นายแพทย์ผู้ทุ่มเท วัย 60 ปี ตัดสินใจฆ่าตัวตาย หลังเปิดเผยความจริงสุดเลวร้าย ถูกข่มขืนหลายครั้งสมัยเป็นเด็กและวัยรุ่น ภรรยาเผย ต่อไปนี้เขาไม่ต้องทนทุกข์อีกแล้ว
จากรายงานของเว็บไซต์เดลี่เมลเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2561 ระบุว่า ในการให้สัมภาษณ์กับเอบีซีนิวส์ครั้งนั้น สจ๊วร์ตเปิดเผยว่า ในทุก ๆ วัน
เขาต้องกินยาให้สภาพจิตใจของตัวเองสงบลง
เพื่อให้เขาลืมความคิดทำร้ายตัวเองและใช้ชีวิตอยู่ต่อไปได้
หลังจากการอัดเทปเสร็จสิ้นลง สจ๊วร์ตได้นั่งดูการสัมภาษณ์เทปนี้กับ เจเน็ต
ภรรยาของเขา ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2561
ซึ่งเขาก็พึงพอใจกับสิ่งที่ตัวเองกล้าพูดออกไป
แต่การเปิดปากพูดออกมา ก็ใช่ว่าจะเป็นการรักษาแผลให้หายสนิทเสียทีเดียว และในวันที่ 30 พฤษภาคม สจ๊วร์ตได้ตัดสินใจฆ่าตัวตาย จากโลกใบนี้ไปโดยไม่ต้องย้อนคิดถึงฝันร้ายเหล่านั้นอีก
หลังจากที่สจ๊วร์ตเสียชีวิตจากไป
เจเน็ตและลูก ๆ ได้เปิดรับบริจาคในนามของเขาสจ๊วร์ต
เพื่อหาเงินสนับสนุนกลุ่ม Survivors & Mates Support Network
ในเมืองซิดนีย์
โดยองค์กรนี้ทำงานช่วยเหลือผู้คนที่ตกเป็นเหยื่อล่วงละเมิดทางเพศในวัยเด็ก
และในช่วงก่อนที่สจ๊วร์ตจะเสียชีวิต เขาเองก็ทำงานกับองค์กรนี้อย่างจริงจัง
เพื่อช่วยเหลือผู้คนที่ประสบชะตากรรมเหมือน ๆ กับตัวเอง
"ฉันภูมิใจและเป็นเกียรติมากที่ได้เป็นภรรยาของผู้ชายคนนี้ ภายนอกเขาคือความหล่อเหลาสดใส แต่ภายในของเขานั้นเปราะบางและแตกสลาย ร่างกายของเขาเจ็บปวดมานานเหลือเกิน ตอนนี้มันถึงเวลาในการปลดปล่อยแล้ว และจิตวิญญาณของเขาก็ได้รับอิสระแล้ว" เจเน็ต คิดด์ กล่าวถึงการเสียชีวิตของสามีอันเป็นที่รัก ซึ่งถึงแม้ว่าการจากไปของเขาจะทำให้เธอเป็นทุกข์ แต่เขาก็ไม่ต้องทนทรมานอีกต่อไป
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Stuart Kidd
ในช่วงปลายปี 2560 ดร.สจ๊วร์ต คิดด์ คุณหมอชาวออสเตรเลีย วัย 60 ปี
ผู้เพิ่งเกษียณอายุราชการจากการเป็นศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์
ได้ออกมาเปิดเผยกับรายการ You Can't Ask That ทางสถานีโทรทัศน์เอบีซี
ถึงเรื่องราวเลวร้ายที่เกิดขึ้นกับเขาในอดีต โดยตอนที่เขายังเป็นเด็ก
สจ๊วร์ตถูกผู้ชายอายุมากกว่าเขา 30 ปี และ 40 ปี ข่มขืนกระทำเรา
เมื่อเวลาผ่านไป เขาก็พบเจอกับชะตากรรมเดิมอีกครั้ง
แต่คนที่ทำกับเขาคือคนที่เขาเรียกว่าเพื่อน และตอนที่เขาโตเป็นวัยรุ่น
ฝันร้ายนี้ก็กลับมาอีกครั้ง เมื่อเขาถูกผู้ชายอีกคนข่มขืนซ้ำ
ประสบการณ์อันเจ็บปวดได้กลายเป็นบาดแผลในใจสจ๊วร์ตมาตลอดชีวิต
แม้ว่าเขาจะมีครอบครัวที่มีความสุข แต่ฝันร้ายเหล่านี้ก็ไม่เคยจางหายไป
เขาจึงตัดสินใจลุกขึ้นมาบอกเล่า
เพื่อเป็นกระบอกเสียงให้กับคนที่พบเจอชะตากรรมแบบเดียวกัน แต่แล้ว 6
เดือนหลังจากนั้น สจ๊วร์ตก็ได้เลือกเดินจากโลกใบนี้ไป
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Stuart Kidd
แต่การเปิดปากพูดออกมา ก็ใช่ว่าจะเป็นการรักษาแผลให้หายสนิทเสียทีเดียว และในวันที่ 30 พฤษภาคม สจ๊วร์ตได้ตัดสินใจฆ่าตัวตาย จากโลกใบนี้ไปโดยไม่ต้องย้อนคิดถึงฝันร้ายเหล่านั้นอีก
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Stuart Kidd
ภรรยาของสจ๊วร์ต
เปิดเผยถึงสามีอันเป็นที่รักว่า เขาคือคุณหมอผู้ทุ่มเทแรงกายแรงใจทั้งหมดให้กับครอบครัว เขาพยายามทุก ๆ
อย่างเพื่อให้ตัวเองเป็นสามีที่ดีของเธอ เป็นพ่อที่ดีของลูก ๆ
และเป็นคุณปู่คุณตาที่น่ารักของหลาน ๆ
ในขณะที่เขามองหาทางรักษาเยียวยาตัวเองอยู่นั้น
เขาก็ขวนขวายช่วยเหลือคนอื่นอยู่เสมอ
สจ๊วร์ตเคยลงพื้นที่รักษาผู้คนในประเทศยากไร้
รวมทั้งช่วยผ่าตัดทำคลอดให้สตรีในประเทศโลกที่สามอีกด้วย
และเขาก็เคยช่วยสร้างบ้านให้เด็กกำพร้าในประเทศยูกันดามาแล้ว
การที่สจ๊วร์ตลุกขึ้นมาพูดถึงสิ่งที่เขาพบเจอ
มันเป็นการตัดสินใจที่ยากและหนักมาก แต่เขาทำออกมาได้ดีและทรงพลังมาก ทุก ๆ
คนในครอบครัวต่างก็ภูมิใจในความกล้าหาญของเขา
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Stuart Kidd
"ฉันภูมิใจและเป็นเกียรติมากที่ได้เป็นภรรยาของผู้ชายคนนี้ ภายนอกเขาคือความหล่อเหลาสดใส แต่ภายในของเขานั้นเปราะบางและแตกสลาย ร่างกายของเขาเจ็บปวดมานานเหลือเกิน ตอนนี้มันถึงเวลาในการปลดปล่อยแล้ว และจิตวิญญาณของเขาก็ได้รับอิสระแล้ว" เจเน็ต คิดด์ กล่าวถึงการเสียชีวิตของสามีอันเป็นที่รัก ซึ่งถึงแม้ว่าการจากไปของเขาจะทำให้เธอเป็นทุกข์ แต่เขาก็ไม่ต้องทนทรมานอีกต่อไป