื่อแบบสุ่ม และจากการตรวจค้นร่างกาย พบว่าพกอาวุธของมีคมหลายชนิดขึ้นมาบนรถไฟ ขณะเดียวกัน เว็บไซต์เจแปนไทมส์ รายงานว่า โคจิมะ ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพ โดยระบุสาเหตุว่า เขารู้สึกหงุดหงิดคับข้องใจ เลยทำให้อยากทำร้ายผู้คนแบบไม่มีการเลือกเหยื่อที่เฉพาะเจาะจง ทั้งนี้ยอมรับว่า ส่วนตัวไม่รู้จักเหยื่อทั้ง 3 คนมาก่อน

ภาพจาก JIJI PRESS / AFP

ด้านญาติของทางผู้ต้องหา ซึ่งเป็นคุณยายวัย 81 ปี เผยข้อมูลว่า เมื่อสมัยเด็ก โคจิมะเคยอยู่กับครอบครัวที่เมืองอิชิโนะมิยะ ในจังหวัดไอจิ แต่ในช่วงที่เขาเรียนชั้นมัธยมต้นนั้น เขาต้องออกจากโรงเรียนเพราะถูกกลั่นแกล้ง และหลังจากนั้น ตอนอายุประมาณ 14 ปี เขาก็ออกจากบ้านที่อยู่กับครอบครัว ไปเข้าเรียนไฮสคูลภาคค่ำจากการหาเงินค่าใช้จ่ายด้วยตัวเอง หลังจากเรียนจบไฮสคูลก็มาอาศัยอยู่กับยายที่เมืองโอะกะซะกิ ซึ่งอยู่ในจังหวัดไอจิ เช่นเดียวกัน

โคจิมะเคยเข้ารับการรักษาเกี่ยวกับอาการผิดปกติทางจิตที่ไม่ระบุแน่ชัด หลังจากนั้นในเดือนเมษายน ปี 2558 เขาก็เข้าทำงานที่โรงงานซ่อมเครื่องจักรกล ก่อนจะลาออกในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2559 คุณยาย เล่าว่า ตอนที่โคจิมะมาอาศัยอยู่ด้วยนั้น เขาใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่แต่บ้าน อ่านหนังสือและเล่นอินเทอร์เน็ต กระทั่งเมื่อเดือนธันวาคม ปีที่ผ่านมา เขาได้ออกจากบ้านโดยบอกว่า ต้องการเดินทางไปท่องเที่ยว จนเมื่อไม่นานมานี้ คุณยายไม่สามารถติดต่อเขาได้ ก่อนจะมาทราบข่าวอีกครั้ง ก็พบว่าเขาได้กลายเป็นฆาตกรไปแล้ว

ทั้งนี้ รายงานเผยว่า สำหรับเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวนับว่าเกิดขึ้นไม่บ่อยครั้งนักในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งนับว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการเกิดอาชญากรรมรุนแรงน้อยที่สุดในโลกที่พัฒนาแล้ว อีกทั้ง รอยเตอร์ส เผยว่า รถไฟความเร็วสูงชินคันเซ็นของญี่ปุ่นยังขึ้นชื่อเรื่องความเร็วและความปลอดภัยระดับสูงสุด แต่นั่นก็ไม่รวมถึงเหตุอาชญากรรมที่เกิดขึ้น โดยกรณีล่าสุด เมื่อปี 2558 มีชายคนร้ายก่อเหตุจุดไฟเผาตัวเองเสียชีวิตบนรถไฟความเร็วสูงชินคันเซ็น เป็นเหตุให้มีเหยื่อสาวเคราะห์ร้ายเสียชีวิตไปด้วยอีก 1 คน และมีผู้บริสุทธิ์ได้รับบาดเจ็บอีกกว่า 20 ชีวิต จากการถูกไฟไหม้และสำลักควัน

เปิดปูมหลังมือมีดหนุ่มญี่ปุ่น จากเด็กถูกแกล้ง-หาเงินเรียนเอง สู่การเป็นฆาตกร