ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม แฉคลิปเสียงตำรวจกรรโชกทรัพย์ผู้ต้องหาในคดีลักทรัพย์ ขณะที่ผู้เสียหาย ยืนยันว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด ด้านผู้กำกับ สน.บางโทรัด ท้าสาบานไม่มีการเรียกเงินปิดคดี
จากกรณี เฟซบุ๊ก ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้ถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊ก เผยแพร่คลิปเสียงความยาว 1.43 นาที ที่อ้างว่าเป็นเสียงของตำรวจ สภ.บางโทรัด จ.สมุทรสาคร จากคลิปเสียงดังกล่าวมีการกรรโชกทรัพย์ผู้ต้องหาในคดีลักทรัพย์ โดยเป็นการคุยโทรศัพท์ระหว่างสามีของผู้ต้องหากับตำรวจนายหนึ่ง
จากคลิปนายตำรวจโทรศัพท์มาถามว่า "ไปแจ้งความว่าตำรวจกรรโชกทรัพย์เหรอ ถ้าเป็นอย่างนี้จะไม่ช่วยแล้วนะ" ฝั่งสามีของผู้ต้องหาตอบกลับว่า "ผมยอมรับให้พี่ช่วยคุยกับผู้กำกับแล้วนี่" จากนั้นตำรวจระบุว่า ให้ชายคนดังกล่าวไปคุยกับภรรยาให้ดี เดี๋ยวจะมีปัญหาเพราะเคลียร์กันไปแล้ว
ล่าสุด วันที่ 14 สิงหาคม 2561 รายการเรื่องเล่าเช้านี้ รายงานว่า นายวสันต์ จันทรวงศ์ ชายที่คุยกับตำรวจในคลิปเสียง เผยว่าตำรวจไม่ได้กรรโชกทรัพย์ตนและภรรยาตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด พร้อมเล่าว่า เมื่อเดือนพฤษภาคม 2561 ตนพาภรรยาและลูกไปเดินห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง โดยลูกชายวัย 7 ขวบ ได้ไปหยิบโทรศัพท์มือถือที่มีคนวางไว้ในรถเข็น กระทั่งผ่านไป 2 วัน ถึงทราบว่าลูกชายหยิบโทรศัพท์ติดมือมาด้วย จึงพยายามติดต่อเจ้าของโทรศัพท์ โดยให้นายโย คนรู้จักที่ทำงาน สน.บางรัก จ.กรุงเทพมหานคร ประสานตำรวจ สน.บางโทรัด จ.สมุทรสาคร ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุเพื่อนำโทรศัพท์ไปคืน
โดยนายวสันต์กลัวว่าเจ้าของโทรศัพท์จะเรียกค่าเสียหาย จึงเตรียมเงินไว้ 60,000 บาท เพื่อนำไปจ่าย จากนั้นได้มีการนัดคืนโทรศัพท์ที่ สน.บางโทรัด ในวันที่ 6 พฤษภาคม 2561 และได้นำเงินไปจ่ายค่าเสียหาย 20,000 บาท ซึ่งผู้เสียหายไม่ติดใจหรือแจ้งความจับกุมแต่อย่างใด แค่ลงบันทึกประจำวันแล้วนำเงินไปซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่
ด้านนางสาวนิติยา แซ่เจี่ย แม่ของเด็ก ยืนยันว่าตนไม่ใช่ผู้ต้องหา เพราะยังไม่ถูกดำเนินคดี ส่วนคลิปเสียงที่ปรากฏเป็นเรื่องเข้าใจผิด เพราะตามคลิปเสียงเป็นวันที่ตนและสามีไปปรึกษาตำรวจ สน.เพชรเกษม ว่าควรทำอย่างไรเพราะกลัวความผิด เจ้าหน้าที่จึงแนะให้ไปติดต่อโรงพักท้องที่เกิดเหตุ และระหว่างออกจากโรงพักมีนายตำรวจได้โทรศัพท์มาสอบถามตามคลิปปรากฏ ซึ่งไม่รู้ว่าใครนำคลิปเสียงนี้มาเผยแพร่ แต่ยอมรับว่าเป็นเสียงสามีของตนจริง
รายงานข่าวระบุอีกว่า เมื่อเจอตำรวจในคลิปเสียง เจ้าตัวก็ขอไม่พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ ขณะที่ พ.ต.อ. ปัญจพล ชำนาญหมอ ผู้กำกับการ สน.บางโทรัด ยืนยันว่า ตำรวจไม่มีการเรียกรับเงินตามที่ถูกกล่าวหา ย้ำว่าให้สาบานต่อหน้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ได้ ส่วนสามีภรรยาที่มาพบตำรวจไม่มีการเตรียมการใด ๆ และไม่รู้จักกันมาก่อน รวมถึงยังไม่ได้ฟังคลิปเสียง ซึ่งคาดว่าอาจมีการดัดแปลงก็เป็นได้
จากกรณี เฟซบุ๊ก ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้ถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊ก เผยแพร่คลิปเสียงความยาว 1.43 นาที ที่อ้างว่าเป็นเสียงของตำรวจ สภ.บางโทรัด จ.สมุทรสาคร จากคลิปเสียงดังกล่าวมีการกรรโชกทรัพย์ผู้ต้องหาในคดีลักทรัพย์ โดยเป็นการคุยโทรศัพท์ระหว่างสามีของผู้ต้องหากับตำรวจนายหนึ่ง
จากคลิปนายตำรวจโทรศัพท์มาถามว่า "ไปแจ้งความว่าตำรวจกรรโชกทรัพย์เหรอ ถ้าเป็นอย่างนี้จะไม่ช่วยแล้วนะ" ฝั่งสามีของผู้ต้องหาตอบกลับว่า "ผมยอมรับให้พี่ช่วยคุยกับผู้กำกับแล้วนี่" จากนั้นตำรวจระบุว่า ให้ชายคนดังกล่าวไปคุยกับภรรยาให้ดี เดี๋ยวจะมีปัญหาเพราะเคลียร์กันไปแล้ว
ล่าสุด วันที่ 14 สิงหาคม 2561 รายการเรื่องเล่าเช้านี้ รายงานว่า นายวสันต์ จันทรวงศ์ ชายที่คุยกับตำรวจในคลิปเสียง เผยว่าตำรวจไม่ได้กรรโชกทรัพย์ตนและภรรยาตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด พร้อมเล่าว่า เมื่อเดือนพฤษภาคม 2561 ตนพาภรรยาและลูกไปเดินห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง โดยลูกชายวัย 7 ขวบ ได้ไปหยิบโทรศัพท์มือถือที่มีคนวางไว้ในรถเข็น กระทั่งผ่านไป 2 วัน ถึงทราบว่าลูกชายหยิบโทรศัพท์ติดมือมาด้วย จึงพยายามติดต่อเจ้าของโทรศัพท์ โดยให้นายโย คนรู้จักที่ทำงาน สน.บางรัก จ.กรุงเทพมหานคร ประสานตำรวจ สน.บางโทรัด จ.สมุทรสาคร ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุเพื่อนำโทรศัพท์ไปคืน
โดยนายวสันต์กลัวว่าเจ้าของโทรศัพท์จะเรียกค่าเสียหาย จึงเตรียมเงินไว้ 60,000 บาท เพื่อนำไปจ่าย จากนั้นได้มีการนัดคืนโทรศัพท์ที่ สน.บางโทรัด ในวันที่ 6 พฤษภาคม 2561 และได้นำเงินไปจ่ายค่าเสียหาย 20,000 บาท ซึ่งผู้เสียหายไม่ติดใจหรือแจ้งความจับกุมแต่อย่างใด แค่ลงบันทึกประจำวันแล้วนำเงินไปซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่
ด้านนางสาวนิติยา แซ่เจี่ย แม่ของเด็ก ยืนยันว่าตนไม่ใช่ผู้ต้องหา เพราะยังไม่ถูกดำเนินคดี ส่วนคลิปเสียงที่ปรากฏเป็นเรื่องเข้าใจผิด เพราะตามคลิปเสียงเป็นวันที่ตนและสามีไปปรึกษาตำรวจ สน.เพชรเกษม ว่าควรทำอย่างไรเพราะกลัวความผิด เจ้าหน้าที่จึงแนะให้ไปติดต่อโรงพักท้องที่เกิดเหตุ และระหว่างออกจากโรงพักมีนายตำรวจได้โทรศัพท์มาสอบถามตามคลิปปรากฏ ซึ่งไม่รู้ว่าใครนำคลิปเสียงนี้มาเผยแพร่ แต่ยอมรับว่าเป็นเสียงสามีของตนจริง
รายงานข่าวระบุอีกว่า เมื่อเจอตำรวจในคลิปเสียง เจ้าตัวก็ขอไม่พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ ขณะที่ พ.ต.อ. ปัญจพล ชำนาญหมอ ผู้กำกับการ สน.บางโทรัด ยืนยันว่า ตำรวจไม่มีการเรียกรับเงินตามที่ถูกกล่าวหา ย้ำว่าให้สาบานต่อหน้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ได้ ส่วนสามีภรรยาที่มาพบตำรวจไม่มีการเตรียมการใด ๆ และไม่รู้จักกันมาก่อน รวมถึงยังไม่ได้ฟังคลิปเสียง ซึ่งคาดว่าอาจมีการดัดแปลงก็เป็นได้
ทั้งนี้ ยังไม่มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงหรือเอาผิดทางวินัย เพราะสองสามีภรรยายืนยันด้วยความบริสุทธิ์ใจว่าตำรวจไม่ได้มีการเรียกรับทรัพย์สิน
