สามีโพสต์เฟซบุ๊กอาลัยภรรยา อ้างภรรยาฆ่าตัวตาย ทั้งที่ยังไม่พบศพ สังคมออนไลน์จับพิรุธหลายจุด ด้านเจ้าหนี้ไม่ปักใจเชื่อ คาดตบตาหนีหนี้กว่า 5 ล้านบาท
สังคมโซเชียลตามติดเหตุการณ์ของสามีภรรยาคู่หนึ่ง ที่เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2561 สามีโพสต์เฟซบุ๊กในเชิงว่าภรรยาเสียชีวิตแล้ว แต่ยังหาศพไม่พบ อ้างว่าพบจดหมายลาตายของภรรยา คาดว่าภรรยากินน้ำยาล้างห้องน้ำ กับยาพาราหลายเม็ด แล้วเดินลงแม่น้ำน่าน จ.พิษณุโลก เพื่อฆ่าตัวตาย ประกอบกับมีพยานเห็นผู้หญิงเดินลงน้ำ แต่เมื่อข้ามฝั่งไปดูกลับไม่พบ มีเพียงรองเท้าที่ถอดไว้ริมแม่น้ำ
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ Return ได้โพสต์ตามติดสถานการณ์และแชร์ความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ในหลายแง่มุม โดยลำดับเหตุการณ์คือ
- วันที่ 15 กรกฎาคม 2561 เวลาประมาณ 3 ทุ่ม ภรรยาที่สามีอ้างว่าฆ่าตัวตาย ได้โทร. ยืมเงินกับเจ้าหนี้ 2 แสนบาท
- วันที่ 16 กรกฎาคม เวลาประมาณตี 3 ถึงตี 5 ภรรยาได้ส่งข้อความขออโหสิกรรมกับเจ้าหนี้ทุกราย แล้วหายตัวไป ซึ่งเพื่อน ๆ รวมถึงเจ้าหนี้ที่ได้รับข้อความ ได้โทร. บอกให้สามีรีบไปดูภรรยา เพราะเกรงจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น แต่สามีกลับไม่ตกใจ และไม่ได้รีบร้อนไปดูภรรยา บอกว่าภรรยาเคยบ่นอยากตายหลายครั้งแล้ว
- ต่อมาสามีไปหาภรรยาที่ร้านขายเสื้อที่ทำร่วมกัน อ้างว่าพบจดหมายลาตาย ข้อความระบุว่า ถ้าเจอศพไม่ต้องทำพิธีสวด ให้เผาเลย และยังมีน้ำยาล้างห้องน้ำที่เหลือแค่ครึ่งขวด กับแผงยาพาราที่แกะกินไปแล้วหลายเม็ด โดยสามีคาดว่าภรรยากินเพื่อฆ่าตัวตาย
- อีกวันต่อมา มีข่าวจากคนตกปลาบริเวณแม่น้ำน่าน จ.พิษณุโลก เห็นผู้หญิงเดินลงน้ำ แต่ข้ามฝั่งไปดูแล้วไม่เจอ มีเพียงรองเท้าถอดไว้ที่ริมน้ำ จึงนำรองเท้าไปแจ้งความกับตำรวจ และยังมีพยานคนอื่นที่เห็นอีกรวมเป็น 4 คน ต่อมาหน่วยกู้ภัยได้ช่วยกันงมหาศพถึง 3 วัน แต่ก็ไม่เจอ
- เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2561 เพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ Return ตั้งข้อสงสัยไว้หลายประเด็น ทั้งเรื่องที่สามีผู้โพสต์ ปักใจเชื่อว่าภรรยาตายแล้ว ทั้งที่ยังไม่พบศพ ประเด็นต่อมาคือ มีการยืมเงินผู้อื่นก่อนตายเป็นเงิน 2 แสนบาท ซึ่งชาวเน็ตพากันสงสัยว่า คนจะตายต้องใช้เงินด้วยเหรอ
- เมื่อไม่นานนี้ ตัวสามีได้ลบข้อความอาลัยภรรยาทั้งหมดแล้ว และได้ขอให้ทางเพจที่ช่วยแชร์ลบโพสต์ด้วย ยิ่งไปกว่านั้น เจ้าหนี้ที่ตามไปทวงหนี้กับสามี กลับถูกปฏิเสธและบอกให้ไปทวงกับคนตายเอาเอง จากนั้นก็ถูกบล็อกไปทุกราย
จากเรื่องราวทั้งหมด ทำให้ชาวเน็ตต่างพากันสงสัย และมีหลายความคิดเห็นที่คาดว่า 2 สามีภรรยา ทำไปเพื่อตบตาเจ้าหนี้ เพราะทั้งคู่ติดหนี้นอกระบบกว่า 4-5 ล้านบาท และต้องการหนีหนี้ อย่างไรก็ตาม เรื่องจริงจะเป็นอย่างไรกันแน่นั้น ต้องติดตามความกระจ่างกันต่อไป
สังคมโซเชียลตามติดเหตุการณ์ของสามีภรรยาคู่หนึ่ง ที่เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2561 สามีโพสต์เฟซบุ๊กในเชิงว่าภรรยาเสียชีวิตแล้ว แต่ยังหาศพไม่พบ อ้างว่าพบจดหมายลาตายของภรรยา คาดว่าภรรยากินน้ำยาล้างห้องน้ำ กับยาพาราหลายเม็ด แล้วเดินลงแม่น้ำน่าน จ.พิษณุโลก เพื่อฆ่าตัวตาย ประกอบกับมีพยานเห็นผู้หญิงเดินลงน้ำ แต่เมื่อข้ามฝั่งไปดูกลับไม่พบ มีเพียงรองเท้าที่ถอดไว้ริมแม่น้ำ
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ Return ได้โพสต์ตามติดสถานการณ์และแชร์ความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ในหลายแง่มุม โดยลำดับเหตุการณ์คือ
- วันที่ 15 กรกฎาคม 2561 เวลาประมาณ 3 ทุ่ม ภรรยาที่สามีอ้างว่าฆ่าตัวตาย ได้โทร. ยืมเงินกับเจ้าหนี้ 2 แสนบาท
- วันที่ 16 กรกฎาคม เวลาประมาณตี 3 ถึงตี 5 ภรรยาได้ส่งข้อความขออโหสิกรรมกับเจ้าหนี้ทุกราย แล้วหายตัวไป ซึ่งเพื่อน ๆ รวมถึงเจ้าหนี้ที่ได้รับข้อความ ได้โทร. บอกให้สามีรีบไปดูภรรยา เพราะเกรงจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น แต่สามีกลับไม่ตกใจ และไม่ได้รีบร้อนไปดูภรรยา บอกว่าภรรยาเคยบ่นอยากตายหลายครั้งแล้ว
- ต่อมาสามีไปหาภรรยาที่ร้านขายเสื้อที่ทำร่วมกัน อ้างว่าพบจดหมายลาตาย ข้อความระบุว่า ถ้าเจอศพไม่ต้องทำพิธีสวด ให้เผาเลย และยังมีน้ำยาล้างห้องน้ำที่เหลือแค่ครึ่งขวด กับแผงยาพาราที่แกะกินไปแล้วหลายเม็ด โดยสามีคาดว่าภรรยากินเพื่อฆ่าตัวตาย
- อีกวันต่อมา มีข่าวจากคนตกปลาบริเวณแม่น้ำน่าน จ.พิษณุโลก เห็นผู้หญิงเดินลงน้ำ แต่ข้ามฝั่งไปดูแล้วไม่เจอ มีเพียงรองเท้าถอดไว้ที่ริมน้ำ จึงนำรองเท้าไปแจ้งความกับตำรวจ และยังมีพยานคนอื่นที่เห็นอีกรวมเป็น 4 คน ต่อมาหน่วยกู้ภัยได้ช่วยกันงมหาศพถึง 3 วัน แต่ก็ไม่เจอ
- เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2561 เพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ Return ตั้งข้อสงสัยไว้หลายประเด็น ทั้งเรื่องที่สามีผู้โพสต์ ปักใจเชื่อว่าภรรยาตายแล้ว ทั้งที่ยังไม่พบศพ ประเด็นต่อมาคือ มีการยืมเงินผู้อื่นก่อนตายเป็นเงิน 2 แสนบาท ซึ่งชาวเน็ตพากันสงสัยว่า คนจะตายต้องใช้เงินด้วยเหรอ
- เมื่อไม่นานนี้ ตัวสามีได้ลบข้อความอาลัยภรรยาทั้งหมดแล้ว และได้ขอให้ทางเพจที่ช่วยแชร์ลบโพสต์ด้วย ยิ่งไปกว่านั้น เจ้าหนี้ที่ตามไปทวงหนี้กับสามี กลับถูกปฏิเสธและบอกให้ไปทวงกับคนตายเอาเอง จากนั้นก็ถูกบล็อกไปทุกราย
จากเรื่องราวทั้งหมด ทำให้ชาวเน็ตต่างพากันสงสัย และมีหลายความคิดเห็นที่คาดว่า 2 สามีภรรยา ทำไปเพื่อตบตาเจ้าหนี้ เพราะทั้งคู่ติดหนี้นอกระบบกว่า 4-5 ล้านบาท และต้องการหนีหนี้ อย่างไรก็ตาม เรื่องจริงจะเป็นอย่างไรกันแน่นั้น ต้องติดตามความกระจ่างกันต่อไป