คนงานประท้วง 100 ชีวิตแสดงพลัง เลิกทำงาน หลังเพื่อนร่วมชาติถูกไล่ออก-เหยียดผิว

คนงานชาวเม็กซิกัน กว่า 100 คน พร้อมใจเดินออกจากไซต์งานก่อสร้าง หลังหัวหน้างานเหยียดเชื้อชาติ และไล่คนงานออกไปดื้อ ๆ เป็นการแสดงพลังครั้งใหญ่ ว่าจะไม่ยอมให้ใครกดขี่

คนงาน 100 ชีวิตแสดงพลัง เลิกทำงาน หลังเพื่อนร่วมชาติถูกไล่ออก-เหยียดผิว

ภาพจาก Antoine Dangerfield

เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2561 เว็บไซต์อินดี้วันฮันเดรด รายงานว่า เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นที่ไซต์งานก่อสร้างโกดังเก็บสินค้าแห่งใหม่ของ บริษัท ยูพีเอส (UPS) ในเมืองอินเดียแนโพลิส รัฐอินดิแอนา สหรัฐอเมริกา โดยคนงานก่อสร้างชาวเม็กซิกันกว่า 100 คน พร้อมใจยุติการทำงานทุกอย่าง และพากันเดินออกจากไซต์ก่อสร้าง หลังจากที่เจ้านายคนหนึ่งไล่คนงานชาวเม็กซิกันออกไปหลายคน คลิปวิดีโอบันทึกเหตุการณ์ดังกล่าวกำลังเป็นกระแสไวรัลอยู่ในขณะนี้ และมีคนเข้าไปดูแล้วหลายล้านครั้ง

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ที่ผ่านมา โดยมีบริษัทก่อสร้างหลายแห่งทำงานอยู่ที่ไซต์งานนี้ หนึ่งในนั้นคือบริษัทที่มีคนงานส่วนใหญ่เป็นชาวเม็กซิกัน ตอนแรกทุกอย่างก็เป็นไปด้วยดี จนกระทั่งหัวหน้างานคนหนึ่งแสดงพฤติกรรมเหยียดเชื้อชาติ เขากล่าวหาคนงานชาวเม็กซิกัน 5-6 คน ว่าไม่เชื่อฟังคำสั่ง เนื่องจากไม่ยอมเป็นล่ามให้

ภาพจาก Antoine Dangerfield

เมื่อคนงานคนอื่น ๆ รับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพี่น้องร่วมชาติ พวกเขาก็ไม่พอใจอย่างมาก เทงานทุกอย่างทิ้ง และพร้อมใจกันเดินออกจากไซต์งาน ทำให้การดำเนินการทุกอย่างกลายเป็นอัมพาต เพราะแทบไม่มีคนงานเหลืออยู่

ตอนนั้น อองตวน เดนเจอร์ฟิลด์ ชายหนุ่มผิวสี วัย 30 ปี ช่างเชื่อมโลหะของบริษัทก่อสร้างอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งทำงานอยู่ในไซต์เดียวกัน ได้ถ่ายคลิปวิดีโอบันทึกเหตุการณ์ดังกล่าวเอาไว้ โดยในคลิปจะเห็นได้ว่าคนงานจำนวนมากกำลังจัดการเคลียร์งานของตัวเองและพากันเดินออกไป ผลคือโกดังขนาดใหญ่กลายสภาพเป็นโกดังร้างว่างเปล่า ไม่เหลือใครอีกเลย

อองตวนกล่าวในคลิปว่า เขาประทับใจมาก เขาอยากให้ทุก ๆ คนไม่ว่าจะเป็นเม็กซิกัน ละติน หรือผิวสี ได้ดูเอาไว้ อะมีโก (พี่น้องหรือเพื่อนฝูง) เหล่านี้ ได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม พวกเขาไม่อดทนกับการดูถูกเหล่านั้น พวกเขาพร้อมใจกันทิ้งทุกสิ่ง เก็บข้าวของของตัวเองและเดินออกไปโดยไม่สนใจอะไรใด ๆ ทั้งสิ้นอีกแล้ว พี่น้องเหล่านี้เอาจริง ไม่ได้ล้อเล่น และมันได้แสดงให้เห็นว่าอย่าคิดมาดูถูกกัน

ภาพจาก Antoine Dangerfield

          "หัวหน้างานฝ่ายความปลอดภัยคนหนึ่งเป็นคนที่ชอบเหยียดเชื้อชาติ เขาชอบหาเรื่องใครก็ตามที่ไม่ใช่คนผิวขาว ชอบเดินมายุ่งวุ่นวาย ถ่ายรูปถ่ายคลิป เพื่อจะหาเรื่องไล่ออก พวกคนงานเชื้อสายฮิสปานิกจึงพยายามหลีกเลี่ยง ไม่ค่อยอยากไปยุ่งกับเขา และในวันนั้น หัวหน้าคนนี้เรียกคนงานเม็กซิกันคนหนึ่งมาหา สั่งให้คอยเป็นล่ามแปลภาษาในการประชุม แต่เขาไม่อยากทำ จึงได้ปฏิเสธไป หัวหน้าโกรธมาก หัวร้อนมาก เขาสั่งยกเลิกการประชุม และไล่คนงานเม็กซิกันกลับบ้านทีเดียว 6 คนรวด"

          "สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นก็คือ คนงานเม็กซิกันมารวมตัวกัน และมันเหมือนแบบ 'เฮ้ย พวกเราคือครอบครัวเดียวกัน เป็นลูกหลานพ่อแม่พี่น้อง เราจะไม่ยอมให้คนพวกนั้นมากดหัวเรา' ผมรู้สึกได้ถึงพลังของพวกเขา มันเจ๋งมากให้ตายเถอะ พวกเขาเดินเชิดหน้าออกไปอย่างสตรอง มันโดนใจผมจริง ๆ ความรู้สึกของผมในตอนนั้น มันเป็นอะไรที่แบบ ว้าว มันยอดเยี่ยมมากที่ได้เห็นพวกเขาร่วมใจกันเป็นหนึ่ง กล้าลุกขึ้นมาอยู่เคียงข้างพวกพ้อง และไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมากดขี่" อองตวน กล่าวกับนิตยสาร Jacobin ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนั้น

คนงานเม็กซิกันกว่า 100 คน จากบริษัทดังกล่าว ไม่ได้เป็นสมาชิกสภาพแรงงาน ดังนั้นการที่พวกเขากล้าลุกขึ้นมาประท้วงแบบนั้น โดยไม่เกรงกลัวผลที่ตามมา นับว่าเป็นการกระทำที่กล้าหาญ เขาไม่ได้รู้สึกโกรธ หรือไม่พอใจที่งานต้องหยุดชะงัก ไม่ได้ดำเนินไปต่อ และไม่รู้สึกเสียใจที่ตัวเองถูกไล่ออกเพราะโพสต์คลิป เขายอมรับว่าสิ่งที่เห็นเป็นการเปิดโลกใบใหม่ มันทำให้เขาได้รับรู้ว่าการที่ผู้คนรวมตัวกันแล้วลุกขึ้นสู้มันมีความหมายมากแค่ไหน

          "ผู้คนกว่า 5 ล้านคน ได้ดูคลิปวิดีโอนั้น แม้ว่าผมจะต้องตกงาน แต่มันเป็นเรื่องเล็กน้อยมาก เมื่อเทียบกับสิ่งที่ผมได้โพสต์ออกไป ผมอยากให้หลาย ๆ คนได้ตระหนักถึงสิ่งนั้นเหมือน ๆ กับผม อยากให้มันเป็นการสร้างแรงบันดาลใจ เพราะถ้าเรามองไปยังคนอื่น ๆ แล้วเข้าใจว่าเขาก็เป็นเหมือนเรา เป็นพวกเดียวกัน เป็นคนเหมือนกัน และเมื่อรวมตัวกันแล้ว พวกเราจะสามารถเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่างได้" อองตวน กล่าว

คนงาน 100 ชีวิตแสดงพลัง เลิกทำงาน หลังเพื่อนร่วมชาติถูกไล่ออก-เหยียดผิว