คนขับรถเก๋งดำ ยอมรับแล้วผมหลับใน หลังอ้างถูกลุงวิ่งปาดหน้ารถ ชี้ไม่ได้ชนแรง ขณะที่พยานบอกไม่เชื่อลุงตัดหน้า เพราะแผลเต็มหลัง แต่ด้านหน้าไม่เป็นอะไรเลย
จากกรณี เฟซบุ๊ก AUiiz Tawakit โพสต์คลิปกล้องวงจรปิด
เหตุการณ์รถเก๋งสีดำพุ่งชนลุงที่กำลังเดินอยู่ในซอยแห่งหนึ่ง
แต่คนขับให้การกับตำรวจว่าถูกคนวิ่งตัดหน้ารถ
แต่เมื่อเทียบคำให้การกับกล้องวงจรปิด ขัดแย้งกันเหลือเกิน
ชาวโซเชียลจึงแนะแจ้งข้อหาให้การเท็จเพิ่ม ตามที่รายงานไปแล้วนั้น
(อ่านข่าว : เก๋งพุ่งชนคนจนล้มในซอย กลับบอกตำรวจโดนวิ่งตัดหน้า
แต่พอดูวงจรปิด... มันใช่เหรอ)
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 11 สิงหาคม 2561
รายการทุบโต๊ะข่าว
ช่องอมรินทร์ ทีวี
รายงานการสัมภาษณ์เจ้าของโพสต์ดังกล่าวคือ นายเทวกฤต คีตาภัทรกาลีน อายุ 31
ปี เผยว่า ลูกชายของลุงที่ถูกรถชนได้เข้ามาขอกล้องวงจรบริเวณหน้าบ้านตน
เพราะเป็นจุดเกิดเหตุ พร้อมเล่าว่าคนขับให้การว่าลุงวิ่งตัดหน้ารถ
จึงอยากขอดูหลักฐาน ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็น วันที่ 9
สิงหาคม ขณะลุงกำลังวิ่งออกกำลังกาย รถเก๋งสีดำก็ขับมาชนจากด้านหลัง
ดูจากภาพแล้วรถเก๋งขับมาเร็วมาก
ทั้งที่การขับรถในซอยหมู่บ้านไม่น่าจะขับเร็วขนาดนั้น
ตนจึงนำคลิปมาโพสต์เพราะรู้สึกสงสารและกลัวลุงจะไม่ได้รับความเป็นธรรม
ทางด้าน นางจุฑามาศ ธีโรภาส ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า
ตนกำลังขับรถกลับบ้าน พบลุงรายหนึ่งถูกรถชน จึงรีบลงมาช่วยเหลือ
พร้อมหยิบหมอนมารองคอให้
เมื่อเปิดด้านหลังพบว่าเลือดไหลและมีรอยช้ำเต็มแผ่นหลัง
สอบถามคนขับรถเล่าว่า ลุงวิ่งมาตัดหน้ารถ
แต่เมื่อเห็นบาดแผลคนเจ็บตนก็ไม่อยากจะเชื่อ เพราะน่าจะถูกชนจากด้านหลัง
นอกจากนี้ คนเจ็บมีบัตรผู้พิการทางการได้ยินอยู่ในกระเป๋า
คาดว่าอาจจะไม่ได้ยินเสียงรถที่ขับมาจากด้านหลัง
ทั้งนี้ลุงที่ถูกชนมักจะเดินในซอยเป็นประจำ โดยเฉพาะช่วงเย็น
โดยทุกคนจะทราบดีว่ามีคนวิ่งออกกำลังกายในซอย
ส่วนใหญ่จึงไม่มีใครขับรถเร็วในเวลานั้น
ด้าน นายต้อม
คนขับรถ ยอมรับว่าหลับใน และไม่เห็นลุงที่เดินอยู่
ซึ่งเมื่อรู้สึกตัวตอนชนก็ตกใจ
เมื่อถามคนที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่าลุงวิ่งและล้มเข้าหารถตน
จึงพูดไปตามนั้น แต่ตนก็ไม่ได้หนี แถมยังโทร. เรียกรถพยาบาล
รวมถึงคุยกับครอบครัวของลุงแล้ว ยินดีช่วยเหลือตาม พ.ร.บ.
นอกจากนี้ตนไม่ได้ชนแรง ตัวลุงก็ไม่ได้มีอาการบาดเจ็บสาหัสแต่อย่างใด
เพราะตนขับรถประมาณ 30 กม./ชั่วโมง เท่านั้น
