ชายวัย 45 เคลียร์ปัญหาสาวคนสนิทไม่ลงตัว มีปากเสียงตบตีกัน สามีฝ่ายหญิงตามมาช่วยห้าม กลับเจอจ่อยิงขมับตายคู่ ก่อนมือยิงจะหันกระบอกปืนจ่อหัวยิงตัวตายตาม
ภาพจาก เฟซบุ๊ก สมพร้อม เนินงาม
วันที่ 16 กรกฎาคม 2561 เดลินิวส์ออนไลน์ รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.เพชรเกษม ได้รับแจ้งเหตุยิงกันตาย บริเวณหน้าบริษัทแห่งหนึ่ง แขวงและเขตบางแค กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
โดยที่เกิดเหตุพบศพผู้เสียชีวิต 3 ราย คือ นายชยุต อายุ 45 ปี สภาพถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. เข้าที่ขมับขวา 1 นัด นอนคว่ำทับร่างนายสรศักดิ์ อายุ 41 ปี ซึ่งถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาดเดียวกันที่ขมับซ้าย 1 นัด ใกล้กันพบ น.ส.สมพร อายุ 31 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาดเดียวกันที่ขมับซ้าย 1 นัด นอนเสียชีวิตพิงประตูรั้วเหล็ก
ภาพจาก เฟซบุ๊ก สมพร้อม เนินงาม
ตรวจสอบบริเวณโดยรอบพบกระเป๋าและรองเท้าของผู้หญิงถอดวางอยู่บริเวณฟุตปาธ และพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่ 4 ปลอก ห่างจากที่เกิดเหตุไปประมาณ 50 เมตร พบรถยนต์โตโยต้า สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน สศ 4123 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นของนายชยุต จอดอยู่ด้านใน เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ก่อนนำศพส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลศิริราช
สอบสวนเพื่อนของนายสรศักดิ์ ให้การว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 03.00 น. เพื่อนของ น.ส.สมพร ได้นั่งวินมอเตอร์ไซค์ไปหานายสรศักดิ์ ซึ่งเป็นสามีของ น.ส.สมพร ที่ร้านลาบ ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร บอกว่า น.ส.สมพร กำลังทะเลาะวิวาทกับนายชยุตอยู่ ให้พวกตนรีบไปดู จากนั้นตนและนายสรศักดิ์พร้อมทั้งเพื่อนอีกคนได้เดินทางมายังที่เกิดเหตุ เมื่อมาถึงก็เห็นนายชยุตกำลังตบตี น.ส.สมพร พวกตนพยายามจะเข้าไปช่วย แต่นายชยุตก็บอกว่าอย่าเข้ามายุ่ง ก่อนจะชักปืนขนาด 9 มม. ออกมาขู่ พวกตนจึงรีบวิ่งหนี
ภาพจาก เฟซบุ๊ก สมพร้อม เนินงาม
จากนั้นนายชยุตได้ล็อกคอ น.ส.สมพร และใช้อาวุธปืนยิงจนเสียชีวิต ก่อนจะหันกระบอกปืนมายิงนายสรศักดิ์ที่พยายามเข้าไปช่วยเหลือภรรยาเสียชีวิตไปอีกคน และนายชยุตก็ยิงตัวตายตามเพื่อหนีความผิด
นอกจากนี้ มีรายงานว่า น.ส.สมพร ได้เดินทางเข้าไปที่ร้านอาหารที่ทำงานอยู่เมื่อเวลาประมาณ 01.30 น. ซึ่งอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร ก่อนจะมีปากเสียงกับนายชยุต ลูกค้าที่มาชอบพอ จึงได้พากันออกมาตกลงกันนอกร้าน กระทั่งเกิดเหตุสลดดังกล่าว
ภาพจาก เฟซบุ๊ก สมพร้อม เนินงาม
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สันนิษฐานเบื้องต้นว่า สาเหตุน่าจะเกิดจากความหึงหวง แต่ทั้งนี้ต้องทำการสอบสวนพยานแวดล้อม ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด และรอผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์อีกครั้ง ก่อนสรุปสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
ภาพจาก เฟซบุ๊ก สมพร้อม เนินงาม
วันที่ 16 กรกฎาคม 2561 เดลินิวส์ออนไลน์ รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.เพชรเกษม ได้รับแจ้งเหตุยิงกันตาย บริเวณหน้าบริษัทแห่งหนึ่ง แขวงและเขตบางแค กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
โดยที่เกิดเหตุพบศพผู้เสียชีวิต 3 ราย คือ นายชยุต อายุ 45 ปี สภาพถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. เข้าที่ขมับขวา 1 นัด นอนคว่ำทับร่างนายสรศักดิ์ อายุ 41 ปี ซึ่งถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาดเดียวกันที่ขมับซ้าย 1 นัด ใกล้กันพบ น.ส.สมพร อายุ 31 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาดเดียวกันที่ขมับซ้าย 1 นัด นอนเสียชีวิตพิงประตูรั้วเหล็ก
ภาพจาก เฟซบุ๊ก สมพร้อม เนินงาม
ตรวจสอบบริเวณโดยรอบพบกระเป๋าและรองเท้าของผู้หญิงถอดวางอยู่บริเวณฟุตปาธ และพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่ 4 ปลอก ห่างจากที่เกิดเหตุไปประมาณ 50 เมตร พบรถยนต์โตโยต้า สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน สศ 4123 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นของนายชยุต จอดอยู่ด้านใน เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ก่อนนำศพส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลศิริราช
สอบสวนเพื่อนของนายสรศักดิ์ ให้การว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 03.00 น. เพื่อนของ น.ส.สมพร ได้นั่งวินมอเตอร์ไซค์ไปหานายสรศักดิ์ ซึ่งเป็นสามีของ น.ส.สมพร ที่ร้านลาบ ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร บอกว่า น.ส.สมพร กำลังทะเลาะวิวาทกับนายชยุตอยู่ ให้พวกตนรีบไปดู จากนั้นตนและนายสรศักดิ์พร้อมทั้งเพื่อนอีกคนได้เดินทางมายังที่เกิดเหตุ เมื่อมาถึงก็เห็นนายชยุตกำลังตบตี น.ส.สมพร พวกตนพยายามจะเข้าไปช่วย แต่นายชยุตก็บอกว่าอย่าเข้ามายุ่ง ก่อนจะชักปืนขนาด 9 มม. ออกมาขู่ พวกตนจึงรีบวิ่งหนี
ภาพจาก เฟซบุ๊ก สมพร้อม เนินงาม
จากนั้นนายชยุตได้ล็อกคอ น.ส.สมพร และใช้อาวุธปืนยิงจนเสียชีวิต ก่อนจะหันกระบอกปืนมายิงนายสรศักดิ์ที่พยายามเข้าไปช่วยเหลือภรรยาเสียชีวิตไปอีกคน และนายชยุตก็ยิงตัวตายตามเพื่อหนีความผิด
นอกจากนี้ มีรายงานว่า น.ส.สมพร ได้เดินทางเข้าไปที่ร้านอาหารที่ทำงานอยู่เมื่อเวลาประมาณ 01.30 น. ซึ่งอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร ก่อนจะมีปากเสียงกับนายชยุต ลูกค้าที่มาชอบพอ จึงได้พากันออกมาตกลงกันนอกร้าน กระทั่งเกิดเหตุสลดดังกล่าว
ภาพจาก เฟซบุ๊ก สมพร้อม เนินงาม
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สันนิษฐานเบื้องต้นว่า สาเหตุน่าจะเกิดจากความหึงหวง แต่ทั้งนี้ต้องทำการสอบสวนพยานแวดล้อม ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด และรอผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์อีกครั้ง ก่อนสรุปสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก