นักสิทธิมนุษยชน เทียบคดีวุธ ฆ่าหั่นศพอดีตแฟน 14 ชิ้น กับคดีหมอวิสุทธิ์ ที่หั่นศพเมียเช่นกัน ชี้ทั้งคู่กระทำครั้งแรก ไม่ใช่อาชญากรแต่กำเนิด แต่เกิดจากอารมณ์ชั่ววูบ เชื่อจะสำนึกผิดได้ !!
วันที่ 25 มิถุนายน 2561 รายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่อง Amarin TV รายงานบทสัมภาษณ์ คุณสมศรี หาญอนันทสุข กรรมการสมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน มูลนิธิเพื่อนหญิง และอดีตประธานองค์กรสิทธิมนุษยชน แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ถึงคดีสะเทือนขวัญ นายธนกฤต หรือ วุธ ฆ่าหั่นศพอดีตแฟนสาว 14 ชิ้น โดย นางสมศรี เปิดเผยว่า คดีดังกล่าวกระแสสังคมก็ออกมาเรียกร้องให้ประหารชีวิต ซึ่งตนเองก็ยังคงยืนยันคำเดิมคือ คัดค้านการประหาร เนื่องจากนายธนกฤต ผู้ต้องหา ไม่ใช่อาชญากรโดยกำเนิด จึงไม่ควรละเมิดสิทธิมนุษยชน ดังนั้นฆาตกรไม่มีสิทธิ์ไปละเมิดเหยื่อ และสังคมก็ไม่มีสิทธิ์ไปละเมิดสิทธิผู้ต้องหาเช่นกัน
คุณสมศรี เผยว่า คดีฆ่าหั่นศพนี้ไม่ใช่คดีแรก เคยเกิดขึ้นแล้ว คือ คดีนายแพทย์วิสุทธิ์ บุญเกษมสันติ อดีตสูตินารีแพทย์ ฆ่าหั่นศพภรรยาของตัวเอง และเมื่อนายแพทย์วิสุทธิ์ ได้รับโทษ เขาก็สำนึกและทำประโยชน์ตั้งแต่อยู่ในเรือนจำ จนพ้นโทษออกมาตอนนี้ก็บวชเป็นพระแล้ว เพราะเขาไม่ใช่ฆาตกรโดยกำเนิด เป็นเพียงเพราะความหึงหวงและอารมณ์ชั่ววูบ
ทั้งนี้ ตนเองและแอมเนสตี้ฯ ไม่ได้เข้าข้างฆาตกร เพียงแต่อยากให้มองย้อนไปที่คดีของนายแพทย์วิสุทธิ์ ที่เขาทำแล้วก็สำนึก จึงอยากให้สังคมให้อภัยกัน การอภัยคือการเยียวยาทั้ง 2 ฝ่าย แต่ผู้กระทำผิดก็ไม่ใช่ว่าจะให้ออกจากคุกเร็วเกินไป องค์กรสิทธิมนุษยชน แอมเนสตี้ฯ เคลื่อนไหวเรื่องนี้มาโดยตลอด คือ คนทำผิดต้องไม่ลอยนวล พร้อมยืนยันว่าองค์กรเราช่วยเหลือเหยื่อมากกว่าการออกมาเรียกร้องสิทธิ์ให้นักโทษแน่นอน ต้องมีการเยียวยาเหยื่ออย่างเต็มที่
"คนเหล่านี้ ถามว่ามีความเป็นอาชญากรอำมหิตโดยกำเนิดหรือไม่ พี่ก็เชื่อว่ามันคงไม่ใช่ แต่บางทีมันเป็นเรื่องของอารมณ์หึงหวงถึงทำได้ขนาดนั้น"
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
วันที่ 25 มิถุนายน 2561 รายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่อง Amarin TV รายงานบทสัมภาษณ์ คุณสมศรี หาญอนันทสุข กรรมการสมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน มูลนิธิเพื่อนหญิง และอดีตประธานองค์กรสิทธิมนุษยชน แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ถึงคดีสะเทือนขวัญ นายธนกฤต หรือ วุธ ฆ่าหั่นศพอดีตแฟนสาว 14 ชิ้น โดย นางสมศรี เปิดเผยว่า คดีดังกล่าวกระแสสังคมก็ออกมาเรียกร้องให้ประหารชีวิต ซึ่งตนเองก็ยังคงยืนยันคำเดิมคือ คัดค้านการประหาร เนื่องจากนายธนกฤต ผู้ต้องหา ไม่ใช่อาชญากรโดยกำเนิด จึงไม่ควรละเมิดสิทธิมนุษยชน ดังนั้นฆาตกรไม่มีสิทธิ์ไปละเมิดเหยื่อ และสังคมก็ไม่มีสิทธิ์ไปละเมิดสิทธิผู้ต้องหาเช่นกัน
คุณสมศรี เผยว่า คดีฆ่าหั่นศพนี้ไม่ใช่คดีแรก เคยเกิดขึ้นแล้ว คือ คดีนายแพทย์วิสุทธิ์ บุญเกษมสันติ อดีตสูตินารีแพทย์ ฆ่าหั่นศพภรรยาของตัวเอง และเมื่อนายแพทย์วิสุทธิ์ ได้รับโทษ เขาก็สำนึกและทำประโยชน์ตั้งแต่อยู่ในเรือนจำ จนพ้นโทษออกมาตอนนี้ก็บวชเป็นพระแล้ว เพราะเขาไม่ใช่ฆาตกรโดยกำเนิด เป็นเพียงเพราะความหึงหวงและอารมณ์ชั่ววูบ
ทั้งนี้ ตนเองและแอมเนสตี้ฯ ไม่ได้เข้าข้างฆาตกร เพียงแต่อยากให้มองย้อนไปที่คดีของนายแพทย์วิสุทธิ์ ที่เขาทำแล้วก็สำนึก จึงอยากให้สังคมให้อภัยกัน การอภัยคือการเยียวยาทั้ง 2 ฝ่าย แต่ผู้กระทำผิดก็ไม่ใช่ว่าจะให้ออกจากคุกเร็วเกินไป องค์กรสิทธิมนุษยชน แอมเนสตี้ฯ เคลื่อนไหวเรื่องนี้มาโดยตลอด คือ คนทำผิดต้องไม่ลอยนวล พร้อมยืนยันว่าองค์กรเราช่วยเหลือเหยื่อมากกว่าการออกมาเรียกร้องสิทธิ์ให้นักโทษแน่นอน ต้องมีการเยียวยาเหยื่ออย่างเต็มที่
"คนเหล่านี้ ถามว่ามีความเป็นอาชญากรอำมหิตโดยกำเนิดหรือไม่ พี่ก็เชื่อว่ามันคงไม่ใช่ แต่บางทีมันเป็นเรื่องของอารมณ์หึงหวงถึงทำได้ขนาดนั้น"
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
