สตรอง ! สาวไซด์ไลน์ใจเด็ด หมากัดหน้าพังก็ไม่หวั่น ออก รพ. ปุ๊บ รับงานทันที

 
             สาวไซด์ไลน์โดนหมาพิตบูลกัดจมูกแหว่ง ต้องผ่าตัด 4 ครั้ง แต่ยังสตรอง ออกจากโรงพยาบาลปุ๊บ รับงานต่อทันที เจ้าตัวเผย หน้าพังไม่หวั่น แต่เรื่องงานพักไม่ได้

             แคลลี่ แซจ คือ สาวไซด์ไลน์ชาวอเมริกัน วัย 29 ปี ผู้รับงานแนว BDSM โดยเธอเป็นผู้เชี่ยวชาญ Dominatrix หรือเป็นผู้นำ คุมเกมทุกสิ่งทุกอย่างบนเตียง มักจะรับลูกค้าที่มีรสนิยม foot fetish (มีอารมณ์ทางเพศกับเท้า) แคลลี่เชี่ยวชาญการจั๊กจี้มาก และมีฉายาว่า Tickle Queen แน่นอนว่าอาชีพการงานแบบนี้ รูปลักษณ์ภายนอกเป็นสิ่งสำคัญมาก แคลลี่เองก็ใส่ใจดูแลรูปร่างหน้าตาของเธออย่างดีเหมือนกับสาว ๆ ทั่วไป แต่ความโชคร้ายสามารถเกิดขึ้นได้เสมอ

             โดยในเดือนกันยายน ปี 2560 แคลลี่ประสบเหตุร้ายที่ทำให้ใบหน้าของเธอเสียโฉมอย่างรุนแรง แต่ด้วยความสตรองของผู้หญิงคนนี้ เธอกลับไปรับงานแทบจะทันทีที่ออกจากโรงพยาบาล แม้หน้าเต็มไปด้วยรอยเย็บก็ไม่หวั่น

             จากการรายงานของเว็บไซต์เดลี่เมล ระบุว่า นอกจากแคลลี่จะเป็นหญิงสาวผู้ประกอบอาชีพให้บริการทางเพศแล้ว เธอยังทำงานการกุศลอยู่เป็นประจำ และหยิบยื่นน้ำใจให้ผู้อื่นอยู่เสมอ โดยในวันหนึ่งที่เธอว่างงาน เธอพบเห็นชายไร้บ้านอยู่ข้างถนนในมหานครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เธอจึงซื้ออาหารมาให้เขา เพื่อจะได้ประทังความหิว ขณะที่กำลังยื่นถุงอาหารให้นั้น สุนัขพันธุ์พิตบูลของชายไร้บ้านคนนี้ ก็พุ่งมาขย้ำใบหน้าของเธออย่างรุนแรง จนเป็นแผลเหวอะหวะเละเทะ จมูกแทบจะหลุดออกมาทั้งยวง

             "ฉันแทบจะจำเหตุการณ์ในตอนนั้นไม่ได้เลย เพราะมันเกิดขึ้นเร็วมาก พอฉันยกมือแตะจมูกก็พบว่า เฮ้ย จมูกฉันหายไปแล้ว เลือดไหลท่วมหน้าท่วมตาไปหมด และหยดลงพื้นด้วย ฉันแหกปากร้องตะโกนดังลั่น ใครก็ได้ช่วยโทร. แจ้ง 911 ที ฉันไม่โกรธหมานะคะ มันไม่ได้ทำอะไรผิด มันแค่ปกป้องอาณาเขตของมัน และฉันก็ไม่ควรเข้าไปใกล้ขนาดนั้น" แคลลี่ เล่าถึงเหตุการณ์ที่ทำให้จมูกของเธอแหว่งออกไป และเธอก็ไม่แจ้งตำรวจว่าสุนัขตัวไหนกัดเธอ เพราะเธอไม่อยากให้มันถูกพรากจากเจ้าของ และไม่อยากให้มันถูกกำจัด


             แคลลี่ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน ด้วยความที่เนื้อจมูกหายไปมาก แพทย์จึงจำเป็นต้องผ่าตัดเพื่อซ่อมแซมมัน แพทย์ให้แคลลี่เลือก 2 อย่าง ระหว่างตัดผิวหนังจากต้นขาหรือสะโพกมาแปะทับ หรือตัดเนื้อบริเวณหน้าผากมาแปะด้วยวิธีปลูกถ่ายเนื้อเยื่อ ซึ่งแคลลี่เลือกอย่างหลัง เพราะมีความเสี่ยงน้อยกว่า และเธอก็ไม่อยากให้ขาหรือบั้นท้ายมีรอยแผลเป็น ไหน ๆ หน้าก็มีแผลแล้ว ก็ให้แผลมาจากที่เดียวกันไปเลย โดยแคลลี่เข้ารับการผ่าตัด 4 ครั้ง และหลังจากพักฟื้นมาได้ 4 วัน เธอก็ออกจากโรงพยาบาล และกลับไปรับงานตามเดิม ทั้ง ๆ ที่ตายังฟกช้ำเป็นสีม่วง และมีรอยไหมอยู่เต็มจมูก

             "ตอนแรกฉันก็คิดนะว่าฉันคงทำงานต่อไปไม่ได้ เพราะหน้าฉันพังเละมาก แต่พอคิดดูอีกที ฉันยังมีค่าใช้จ่ายเยอะมาก ถึงแม้ว่าประกันจะครอบคลุมค่ารักษาทั้งหมด แต่ฉันยังต้องจ่ายค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟต่าง ๆ ไหนจะค่าอาหารอีก ฉันเลยนอนอยู่บ้านเฉย ๆ ไม่ได้" แคลลี่ กล่าว

             แคลลี่กลับไปทำงานตามเดิม เพียงแต่เปลี่ยนรูปแบบนิดหน่อย จากเดิมเธอจะรับลูกค้า 3 คน ต่อ 1 คืน แต่ขณะที่บาดเจ็บ เธอใช้วิธีรับงานผ่านทางเว็บแคม หรือแชตสยิวแทน และเมื่อจมูกกลับมาหายดีแล้ว แคลลี่ก็กลับไปทำงานเต็มรูปแบบอีกครั้ง ถึงแม้ว่าอุบัติเหตุครั้งนั้นจะทำให้แคลลี่เป็นทุกข์ แต่เธอก็ยังคิดบวก เพราะได้ทำงานที่ตัวเองรักต่อไป และก็เดินหน้าเก็บเงินค่าผ่าตัดครั้งสุดท้าย ซึ่งเธอก็หวังว่าจะรวบรวมเงินได้ตามที่ต้องการในเร็ว ๆ นี้