x close

ญี่ปุ่นแขวนคอหัวหน้า-สาวกลัทธิคลั่ง ใช้แก๊สพิษสังหารหมู่บนรถไฟฟ้าใต้ดิน

         ญี่ปุ่นประหารชีวิต โชโกะ อาซาฮาระ หัวหน้าลัทธิศาสนาสุดโต่งและสาวก 6 คน โทษฐานใช้แก๊สซารินโจมตีรถไฟฟ้าใต้ดินเมื่อปี 2532 คร่าชีวิต 13 ศพ และบาดเจ็บร่วม 600 ราย นับเป็นเหตุการก่อการร้ายที่รุนแรงที่สุดของญี่ปุ่น


ประหารชีวิตนักโทษญี่ปุ่น คดีสังหารหมู่
ภาพจาก JIJI PRESS / AFP

         วันที่ 6 กรกฎาคม 256 สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า กระทรวงยุติธรรมของประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า นายโชโกะ อาซาฮาระ วัย 63 ปี หัวหน้าลัทธิโอม ชินกิเรียว (Aum Shinrikyo) โทษฐานเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการใช้แก๊สซารินโจมตีผู้โดยสารในขบวนรถไฟฟ้าใต้ดินโตเกียวเมื่อปี 2538 ซึ่งเป็นเหตุก่อการร้ายที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศญี่ปุ่น

         ลัทธิโอม ชินกิเรียว มีความหมายว่า ความจริงอันสูงสุด ก่อตั้งขึ้นโดย โชโกะ อาซาระ หรือ ชิซุโอะ มัตสิโมโต้ ในช่วงทศวรรษที่ 1980 โชโกะผู้เป็นหัวหน้าลัทธิ ประกาศว่าตัวเองคือศาสดาผู้มาโปรดมนุษย์เหมือนกับพระเยซู และตั้งตัวเป็นผู้รู้แจ้งคนที่สอง นับจากพระพุทธเจ้า ในช่วงแรก ๆ โอม ชินกิเรียว เป็นการผสมผสานกันระหว่างความเชื่อทางศาสนาพุทธและฮินดู และปฏิบัติโดยการนั่งสมาธิควบคู่ไปกับการทำโยคะ หลังจากได้รับสถานะองค์กรศาสนาอย่างเป็นทางการ ในปี 2532 ลัทธินี้ก็กลายเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง และมีสาวกหลายแสนคนจากทั่วโลก

ประหารชีวิตนักโทษญี่ปุ่น คดีสังหารหมู่
ภาพจาก JIJI PRESS / AFP

         แต่ในภายหลัง โอม ชินกิเรียว ได้กลายเป็นลัทธิคลั่งหัวรุนแรงและมีความเชื่อเรื่องวันสิ้นโลกอย่างสุดโต่ง พวกเขาเชื่อว่าโลกจะถึงแก่กาลอวสานในสงครามครั้งใหญ่ และจะมีแต่เพียงสาวกเท่านั้นที่รอดชีวิต เหล่าสาวกเริ่มก่อความรุนแรงต่าง ๆ นานา รวมไปถึงการก่อเหตุฆาตกรรมและลอบสังหารหลายครั้ง การโจมตีด้วยแก๊สซารินของลัทธินี้ เริ่มต้นเป็นครั้งแรก ๆ ในปี 2537 ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 8 ราย และยังก่อเหตุใช้สารพิษโจมตีผู้คนตามที่ต่าง ๆ อีกหลายครั้ง แต่นั่นยังไม่ใช่ครั้งที่ร้ายแรงที่สุด

         ในวันที่ 20 มีนาคม 2538 สาวกลัทธิโอม ชินกิเรียว หลาย ๆ คน กระจายกันขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินในกรุงโตเกียว และวางกระเป๋าทิ้งเอาไว้ในขบวนรถไฟ กระเป๋าเหล่านั้นบรรจุถุงใส่แก๊สซาริน ซึ่งเป็นของเหลวไร้สีไร้กลิ่นมีฤทธิ์ทำลายประสาท แก๊สซารินรั่วไหลผ่านถุง ผ่านกระเป๋า กระจายไปทั่วบริเวณ ภายในไม่กี่วินาที เหล่าผู้โดยสารก็แสดงอาการเจ็บป่วย ทั้งคลื่นไส้อาเจียน สำลัก ชักเกร็งเป็นอัมพาต และบางรายตาบอด การก่อเหตุครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 13 ราย และได้รับบาดเจ็บต่าง ๆ อีกกว่า 600 ราย

ประหารชีวิตนักโทษญี่ปุ่น คดีสังหารหมู่
​ภาพจาก JUNJI KUROKAWA / AFP

         เหตุก่อการร้ายดังกล่าวสร้างความสะเทือนขวัญไปทั่วประเทศญี่ปุ่น สาวกลัทธิโอม ชินกิเรียว 19 คน ถูกจับกุมในเวลาต่อมา ศาลตัดสินให้สาวก 6 คน ต้องโทษจำคุกตลอดชีวิต และอีก 13 คนที่เหลือ รวมทั้ง โชโกะ ถูกพิพากษาโทษประหารชีวิต โดยการประหารชีวิตรอบแรก มีขึ้นในวันที่ 6 กรกฎาคม 2561 นักโทษประหารที่ถูกแขวนคอในวันนี้คือ โชโกะ และสาวกอีก 6 คน รวมเป็น 7 คน ส่วนอีก 6 คนที่เหลือ กำลังอยู่ในช่วงรอรับโทษ ซึ่งยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะเป็นวันใด

         สาเหตุที่การประหารชีวิตล่าช้า กินเวลามานานกว่า 23 ปีนั้น เป็นเพราะก่อนหน้าปี 2553 กฎหมายของประเทศญี่ปุ่นระบุไว้ว่าการประหารจะยังไม่ถูกดำเนินการ จนกว่าคำตัดสินจะเป็นที่สิ้นสุด ไม่เหลือการยื่นอุทธรณ์ใด ๆ ค้างไว้อีก ดังนั้นนักโทษประหารชีวิตอาจต้องรอรับโทษนานหลายปี สำหรับการอุทธรณ์ครั้งสุดท้ายของสาวกโอม ชินกิเรียว ก็เพิ่งผ่านพ้นไปเมื่อเดือนมกราคม 2561


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ญี่ปุ่นแขวนคอหัวหน้า-สาวกลัทธิคลั่ง ใช้แก๊สพิษสังหารหมู่บนรถไฟฟ้าใต้ดิน อัปเดตล่าสุด 6 กรกฎาคม 2561 เวลา 17:48:37 33,610 อ่าน
TOP