x close

เตือนปวดท้องบ่อย จากเชื้อเอชไพโลไร เสี่ยงลามเป็นมะเร็ง สาเหตุมาจาก...

          แชร์สนั่น สาวปวดท้องบ่อยติดเชื้อเอชไพโลไร เหตุไม่ใช้ช้อนกลาง กินของสุก ๆ ดิบ ๆ - ด้าน อ.เจษฎา โพสต์อย่าเพิ่งตกใจ เพราะปัจจัยหลักคือ ...

          หลังจากที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Apple PK ได้โพสต์ภาพการตรวจลำไส้ด้วยวิธีส่องกล้อง พร้อมเล่าเรื่องราวเพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้คนหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น โดยผู้โพสต์เผยว่า ตนเองนั้นมีอาการปวดท้องเลยคิดว่าเป็นโรคกระเพาะ เป็นแผลในกระเพาะอาหาร จึงไปซื้อยารับประทานเอง

          แต่อาการไม่ดีขึ้นยังปวดท้องเป็นระยะ และเริ่มปวดมากขึ้น จึงมีคนแนะนำให้ไปหาหมอ โดยมีการตรวจด้วยการส่องกล้อง ก่อนพบว่าลำไส้อักเสบจากการติดเชื้อ "เอชไพโลไร (H.pylori)"

          ซึ่งเชื้อดังกล่าว สามารถติดต่อจากคนสู่คน จากการรับประทานอาหารร่วมกันโดยไม่ใช้ช้อนกลาง คนปรุงอาหารมือไม่สะอาด และอาหารดิบ ซึ่งทำให้ตนต้องรักษาด้วยยาฆ่าเชื้อนานหลายเดือน และมีอาการข้างเคียงจากการใช้ยา คือคลื่นไส้ วิงเวียน และเชื้อนี้สามารถบานปลายลามเป็นมะเร็งได้ !

เชื้อเอชไพโลไร

          โดย คุณสุภานัน วุฒิเอก ผู้โพสต์เรื่องราวดังกล่าว ได้เปิดเผยถึงอาการกับทีมข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ ว่า มีอาการครืดคราดอยู่ในท้องตลอดเวลา ปวดท้องตลอดเวลา ซึ่งเชื้อตัวนี้คุณหมออธิบายว่ามันเกิดจากคนสู่คน ไม่รับประทานอาหารโดยใช้ช้อนกลาง ตนจึงอยากฝากถึงคนที่ชอบทานอาหารแช่แข็ง หรืออาหารค้างคืนแล้วเอามาอุ่นใหม่ ไม่กินช้อนกลางเวลารับประทานอาหารร่วมกับคนอื่น ให้เปลี่ยนพฤติกรรม เพราะมันเป็นสุขภาพของเราเอง

          โดย ไบรท พิชญทัฬห์ ได้เปิดเผยขณะจัดรายการเรื่องเล่าเช้านี้ (15 มิถุนายน 2561) ด้วยว่า ตนเองก็เคยติดเชื้อ เอชไพโลไร แต่ตอนนี้หายแล้ว ซึ่งตอนนั้นตนต้องกินยาฆ่าเชื้อ 6 เดือน และต้องกินให้หมด ไม่อย่างนั้นจะดื้อยา และต้องทนกับผลข้างเคียงของยาด้วย

เชื้อเอชไพโลไร

          ด้าน อาจารย์เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ออกมาโพสต์เกี่ยวกับเชื้อเอชไพโลไร โดยมีใจความว่า สาเหตุหลักไม่ใช่เรื่องไม่ใช้ช้อนกลาง หรือกินอาหารค้างคืน หรือกินปลาดิบ  ถึงแม้ว่าการกินอาหารด้วยช้อนกลาง การอุ่นอาหารที่ค้างคืนให้สุกก่อนกินซ้ำ และการเลี่ยงอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ นั้นจะเป็นหลักพื้นฐาน ที่ช่วยลดการติดและแพร่เชื้อโรคได้ แต่ก็ควรทราบด้วยว่า ปัจจัยเสี่ยงสำคัญของการติดเชื้อ อาจติดต่อโดยการกินอาหารหรือน้ำที่ไม่สะอาด มีการ "ปนเปื้อนอุจจาระ" ของผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อเข้าไป เช่น เข้าห้องน้ำขับถ่ายแล้วล้างมือไม่สะอาด

          ส่วนผู้ที่สงสัยว่า อาจมีความผิดปกติเกิดขึ้นกับระบบทางเดินอาหารของตัวเองว่าเป็นเพราะเกิดจากเชื้อเอชไพโลไรหรือไม่ หรือมีคนในครอบครัวเคยมีประวัติเป็นโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร ก็ควรตรวจหาความเสี่ยงของการเป็นโรคนี้ เพื่อการรักษาที่ทันท่วงที่และป้องกันโรคได้ดีที่สุด


ขอบคุณข้อมูลจาก
, เฟซบุ๊ก Jessada Denduangboripant

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เตือนปวดท้องบ่อย จากเชื้อเอชไพโลไร เสี่ยงลามเป็นมะเร็ง สาเหตุมาจาก... อัปเดตล่าสุด 15 มิถุนายน 2561 เวลา 15:28:06 51,341 อ่าน
TOP