น้ำตาซึม ครอบครัวสูญเสียลูกชายวัย 3 ขวบจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ แต่เด็กชาย 5 คน ได้ต่อลมหายใจ รอดชีวิตมาได้อีกครั้ง เพราะได้รับบริจาคอวัยวะจากเขา
เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2561 เว็บไซต์เดลี่เมล เผยเรื่องราวชวนเศร้าปนซึ้งใจของครอบครัวบรูคและอิบราฮิม อูราสลี จากนครซิดนีย์ ออสเตรเลีย พวกเขาต้องสูญเสีย เซน อูราสลี ลูกชายวัย 3 ขวบไปเพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์ แต่ในตอนที่ชีวิตน้อย ๆ ชีวิตหนึ่ง ได้ลาจากโลกนี้ไป เขาได้ให้สิ่งที่ยิ่งใหญ่ไว้ ซึ่งช่วยต่อลมหายใจให้ถึง 5 ชีวิตด้วยกัน
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนตุลาคม ปีที่ผ่านมา หนูน้อยเซน ประสบอุบัติเหตุถูกรถชนจนได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังจากอยู่ในไอซียูได้ 10 วัน อาการก็แย่ลงเรื่อย ๆ จนความหวังริบหรี่ ครอบครัวต้องตัดสินใจครั้งที่เจ็บปวดที่สุด ยอมให้แพทย์ถอดเครื่องช่วยหายใจของลูกชายออก แต่ก่อนหน้านั้น บรูคและอิบราฮิมได้ตกลงที่จะบริจาคอวัยวะของลูกชายให้กับเด็กชายผู้ป่วย 5 คน ที่กำลังนอนรอรับความช่วยเหลืออยู่
มาสัน วัย 6 ขวบ เป็น 1 ใน 5 เด็กชายที่ได้รับบริจาคอวัยวะจากหนูน้อยเซน ทาเทียนา จอห์นสัน แม่ของมาสัน เล่าว่า ตอนที่เธอได้รับโทรศัพท์ว่าลูกชายของเธอจะได้รับบริจาคปอดแล้ว เธอรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก ในขณะเดียวกันเธอก็รู้สึกเศร้าสุดใจ เมื่อนึกว่าครอบครัวของหนูน้อยผู้บริจาคอวัยวะ จะต้องเศร้าเสียใจมากเพียงใดที่ต้องสูญเสียลูกชายซึ่งเป็นที่รัก
ทั้งนี้ ตามกฎหมายของออสเตรเลียแล้ว ทางโรงพยาบาลไม่ได้รับอนุญาตให้เปิดเผยข้อมูลผู้บริจาคและผู้รับบริจาคอวัยวะให้ทราบ แต่เนื่องจากในโซเชียลมีเดีย ได้มีการเผยแพร่ข่าวการเสียชีวิตของหนูน้อยเซน รวมทั้งเรื่องที่ครอบครัวตัดสินใจบริจาคอวัยวะลูกชาย ทำให้ทาเทียนา ทราบว่า มาสันได้รับบริจาคปอดมาจากหนูน้อยเซน
ทาเทียนาตัดสินใจติดต่อไปยังครอบครัวของหนูน้อยเซนผ่านทางโซเชียล เพื่อจะขอบคุณพวกเขาด้วยความซึ้งใจที่ช่วยต่อลมหายใจให้กับลูกชายของเธอ พร้อมทั้งแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการสูญเสียที่พวกเขาต้องเผชิญ
ทาเทียนา ยอมรับว่ามันเป็นการตัดสินใจที่ยากมาก ๆ เธอกล่าวว่า "ตอนนั้นฉันสองจิตสองใจ ฉันไม่อยากเพิ่มบาดแผลความเจ็บปวดให้กับครอบครัวหนูน้อยเซน แต่ก็คิดว่าสิ่งนี้น่าจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่ฉันอยากจะทำ"
ไม่ถึง 1 สัปดาห์หลังจากบรูคและอิบราฮิม จัดการพิธีศพของหนูน้อยเซนเสร็จสิ้น บรูคได้รับข้อความจากทาเทียนา ซึ่งมันทำให้เธอหัวใจเต้นแรงอย่างที่สุด
"ฉันรู้ว่ามันเป็นแค่ชิ้นส่วนหนึ่งของร่างกาย แต่มันเป็นสิ่งที่เติบโตอยู่ในตัวฉันมานาน 9 เดือน เป็นส่วนหนึ่งในร่างกายของเซน และตอนนี้ฉันก็ได้เห็นแล้วว่ามันไปอยู่ที่ไหน ฉันคิดว่ามันสำคัญมาก ๆ" บรูค กล่าว
หลังจากการติดต่ออย่างซึ้งใจในครั้งนั้น ทั้งสองครอบครัวก็เริ่มสานสัมพันธ์มิตรภาพที่ดีต่อกัน และในที่สุดพวกเขาทั้งสองครอบครัวก็ตัดสินใจพบหน้ากันเป็นครั้งแรก นอกจากนี้ ทั้งสองครอบครัวยังได้พยายามผลักดันให้มีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับกฎหมาย ให้ครอบครัวผู้บริจาคและผู้รับบริจาคอวัยวะสามารถมาพบเจอกันได้อย่างถูกต้อง
จากความเศร้าเสียใจที่ต้องสูญเสียลูกชายไปในวันนั้น ถึงวันนี้ได้เกิดเป็นความรู้สึกตื้นตันใจขึ้น เด็กชายแปลกหน้า 5 คน ที่ครอบครัวบรูคและอิบราฮิมไม่เคยรู้จักเลย ได้มีลมหายใจอีกครั้ง เพราะได้รับบริจาคอวัยวะจากลูกชายของพวกเขาที่ลาลับไป
"เซนได้มอบรอยยิ้มให้กับอีก 5 ครอบครัว การได้รู้ว่าทั้ง 5 ครอบครัวนั้นมีความสุข มันก็ทำให้เราสุขใจเช่นเดียวกัน" อิบราฮิม กล่าว