นักดำน้ำชาวออสเตรเลียเผย เกิดเหตุเครื่องสูบน้ำพังกะทันหัน ระดับน้ำเพิ่งสูงอย่างรวดเร็ว เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังทีมหมูป่าคนสุดท้ายออกจากถ้ำหลวงได้สำเร็จ ทีมกู้ภัยนับร้อยชีวิตวิ่งหนีสุดระทึก
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Thai NavySEAL
วันที่ 11 กรกฎาคม 2561 เว็บไซต์เดอะการ์เดี้ยน เผยรายงานตามติดภารกิจพาทีมเด็ก ๆ นักฟุตบอลเยาวชนและโค้ชทีมหมูป่าฯ 13
ชีวิต ออกจากถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย ประเทศไทย
ซึ่งประสบความสำเร็จไปเป็นที่เรียบร้อยเมื่อคืนที่ผ่านมา (10 กรกฎาคม 2561)
ทว่า
ภายหลังจากทีมช่วยเหลือพาตัวสมาชิกทีมหมูป่าคนสุดท้ายออกจากถ้ำได้เพียงไม่กี่ชั่วโมง
ก็เกิดเหตุเครื่องสูบน้ำในพื้นที่เสียหายกะทันหัน
รายงานระบุว่า ภายหลังจากภารกิจเสร็จสิ้น มีทีมนักดำน้ำและเจ้าหน้าที่กู้ภัยส่วนหนึ่ง ยังคงอยู่ภายในถ้ำที่ความลึกประมาณ 1.5 กิโลเมตร เพื่อจัดการกับอุปกรณ์และเครื่องมือต่าง ๆ แต่แล้วอยู่ ๆ เครื่องสูบน้ำหลักเกิดพังเสียหายขึ้นมาอย่างกะทันหัน ส่งผลให้ระดับน้ำในถ้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
นักดำน้ำชาวออสเตรเลีย
3 ราย (ไม่เปิดเผยชื่อ) ซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุ
เผยกับทางเว็บไซต์เดอะการ์เดี้ยน ระบุว่า ทั้ง 3 ประจำการอยู่ที่บริเวณโถง 3
ซึ่งตั้งเป็นศูนย์บัญชาการ ขณะนั้นได้ยินเสียงร้องดังขึ้น
จากนั้นก็เห็นแสงไฟฉายติดศีรษะของทีมเจ้าหน้าที่ทีมกู้ภัยส่องสว่างไสวมาจากที่ลึกในถ้ำ
ต่างพากันรีบวิ่งออกมายังจุดที่เป็นพื้นที่แห้ง
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Thai NavySEAL
ทีมเจ้าหน้าที่ที่ยังคงเหลืออยู่ในถ้ำกว่า
100 ราย พากันวิ่งหนีออกมาด้วยความระทึก ไม่ถึงชั่วโมงหลังจากนั้น
เจ้าหน้าที่ทั้งหมดก็ออกมาถึงปากถ้ำได้โดยปลอดภัย
ซึ่งในจำนวนนี้รวมถึงเจ้าหน้าที่หน่วยซีลและแพทย์ (หมอภาคย์) ทั้ง 4 ราย
ที่เข้าไปอยู่ภายในถ้ำนานกว่าสัปดาห์เพื่อดูแลอาการทั้ง 13 ชีวิต