รอง ผบ.ตร. ปัดข่าวลือจับเสี่ยอ้วน บงการฆ่าคู่รักเขาชีจรรย์ ล่าสุด พบเบาะแสหนีกบดานเขมรแล้ว เร่งประสานจับกุมตัวกลับไทย
วันที่ 7 สิงหาคม 2561 พล.ต.อ. เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกระแสเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัว นายปัญญา ยิ่งดัง หรือ เสี่ยอ้วน บางลา เจ้าของสถานบันเทิงหลายแห่งใน จ.ภูเก็ต ผู้ต้องหาตามหมายจับบงการฆ่า น.ส.ปวีณา นาเมืองรักษ์ หรือ น้องสปาย อายุ 20 ปี และนายอนันตชัย จริตรัมย์ หรือ น้องฟอส อายุ 21 ปี เสียชีวิตบริเวณลานจอดรถฝั่งตรงข้ามพระพุทธรูปแกะสลักหน้าผาเขาชีจรรย์ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2561 ว่า ยืนยันว่ายังจับกุมตัวไม่ได้ ซึ่งได้สั่งการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่ติดตามความเคลื่อนไหวของผู้ต้องหาตามรอยต่อบริเวณแถบชายแดนไทย-กัมพูชา
ขณะที่ พล.ต.ต. ไมตรี ฉิมเฉิด ผู้บังคับการปราบปราบ ได้ปฏิเสธการจับกุมตัว เสี่ยอ้วน เช่นกัน โดยยืนยันว่าเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเร่งรัดติดตามจับกุมตัว พร้อมยอมรับว่าจากแนวทางการสืบสวนขณะนี้ พบเบาะแสของผู้ต้องหาหลบไปที่ประเทศกัมพูชาจริง โดยไปอาศัยกบดานอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งของประเทศกัมพูชา ซึ่งตนได้ประสานกับทางการกัมพูชา เพื่อขอให้ช่วยติดตามจับกุมตัวอีกทางหนึ่งแล้ว
วันที่ 7 สิงหาคม 2561 พล.ต.อ. เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกระแสเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัว นายปัญญา ยิ่งดัง หรือ เสี่ยอ้วน บางลา เจ้าของสถานบันเทิงหลายแห่งใน จ.ภูเก็ต ผู้ต้องหาตามหมายจับบงการฆ่า น.ส.ปวีณา นาเมืองรักษ์ หรือ น้องสปาย อายุ 20 ปี และนายอนันตชัย จริตรัมย์ หรือ น้องฟอส อายุ 21 ปี เสียชีวิตบริเวณลานจอดรถฝั่งตรงข้ามพระพุทธรูปแกะสลักหน้าผาเขาชีจรรย์ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2561 ว่า ยืนยันว่ายังจับกุมตัวไม่ได้ ซึ่งได้สั่งการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่ติดตามความเคลื่อนไหวของผู้ต้องหาตามรอยต่อบริเวณแถบชายแดนไทย-กัมพูชา
ขณะที่ พล.ต.ต. ไมตรี ฉิมเฉิด ผู้บังคับการปราบปราบ ได้ปฏิเสธการจับกุมตัว เสี่ยอ้วน เช่นกัน โดยยืนยันว่าเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเร่งรัดติดตามจับกุมตัว พร้อมยอมรับว่าจากแนวทางการสืบสวนขณะนี้ พบเบาะแสของผู้ต้องหาหลบไปที่ประเทศกัมพูชาจริง โดยไปอาศัยกบดานอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งของประเทศกัมพูชา ซึ่งตนได้ประสานกับทางการกัมพูชา เพื่อขอให้ช่วยติดตามจับกุมตัวอีกทางหนึ่งแล้ว
รายงานระบุด้วยว่า หลังเกิดเหตุ "เสี่ยอ้วน" ได้หลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่ง ใน ต.ปอยเปต เมืองชายแดนไทย-กัมพูชา และมีการเปิดใช้โทรศัพท์มือถือเพียง 3 ครั้ง โดยหนึ่งในหมายเลขโทรศัพท์ พบว่ามีการโทร. เข้ามาในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อติดต่อคนไทยคนหนึ่ง ซึ่งเป็นพี่ชายของลูกน้อง เสี่ยอ้วน ใน จ.ภูเก็ต ที่มีภรรยาอยู่ในกัมพูชา เพื่อขอให้พาหลบหนีไปซ่อนตัวในหมู่บ้านเกาะพงสัก ต.สวาย จ.บันเตียเมียนเจย ซึ่งห่างจาก ต.ปอยเปต ประมาณ 60 กม.
