นางแบบเบลเยียมถูกวิจารณ์รุนแรง หลังแก้ผ้าถ่ายนู้ดใกล้กำแพงโบราณสถานศักดิ์สิทธิ์ ในเยรูซาเลม เจ้าตัวยันไม่ซีเรียส เพราะเป็นศิลปะ รายงานเผย ก่อนหน้านี้เคยโดนจับเพราะถ่ายนู้ดที่อียิปต์มาแล้ว
ภาพจาก marisapapen.com
ย้อนกลับไปเมื่อปีที่แล้ว ชื่อของ มาริสา พาเพน (Marisa Papen)
นางแบบสาวชาวเบลเยียม ได้ปรากฏบนหน้าสื่อหลายแห่งทั่วโลก
หลังจากที่เธอออกมาบอกเล่าประสบการณ์การถูกจับกุมที่อียิปต์
เนื่องจากไปเปลื้องผ้าถ่ายแบบนู้ดบริเวณมหาพีระมิดกีซ่า
และภายในวิหารศักดิ์สิทธิ์เมืองลักเซอร์ หนึ่งในมรดกโลกของยูเนสโก
ซึ่งมาริสากล่าวอย่างภูมิใจว่า การถ่ายภาพดังกล่าวเป็นงานศิลปะ
เธอเคารพในวัฒนธรรมของชาวอียิปต์เป็นอย่างสูง
และมั่นใจว่าพระนางคลีโอพัตราจะต้องภูมิใจในตัวเธอ (อ่านเพิ่มเติมที่ :
นางแบบดอดถ่ายนู้ดในวิหารอียิปต์ จนถูกจับยัดตะราง
พร้อมเผยทริกที่ทำให้รอดมาได้)
มาริสา พาเพน เปลือยกายถ่ายภาพนู้ดที่ วิหารคาร์นัค ในเมืองลักเซอร์ ประเทศอียิปต์ ซึ่งทำให้เธอถูกจับกุม
ภาพจาก marisapapen.com
ล่าสุด มาริสาได้กลับมาสลัดผ้าถ่ายแบบอีกครั้ง และครั้งนี้มันได้สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง เพราะสถานที่ที่เธอเลือกคือ บริเวณกำแพงตะวันตก หรือ กำแพงร้องไห้ (Wailing Wall) โบราณสถานเก่าแก่ ซึ่งเป็นสักการสถานศักดิ์สิทธิ์และเป็นศูนย์รวมจิตใจของทั้งชาวยิว คริสเตียน และมุสลิม ตั้งอยู่ในนครเยรูซาเลม ประเทศอิสราเอล
กำแพงตะวันตก หรือ กำแพงร้องไห้ โบราณสถานศักดิ์สิทธิ์ของเยรูซาเลม
โดยการถ่ายภาพที่อิสราเอลครั้งนี้
เป็นภาพเปลือยทั้งหมด ถ่ายในสถานที่ที่แตกต่างกันออกไป ตั้งแต่ริมถนน
ในน้ำ ไปจนถึงภาพที่มาริสาปีนเสาธงชาติอิสราเอลขณะเปลือย สำหรับภาพบนดาดฟ้านั้น มาริสาถอดเสื้อผ้าหมดทุกชิ้นเหมือนเดิม
เธอนั่งเอนหลังบนเก้าอี้ โพสท่าทางคล้ายว่ากำลังอาบแดด
ฉากหลังของภาพคือกำแพงตะวันตก
ซึ่งด้านล่างเต็มไปด้วยเหล่าผู้ศรัทธาที่เดินทางมาสักการะโบราณสถานศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขา
มาริสา
ผู้เรียกตัวเองว่าเป็นศิลปินผู้มีหัวใจโลดแล่นและมีจิตวิญญาณอิสระ
เปิดเผยว่า ภาพนู้ดชุดดังกล่าวได้รับเสียงชื่นชมจากแฟน ๆ
ชาวอิสราเอลเป็นอย่างมาก แถมพวกเขายังอยากเชิญเธอกลับไปถ่ายรูปสวย ๆ
ที่นั่นอีกครั้ง
ภาพจาก marisapapen.com
ถึงแม้ว่าจะถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากการถ่ายภาพดังกล่าว
แต่มาริสาก็ไม่ได้คิดว่าสิ่งที่เธอทำมันผิดแต่อย่างใด เธอตั้งคำถามว่า
ทำไมใครบางคนต้องรู้สึกโกรธแค้นเมื่อเห็นร่างกายและเนื้อหนัง และกล่าวว่า
ผู้คนถูกล้างสมองมาตั้งแต่เกิด ทำให้ไม่มีโอกาสได้ทำตามใจปรารถนา
และทำอะไรตามสัญชาตญาณดั้งเดิม
ดังนั้นเธอจึงไปสร้างผลงานทางศิลปะที่กำแพงนั้น รวมถึงที่อียิปต์
ด้วยความหวังว่ามันจะสามารถทำลายกรอบความคิดเหล่านั้นได้