เกิดเหตุข่มขืนในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี หญิงวัย 44 ถูกไอ้โม่งดักทุบ-ขืนใจ เหยื่อฮึดสู้จนเห็นหน้าคนร้าย พบเป็นญาติที่มีปัญหาขัดแย้งกัน ตำรวจตามจับได้แล้ว แต่ยังปฏิเสธ
วันที่ 22 มิถุนายน 2561 เพจเฟซบุ๊ก บิ๊กเกรียน รายงานข่าวสลดในพื้นที่ ต.หนองขาว อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุคนร้ายข่มขืน น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 44 ปี พนักงานของบริษัทรับเหมาทำความสะอาดสถานที่ราชการแห่งหนึ่ง โดยคนร้ายเป็นชายสวมหมวกไอ้โม่งปิดบังใบหน้าและสวมถุงมือมิดชิด ดักใช้ไม้ตีเข้าที่ด้านหลังศีรษะ ขณะเหยื่อกำลังปั่นจักรยานไปทำงาน เหตุเกิดช่วงเช้ามืดของวันที่ 21 มิถุนายน 2561
รายงานระบุว่า หลังจากที่คนร้ายตีเหยื่อจนฟุบไปนั้น ยังใช้มือบีบคอและลงมือข่มขืนด้วย แต่ น.ส.เอ พยายามต่อสู้ โดยกัดเข้าที่มือและกระชากไอ้โม่งจนรู้ว่าคนร้ายเป็นญาติกัน ก่อนที่จะถูกคนร้ายบีบคอซ้ำอีกครั้งอย่างรุนแรงจนหมดสติ หลังจากนั้น เมื่อฟื้นขึ้น น.ส.เอ ได้โทร. หาแม่ที่บวชเป็นแม่ชีและแจ้งหัวหน้างานทราบ ก่อนจะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล เบื้องต้นพบว่าฟกช้ำหลายแห่ง กระดูกซี่โครงหัก 2 ซี่ มีเลือดออกภายในร่างกาย และกระดูกคอร้าว เนื่องจากถูกของแข็งฟาด
ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว นายต้อม ญาติของผู้เสียหาย เนื่องจาก น.ส.เอ ยืนยันหนักแน่นว่าคนร้ายคือนายต้อม แต่เจ้าตัวยังให้การปฏิเสธ อย่างไรก็ตาม ได้มีการเก็บตัวอย่างขนเพชร เพื่อนำไปเปรียบเทียบดีเอ็นเอแล้ว และจะดำเนินคดีใน 2 ข้อหา คือ ข่มขืนกระทำชำเราหญิงอื่นที่ไม่ใช่ภรรยาของตนเองและข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส
เจ้าหน้าที่ตำรวจ ระบุว่า ยังไม่สามารถสรุปมูลเหตุในการก่อเหตุได้ เนื่องจากนายต้อมยังคงให้การปฏิเสธ แต่เบื้องต้นทราบว่า ผู้เสียหายกับบ้านของผู้ก่อเหตุมีปัญหาขัดแย้งกันมานาน เนื่องจากบ้านของทั้งคู่อยู่ในที่ดินผืนเดียวกัน และทางผู้ก่อเหตุต้องการขายที่ดิน แต่ทางผู้เสียหายไม่ยินยอม
รายงานระบุด้วยว่า น.ส.เอ เป็นหญิงโสด ฐานะยากจน ต้องดูแลพ่อพิการวัย 80 ปี โดยในแต่ละวันเธอต้องปั่นจักรยานไปทำงาน ไป-กลับวันละ 60 กิโลเมตร ขณะที่หัวหน้างาน บอกว่า น.ส.เอ เป็นคนขยัน มาทำงานแต่เช้า มีนิสัยร่าเริง และเป็นที่รักใคร่ของเพื่อนร่วมงาน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก เฟซบุ๊ก บิ๊กเกรียน
วันที่ 22 มิถุนายน 2561 เพจเฟซบุ๊ก บิ๊กเกรียน รายงานข่าวสลดในพื้นที่ ต.หนองขาว อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุคนร้ายข่มขืน น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 44 ปี พนักงานของบริษัทรับเหมาทำความสะอาดสถานที่ราชการแห่งหนึ่ง โดยคนร้ายเป็นชายสวมหมวกไอ้โม่งปิดบังใบหน้าและสวมถุงมือมิดชิด ดักใช้ไม้ตีเข้าที่ด้านหลังศีรษะ ขณะเหยื่อกำลังปั่นจักรยานไปทำงาน เหตุเกิดช่วงเช้ามืดของวันที่ 21 มิถุนายน 2561
รายงานระบุว่า หลังจากที่คนร้ายตีเหยื่อจนฟุบไปนั้น ยังใช้มือบีบคอและลงมือข่มขืนด้วย แต่ น.ส.เอ พยายามต่อสู้ โดยกัดเข้าที่มือและกระชากไอ้โม่งจนรู้ว่าคนร้ายเป็นญาติกัน ก่อนที่จะถูกคนร้ายบีบคอซ้ำอีกครั้งอย่างรุนแรงจนหมดสติ หลังจากนั้น เมื่อฟื้นขึ้น น.ส.เอ ได้โทร. หาแม่ที่บวชเป็นแม่ชีและแจ้งหัวหน้างานทราบ ก่อนจะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล เบื้องต้นพบว่าฟกช้ำหลายแห่ง กระดูกซี่โครงหัก 2 ซี่ มีเลือดออกภายในร่างกาย และกระดูกคอร้าว เนื่องจากถูกของแข็งฟาด
ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว นายต้อม ญาติของผู้เสียหาย เนื่องจาก น.ส.เอ ยืนยันหนักแน่นว่าคนร้ายคือนายต้อม แต่เจ้าตัวยังให้การปฏิเสธ อย่างไรก็ตาม ได้มีการเก็บตัวอย่างขนเพชร เพื่อนำไปเปรียบเทียบดีเอ็นเอแล้ว และจะดำเนินคดีใน 2 ข้อหา คือ ข่มขืนกระทำชำเราหญิงอื่นที่ไม่ใช่ภรรยาของตนเองและข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส
เจ้าหน้าที่ตำรวจ ระบุว่า ยังไม่สามารถสรุปมูลเหตุในการก่อเหตุได้ เนื่องจากนายต้อมยังคงให้การปฏิเสธ แต่เบื้องต้นทราบว่า ผู้เสียหายกับบ้านของผู้ก่อเหตุมีปัญหาขัดแย้งกันมานาน เนื่องจากบ้านของทั้งคู่อยู่ในที่ดินผืนเดียวกัน และทางผู้ก่อเหตุต้องการขายที่ดิน แต่ทางผู้เสียหายไม่ยินยอม
รายงานระบุด้วยว่า น.ส.เอ เป็นหญิงโสด ฐานะยากจน ต้องดูแลพ่อพิการวัย 80 ปี โดยในแต่ละวันเธอต้องปั่นจักรยานไปทำงาน ไป-กลับวันละ 60 กิโลเมตร ขณะที่หัวหน้างาน บอกว่า น.ส.เอ เป็นคนขยัน มาทำงานแต่เช้า มีนิสัยร่าเริง และเป็นที่รักใคร่ของเพื่อนร่วมงาน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก เฟซบุ๊ก บิ๊กเกรียน
