เหยื่อโจร 2 ผัวเมียปรากฏตัว กับความแสบระดับพระกาฬ ถึงขนาดสามารถโทรศัพท์ไปหลอกธนาคาร เพื่อเปลี่ยนรหัสบัตร ATM เอาไปกดเงินออกมานับแสน
เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2561 รายการทุบโต๊ะข่าว ยังคงเกาะติดกรณีโจร 2 ผัวเมียคือ นายอภิชาติ บุญเรือง อายุ 42 ปี และนางฑิญาตา บุญเรือง อายุ 38 ปี สามีภรรยา ที่มีพฤติกรรมลักทรัพย์ และมีคนเป็นเหยื่อจำนวนมาก ซึ่งเมื่อตำรวจค้นบ้านก็ได้ทรัพย์สินไปนับร้อยรายการ และตอนนี้อยู่ระหว่างการนำตัวทั้งสองคนมาดำเนินคดี ซึ่งตอนนี้ตำรวจเองยังไม่ทราบว่าทั้งสองคนหลบหนีอยู่ที่ใด มีเพียงข่าวที่บอกว่าทั้งสองคนปรากฏตัวที่กาสิโนในกัมพูชา ซึ่งต้องมีการตรวจสอบอีกครั้ง
ส่วนของกลางที่อยู่ที่ สภ.ปทุมธานี นั้น มักจะเป็นของที่ขายไม่ค่อยได้ เช่น กระเป๋าสตางค์ พระเครื่อง นาฬิกาข้อมือ โทรศัพท์มือถือ 37 เครื่อง ส่วนเงิน ทอง กระเป๋าแบรนด์เนม คาดว่าคนร้ายน่าจะเปลี่ยนเป็นเงินสดหมดแล้ว
ด้านนางสำลี อุดปัญญาโรจน์ หนึ่งในเหยื่อของโจร กล่าวว่า ตนเองเปิดร้านขายยา เมื่อประมาณวันที่ 3 สิงหาคม 2561 เวลา 12.15 น. ได้มีผู้หญิงคนหนึ่งขับรถมาจอดหน้าร้าน และซื้อยาปกติ จากนั้นประมาณ 10 นาที ก็มีผู้ชายคนหนึ่งเดินอุ้มสุนัขเข้ามาในร้าน สั่งชุดทำแผลเพื่อสำรองไว้ใช้ 1 เดือน และยาต่าง ๆ อีกมากมาย ในรายการสินค้า และในระหว่างที่ตนเผลอหันหลังนั้น คนร้ายก็ได้ขโมยกระเป๋าที่มีเงินสด 3,000 บาท แหวนทองคำ 1 บาท มูลค่าประมาณ 18,000 บาท และโทรศัพท์มือถือ รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 40,000 บาท
นอกจากนี้ น.ส.ดรุณี หอมดอกไม้ และนายต้อม อินทร์ศิริ เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยว เหยื่ออีกรายของโจร 2 ผัวเมีย กล่าวว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 2 กันยายน 2558 ตนเปิดร้านขายของชำ ซึ่งวันเกิดเหตุนั้น มีรถเก๋งสีดำลงมาจอดหน้าร้านของตน มีผู้หญิงเดินเข้ามาในร้าน มองของแต่ไม่ซื้อ แล้วเดินออกไป จากนั้น รถคันเดิมก็ขับกลับมา แต่มาทางท้ายซอย มีผู้ชายเดินเข้ามาในร้าน อุ้มลูกสาวมาด้วยประมาณ 2 ขวบ มีผ้าอ้อมเด็กพาดไหล่ และพูดว่า อากาศร้อนจัง ตนจึงไปเอาพัดลมมาเปิดให้ จากนั้นชายคนดังกล่าวก็ไปยังตู้แช่หลังร้าน ตนจึงเข้าไปถามว่ารับอะไรดีคะ เขาจึงสั่งน้ำหลายอย่างประมาณ 20 ขวด ก่อนที่ชายคนนั้นจะบอกว่าเดี๋ยวมาเอาน้ำที่สั่งไว้ แล้วหายไป
จากนั้น ตนจะเดินไปหยิบโทรศัพท์ แต่ปรากฏว่าโทรศัพท์หายไปแล้ว กุญแจรถตกที่พื้น และชายคนนั้นได้หยิบกระเป๋าไป ตนมีเงินสด 13,000 บาท บัตรเอทีเอ็ม บัตรเครดิต บัตรประชาชน โทรศัพท์มือถือ ตนจึงโทร. ไปอายัดบัตรกับธนาคาร แต่ธนาคารบอกว่า ก่อนหน้านี้มีคนโทร. เข้ามาขอเปลี่ยนรหัสบัตร ATM ขอเปลี่ยนวงเงินถอนจาก 20,000 เป็น 200,000 และกดเงินสดออกจากบัตร 125,000 บาท ทั้งที่ตนเพิ่งได้เงินจำนวนนั้นมาก่อนหน้า 1 วัน
นอกจากนี้ คนร้ายยังเอาบัตรเครดิตของตนไปซื้อรูดเพื่อซื้อแอร์ 18,000 บาท ทั้งที่ตนไม่ใช่บัตรเครดิต คนร้ายเองได้ทรัพย์สินไปทั้งหมดกว่า 156,000 และตนยังต้องใช้ธนาคารเป็นรายเดือนอีก 500-700 บาท
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2561 รายการทุบโต๊ะข่าว ยังคงเกาะติดกรณีโจร 2 ผัวเมียคือ นายอภิชาติ บุญเรือง อายุ 42 ปี และนางฑิญาตา บุญเรือง อายุ 38 ปี สามีภรรยา ที่มีพฤติกรรมลักทรัพย์ และมีคนเป็นเหยื่อจำนวนมาก ซึ่งเมื่อตำรวจค้นบ้านก็ได้ทรัพย์สินไปนับร้อยรายการ และตอนนี้อยู่ระหว่างการนำตัวทั้งสองคนมาดำเนินคดี ซึ่งตอนนี้ตำรวจเองยังไม่ทราบว่าทั้งสองคนหลบหนีอยู่ที่ใด มีเพียงข่าวที่บอกว่าทั้งสองคนปรากฏตัวที่กาสิโนในกัมพูชา ซึ่งต้องมีการตรวจสอบอีกครั้ง
ส่วนของกลางที่อยู่ที่ สภ.ปทุมธานี นั้น มักจะเป็นของที่ขายไม่ค่อยได้ เช่น กระเป๋าสตางค์ พระเครื่อง นาฬิกาข้อมือ โทรศัพท์มือถือ 37 เครื่อง ส่วนเงิน ทอง กระเป๋าแบรนด์เนม คาดว่าคนร้ายน่าจะเปลี่ยนเป็นเงินสดหมดแล้ว
ด้านนางสำลี อุดปัญญาโรจน์ หนึ่งในเหยื่อของโจร กล่าวว่า ตนเองเปิดร้านขายยา เมื่อประมาณวันที่ 3 สิงหาคม 2561 เวลา 12.15 น. ได้มีผู้หญิงคนหนึ่งขับรถมาจอดหน้าร้าน และซื้อยาปกติ จากนั้นประมาณ 10 นาที ก็มีผู้ชายคนหนึ่งเดินอุ้มสุนัขเข้ามาในร้าน สั่งชุดทำแผลเพื่อสำรองไว้ใช้ 1 เดือน และยาต่าง ๆ อีกมากมาย ในรายการสินค้า และในระหว่างที่ตนเผลอหันหลังนั้น คนร้ายก็ได้ขโมยกระเป๋าที่มีเงินสด 3,000 บาท แหวนทองคำ 1 บาท มูลค่าประมาณ 18,000 บาท และโทรศัพท์มือถือ รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 40,000 บาท
นอกจากนี้ น.ส.ดรุณี หอมดอกไม้ และนายต้อม อินทร์ศิริ เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยว เหยื่ออีกรายของโจร 2 ผัวเมีย กล่าวว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 2 กันยายน 2558 ตนเปิดร้านขายของชำ ซึ่งวันเกิดเหตุนั้น มีรถเก๋งสีดำลงมาจอดหน้าร้านของตน มีผู้หญิงเดินเข้ามาในร้าน มองของแต่ไม่ซื้อ แล้วเดินออกไป จากนั้น รถคันเดิมก็ขับกลับมา แต่มาทางท้ายซอย มีผู้ชายเดินเข้ามาในร้าน อุ้มลูกสาวมาด้วยประมาณ 2 ขวบ มีผ้าอ้อมเด็กพาดไหล่ และพูดว่า อากาศร้อนจัง ตนจึงไปเอาพัดลมมาเปิดให้ จากนั้นชายคนดังกล่าวก็ไปยังตู้แช่หลังร้าน ตนจึงเข้าไปถามว่ารับอะไรดีคะ เขาจึงสั่งน้ำหลายอย่างประมาณ 20 ขวด ก่อนที่ชายคนนั้นจะบอกว่าเดี๋ยวมาเอาน้ำที่สั่งไว้ แล้วหายไป
จากนั้น ตนจะเดินไปหยิบโทรศัพท์ แต่ปรากฏว่าโทรศัพท์หายไปแล้ว กุญแจรถตกที่พื้น และชายคนนั้นได้หยิบกระเป๋าไป ตนมีเงินสด 13,000 บาท บัตรเอทีเอ็ม บัตรเครดิต บัตรประชาชน โทรศัพท์มือถือ ตนจึงโทร. ไปอายัดบัตรกับธนาคาร แต่ธนาคารบอกว่า ก่อนหน้านี้มีคนโทร. เข้ามาขอเปลี่ยนรหัสบัตร ATM ขอเปลี่ยนวงเงินถอนจาก 20,000 เป็น 200,000 และกดเงินสดออกจากบัตร 125,000 บาท ทั้งที่ตนเพิ่งได้เงินจำนวนนั้นมาก่อนหน้า 1 วัน
นอกจากนี้ คนร้ายยังเอาบัตรเครดิตของตนไปซื้อรูดเพื่อซื้อแอร์ 18,000 บาท ทั้งที่ตนไม่ใช่บัตรเครดิต คนร้ายเองได้ทรัพย์สินไปทั้งหมดกว่า 156,000 และตนยังต้องใช้ธนาคารเป็นรายเดือนอีก 500-700 บาท
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
